PJW กำไร Q2 โตโดด 132% ยานยนต์-บรรจุภัณฑ์แรง

หุ้นวิชั่น - PJW โชว์ผลงานไตรมาส 2/68 ร้อนแรง! กำไรสุทธิพุ่งทะยานแตะ 37.1 ล้านบาท โตโดด 132.6% จากปีก่อน รับอานิสงส์ยอดขายชิ้นส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์-ยานยนต์พ่นสีบูมต่อเนื่อง พร้อมแรงหนุนบรรจุภัณฑ์นม-นมเปรี้ยว และสินค้าอุปโภคบริโภคโตโดดเด่น หนุนอัตรากำไรขั้นต้น-สุทธิขยับขึ้นชัด ด้านผลงานครึ่งปีแรกทำสถิติแรงไม่แพ้กัน กำไรพุ่งแตะ 92.5 ล้านบาท โตสนั่น 53.9% สะท้อนศักยภาพธุรกิจขยายตัวแข็งแกร่งทุกเซกเมนต์

ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน) หรือ PJW แจ้งผลประกอบการไตรมาส 2/2568 ว่า บริษัทและบริษัทย่อมีกำไรสุทธิสำหรับงวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 รวมเท่ากับ 37.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.1 ล้านบาท หรือร้อยละ 132.6 เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจาก

รายได้รวมเพิ่มขึ้น 46.4 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 5.3 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักมาจากยอดขายในส่วนงานชิ้นส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์และยานยนต์พ่นสีที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากงานนิวโมเดลและคำสั่งซื้อจากลูกค้าที่เพิ่มขึ้น โดยในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน บริษัทได้รับผลกระทบจากการปรับแผนสั่งซื้อลดลงสืบเนื่องจากอุปสงค์ในประเทศที่ลดลง นอกจากนี้ ในส่วนของบรรจุภัณฑ์กลุ่มอุตสาหกรรมนมและนมเปรี้ยว และบรรจุภัณฑ์กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อน ขณะที่บรรจุภัณฑ์กลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันหล่อลื่นปรับตัวลดลงเล็กน้อย ส่วนของรายได้จากการบริการซักผ้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น เนื่องจากการขยายฐานลูกค้า

อัตรากำไรขั้นต้นรวมเท่ากับร้อยละ 18.8 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ร้อยละ 16.3 มาจากรายได้ในภาพรวมที่ปรับตัวสูงขึ้น

อัตรากำไรสุทธิรวมเท่ากับร้อยละ 4.0 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่อัตรากำไรสุทธิรวมร้อยละ 1.8 เนื่องจากกำไรขั้นต้นที่สูงขึ้นตามที่กล่าวมา

ขณะที่บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิสำหรับงวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 รวมเท่ากับ 92.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.4 ล้านบาท หรือร้อยละ 53.9 เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากรายได้รวมเพิ่มขึ้น 112.1 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 6.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักมาจากยอดขายในส่วนงานชิ้นส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์และยานยนต์พ่นสีที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากงานนิวโมเดลและคำสั่งซื้อจากลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ในช่วงประมาณไตรมาส 2 ของปีก่อน บริษัทได้รับผลกระทบจากการปรับแผนสั่งซื้อลดลง สืบเนื่องจากอุปสงค์ในประเทศที่ลดลง นอกจากนี้ ในส่วนของยอดขายบรรจุภัณฑ์ ทั้งในกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันหล่อลื่น กลุ่มอุตสาหกรรมนมและนมเปรี้ยว และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อน ส่วนรายได้จากการบริการซักผ้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น เนื่องจากการขยายฐานลูกค้า

อัตรากำไรขั้นต้นรวมเท่ากับร้อยละ 19.1 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ร้อยละ 17.6 มาจากรายได้รวมที่ปรับตัวสูงขึ้น

อัตรากำไรสุทธิรวมเท่ากับร้อยละ 4.8 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อัตรากำไรสุทธิรวมร้อยละ 3.3 เนื่องจากกำไรขั้นต้นที่สูงขึ้นตามที่กล่าวมา