‘กรมป้องกันบรรเทาสาธรณภัย’ ยังประสานให้ความช่วยเหลือ สนับสนุนซ่อมแซมบ้านเรือนที่พังเสียหาย
เมื่อวันที่ 10 ส.ค. นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ปภ.ได้ติดตามสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยตั้งแต่เกิดสถานการณ์ได้มีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ในพื้นที่ 7 จังหวัด รวม 45 อำเภอ 336 ตำบล 4,081 หมู่บ้าน (จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และ จ.ตราด) มีพลเรือนเสียชีวิต 18 ราย ได้รับบาดเจ็บ 39 ราย ปัจจุบันยังมีการจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่ 2 จังหวัด (จ.ศรีสะเกษ และบุรีรัมย์) รวม 15 แห่ง ผู้อพยพ 1,031 คน
โดย ปภ.ได้ให้การสนับสนุน ประสานอำนวยความสะดวก การให้ความช่วยเหลือ การรื้อถอน การอพยพกลับ และเยียวยาผู้ประสบภัย ซึ่งได้มอบหมายให้ศูนย์ ปภ.เขตที่รับผิดชอบพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ ศูนย์ปภ.เขต 5 นครราชสีมา เขต 13 อุบลราชธานี รวมถึงศูนย์ ปภ. ที่อยู่นอกเขตพื้นที่รับผิดชอบ ได้แก่ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 7 สกลนคร สนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัย รวมทั้งสิ้น 73 คัน และได้อำนวยความสะดวกให้กับผู้อพยพ ประชาชน รวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และเพื่อป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งเป็นผลจากภัยความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งได้กระจายกำลัง เครื่องจักรกลสาธารณภัย เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
นอกจากนี้ ศูนย์ ปภ. เขต 13 อุบลราชธานี และสำนักงาน ปภ.อุบลราชธานี ได้สนับสนุนการซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย และบูรณาการเครื่องจักรกลสาธารณภัย ในการรื้อถอนอาคารที่พังเสียหายโดยเร็ว เพื่อเร่งสร้างบ้านหลังใหม่ให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติสุขโดยเร็ว พร้อมทั้งประสานการสนับสนุนรถประกอบอาหาร สิ่งของบริจาค ประสานการปฏิบัติงาน รับส่งสิ่งของบริจาค การอพยพประชาชนกลับภูมิลำเนา บริการน้ำดื่มสะอาด รื้อถอนซากบ้านเรือนที่ถูกระเบิด พร้อมกำชับจังหวัดเร่งเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาประชาชน และประสานส่วนอื่นๆที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งช่วยเหลือเยียวยาอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ ทีมปฏิบัติการของ ปภ. ยังคงกระจายกำลังให้การดูแล ช่วยเหลือ อำนวยความสะดวก และอพยพประชาชนในพื้นที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและปลอดภัย เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว