โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ไทยร้อง ‘UN-ประธานอนุสัญญาออตตาวา’ จี้จัดการ ‘กัมพูชา’ ดื้อใช้ทุ่นระเบิด

เดลินิวส์

อัพเดต 11 สิงหาคม 2568 เวลา 3.56 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
กต.ร้องเลขาธิการยูเอ็นและประธานอนุสัญญาออตตาวา จี้จัดการ‘กัมพูชา’ยังใช้ทุ่นระเบิดใหม่ ทำทหารไทยบาดเจ็บสาหัส 11 นาย ชี้เขมรเมินข้อตกลงเก็บกู้ระเบิด-ฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศร้ายแรง

เมื่อวันที่ 10 ส.ค. กระทรวงการต่างประเทศเผยแพร่คำชี้แจงการดำเนินการของประเทศไทยต่อเหตุการณ์ที่ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด รวม 3 ครั้ง โดยระบุว่า ตามที่เมื่อวันที่ 16, 23 ก.ค. และ 9 ส.ค.2568 กองกำลังทหารไทยรวม 11 นาย ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่วางใหม่โดยกองกำลังทหารกัมพูชาในบริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี และช่องโดนเอาว์-กฤษณา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ตามลำดับนั้น กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการภายใต้กรอบอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Anti-Personnel Mine Ban Convention: APMBC) หรืออนุสัญญาออตตาวา (Ottawa Convention) เพื่อตอบโต้กัมพูชา ดังนี้

1.เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา สหพันธรัฐสวิส มีหนังสือถึงประธานการประชุมรัฐภาคีของอนุสัญญาออตตาวา ครั้งที่ 22 จำนวน 3 ฉบับ ดังนี้ หนังสือฉบับแรก ลงวันที่ 23 ก.ค.2568) ไทยร้องเรียนกัมพูชาละเมิดพันธกรณีข้อ 1 ของอนุสัญญาฯ (ห้ามใช้หรือสะสมทุ่นระเบิดสังหารบุคคล) ที่บริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานีที่เป็นเส้นทางลาดตระเวนปกติของทหารไทย ซึ่งผลการตรวจสอบโดยหน่วยงานด้านความมั่นคงของไทยพบว่าทุ่นระเบิดที่ทหารไทยเหยียบเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางใหม่ และเป็นทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ซึ่งกัมพูชาครอบครอง ดังนั้น ฝ่ายไทยขอให้ประธานอนุสัญญาฯ เวียนหนังสือแจ้งรัฐภาคีอื่นๆ เพื่อทราบต่อการละเมิดอนุสัญญาฯ ของฝ่ายกัมพูชา

หนังสือฉบับที่ 2 ลงวันที่ 24 ก.ค.2568 ไทยร้องเรียนกัมพูชาละเมิดพันธกรณีของอนุสัญญาฯ ที่บริเวณช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี และแจ้งว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ค.2568 เวลา 20.00 น. กัมพูชาได้กระทำการรุกรานอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย โดยได้โจมตีมายังฝั่งไทยอย่างไม่แยกแยะระหว่างพลรบและพลเรือน ซึ่งส่งผลกระทบทางมนุษยธรรมและขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ รวมทั้งกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และขอให้ประธานอนุสัญญาฯ เวียนหนังสือถึงรัฐภาคีอื่นๆ เพื่อทราบต่อการละเมิดอนุสัญญาฯ ของฝ่ายกัมพูชา

หนังสือฉบับที่ 3 ลงวันที่ 9 ส.ค.2568 ไทยร้องเรียนการละเมิดพันธกรณีของกัมพูชาในพื้นที่บริเวณช่องโดนเอาว์-กฤษณา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้เก็บกู้ทุ่นระเบิดแล้ว และจากการตรวจสอบหลักฐานพบว่าเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นเพียง 2 วันหลังจากการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (จีบีซี) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งในการประชุมดังกล่าว ฝ่ายไทยได้เสนอให้ไทยและกัมพูชาเก็บกู้ทุ่นระเบิดร่วมกันตามที่นายกรัฐมนตรีของทั้ง 2 ประเทศตกลงกันไว้ แต่ฝ่ายกัมพูชาปฏิเสธ ไทยจึงขอให้ประธานอนุสัญญาฯ เวียนหนังสือแจ้งรัฐภาคีอื่น ๆ เพื่อทราบต่อการละเมิดอนุสัญญาฯ ของฝ่ายกัมพูชา

2.เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา มีหนังสือลงวันที่ 24 ก.ค.2568 ถึงเลขาธิการสหประชาชาติ เพื่อขอรับความชัดเจนจากฝ่ายกัมพูชาต่อการกระทำที่เป็นการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งเป็นการดำเนินการตามกระบวนการการเรียกร้องให้รัฐภาคีปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาออตาวา ตามข้อ 8 วรรค 2 ของอนุสัญญาฯ ซึ่งระบุว่ารัฐภาคีสามารถขอความชัดเจน และขอให้แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพันธกรณีของอนุสัญญาฯ ของอีกรัฐสมาชิกหนึ่งผ่านเลขาธิการสหประชาชาติ โดยกัมพูชามีพันธกรณีที่จะต้องส่งข้อมูลและคำชี้แจงต่อฝ่ายไทยผ่านเลขาธิการสหประชาชาติ

นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา และเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ได้เข้าพบประธานการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ครั้งที่ 22 และเลขาธิการสหประชาชาติ รวมถึงผู้แทนระดับสูงของรัฐภาคีต่างๆ ของอนุสัญญาฯ ตลอดจนองค์กรภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอให้ดำเนินการต่อการละเมิดพันธกรณีของกัมพูชา และชี้แจงข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมการการปฏิบัติตามอนุสัญญาฯ ของกรอบอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่และขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง

สำหรับอนุสัญญาออตตาวา ห้ามรัฐภาคีใช้ สะสม ผลิต หรือเคลื่อนย้าย ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล รวมทั้งให้ทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคลตามที่ระบุในอนุสัญญาฯ โดยปัจจุบันมีสมาชิก 165 ประเทศ ซึ่งไทยเข้าเป็นภาคีในปี 2542 (เป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) และได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังอาวุธหมดสิ้นเมื่อปี 2546 และทำลายทุ่นระเบิดส่วนที่เก็บไว้เพื่อการวิจัยและอบรมหมดสิ้นในปี 2562 ขณะที่กัมพูชาเข้าเป็นภาคีในปี 2543 และยังคงมีทุ่นระเบิดที่เก็บไว้สำหรับการวิจัยและอบรม รวมถึงทุ่นระเบิดประเภท PMN-2

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

ให้การไม่ตรงทางกัน? ตำรวจทางหลวง รวบคนไทย ลอบขน 9 แรงงานเขมร

42 นาทีที่แล้ว

ผบก.ป. เรียกคณะทำงานคดี ‘หมอบี-วัดพระบาทน้ำพุ’ ประชุมวางกรอบเชิงรุก

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“เวียดนาม” พลิกเชือด “ไทย” คว้าแชมป์ซีวี ลีก ครั้งแรกในประวัติศาสตร์!

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

แซ่บตาพร่า! “พิม พิมประภา” จัดหนักเบบี้เซ็กซี่ โชว์น้อยแต่โชว์นะ

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม

‘ทักษิณ’ ร่วมงานวันเกิดแม่ ‘พิชัย นริพทะพันธุ์’ อายุครบ 88 ปี

เดลินิวส์

‘สาว 19’ มือสาดนํ้ากรดย่องมอบตัว อ้างแค้นพาแฟนใหม่มาเย้ยถึงที่

เดลินิวส์

“เอื้อย พรสวรรค์” สวยแซ่บราวลงมาจากสวรรค์ อวดผิวเนียนหุ่นน่าชมจนต้องหลงรักและกดไลก์

เดลินิวส์
ดูเพิ่ม