โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

จากล็อบบี้ถึงชั้นกาสิโน อินไซต์จากมาเก๊า ที่ไทยต้องรู้!ก่อนสร้าง“เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”

Thairath Money

อัพเดต 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 22 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ภาพไฮไลต์

ทีมข่าว Thairath Money ลงพื้นที่มาเก๊า ร่วม Media Familiarization Trip สำรวจหนึ่งในศูนย์กลางการท่องเที่ยวระดับโลก ที่กำลังกลายเป็นต้นแบบโมเดล “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ที่ครบวงจรที่สุดแห่งเอเชีย สิ่งที่สัมผัสได้ชัดเจนคือ การพนันในมาเก๊าไม่ได้เป็นแกนหลักของการท่องเที่ยวทั้งหมด แต่เป็นเพียงส่วนเล็กของระบบเศรษฐกิจท่องเที่ยวที่ซับซ้อน หลากหลาย และมีมูลค่ามหาศาลอย่างตื่นตาตื่นใจ

ท่ามกลาง ประเทศไทยเอง กำลังอยู่ในช่วงตัดสินใจครั้งสำคัญว่า เราควรเดินหน้าพัฒนาเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือไม่ ด้วยประเด็นทางสังคมและวัฒนธรรมที่ต้องใช้เวลาในการถกเถียง และ ทำความเข้าใจกับประชาชนอย่างรอบด้าน เรื่อยไปจนถึง การออกแบบระบบผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการพัฒนา อย่างโปร่งใส ให้ผลลัพธ์ ออกมาเป็นเชิงบวกกับประเทศไทย มากกว่า “เชิงลบ”

คำถามนี้ จึงไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของการลงทุน หรือการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมที่ประเทศไทยต้องเผชิญในยุคที่โลกท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงรวดเร็วอีกด้วย

มาเก๊า โมเดลท่องเที่ยวครบวงจร

มาเก๊าเป็นอดีตเมืองอาณานิคมโปรตุเกสที่มีพื้นที่เพียง 33 ตารางกิโลเมตร มีประชากร 600,000 คน แต่วันนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวระดับโลก ด้วยจำนวนผู้เยี่ยมเยือนกว่า 35 ล้านคนต่อปี เมื่อ ปี 2024 (ซึ่งมากกว่าจำนวนผู้เยี่ยมชมทั่วประเทศของไทยในปีเดียวกัน ) และมีชื่อเสียงในฐานะเมืองรีสอร์ทหรูครบวงจรที่เน้นทั้งความบันเทิง กีฬา วัฒนธรรม ศิลปะ และกิจกรรมไมซ์ (MICE) ที่สำคัญ

ข้อมูลอินไซต์จากการลงพื้นที่ พบว่านอกจาก “มาเก๊า” จะมีรายได้จากกาสิโนรวมกว่า 23,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ยังมีรายได้จากการท่องเที่ยวที่ไม่ใช่จากกาสิโน 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ภาพรวมนี้ คงจะพอสะท้อนให้เห็นได้ว่า มาเก๊าไม่ได้พึ่งพาการพนันเป็นหลักอีกต่อไป แต่กำลังผสมผสานหลายองค์ประกอบ เพื่อสร้างเมืองที่เป็นมากกว่ากาสิโน จนนำมาสู่ข้อสงสัย ว่า หรือนี่จะเป็นโมเดล “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ที่โลกกำลังพูดถึง และอาจเป็นบทเรียนสำคัญที่ประเทศไทยต้องพิจารณาในช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่ ยังไม่เข้าใจว่า “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” คืออะไรกันแน่? และเราควรทำ หรือไม่ควรทำ?

หนึ่งในตัวอย่างสำคัญของโมเดลธุรกิจ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ คือ Galaxy Macau รีสอร์ทหรูครบวงจรชั้นนำเบอร์ 1 ของโลกในแง่รายได้และกำไรสุทธิ (หลังหักภาษีเข้ารัฐบาลจีน 40%) ที่ถูกก่อตั้งโดย Francis Lui และเปิดให้บริการครั้งแรกในปี 2011 ผ่านการวางหมากพื้นที่ไว้อย่างเยิบยล จนน่าศึกษาเป็นกรณีตัวอย่าง

ภาพโต๊ะกาสิโน ที่เต็มไปด้วยผู้เล่นและชิปวางเรียงสูง ถูกลบไปด้วย ล็อบบี้โรงแรมขนาด ใหญ่ ถนนช็อปปิ้งแบรนด์เนม, สปา, โซนอาหารนานาชาติ, สระว่ายน้ำขนาดเท่าสนามฟุตบอล, และเวทีโชว์ระดับโลก

ส่งผลให้ตั้งแต่เช้า จรดค่ำ คราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวกลุ่มต่างๆ ที่เดินทางเข้ามาไม่ขาดสาย และแม้จะมีกาสิโนระดับพรีเมียมเป็น “ไข่แดง” อยู่ตรงกลาง แต่สิ่งที่รายล้อม กลับกินพื้นที่ และดึงความสนใจได้มากกว่านั้น จนทำให้ Galaxy Macau รีสอร์ทขนาดมหึมาในมาเก๊า ดูเหมือนจะเป็นมากกว่ากาสิโนในความเข้าใจ แต่คือโมเดลการสร้างเมืองเล็กๆ ที่ไม่เคยหลับใหล

เจาะองค์ประกอบภายใน โปรเจ็กต์เฟสแรก ประกอบด้วยโรงแรมระดับเอเชียชื่อดังถึง 3 แห่ง คือ Banyan Tree Macau, Galaxy Hotel™ และ Hotel Okura Macau และหลังจากขยายเฟส 2 ในปี 2015 Galaxy Macau เพิ่มพื้นที่เป็นกว่า 1.1 ล้านตารางเมตร พร้อมโรงแรมอีก 3 แห่ง ได้แก่ JW Marriott Macau, The Ritz-Carlton Macau และ Broadway Hotel นอกจากนี้ ยังมีองค์ประกอบอื่นๆ ที่เติมเต็มให้ภาพของคำว่า “ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ชัดเจนขึ้น

โซนแกรนด์รีสอร์ทเด็ค (75,000 ตร.ม.)

  • Skytop Adventure Rapids – สไลเดอร์น้ำวนกลางแจ้งที่ยาวที่สุดในโลก
  • สระว่ายน้ำทรงคลื่นชั้นดาดฟ้า ขนาดใหญ่ที่สุด (575 เมตร)
  • ชายหาดทรายขาวเทียม ความยาว 150 เมตร

โซนอาหารและเครื่องดื่ม

  • ห้องอาหารกว่า 120 แห่ง

  • ครอบคลุมตั้งแต่ร้าน มิชลินสตาร์ ไปจนถึง

  • อาหารจีนประจำจังหวัด 18 แห่ง

    • อาหารนานาชาติ 13 ประเภท

โซนช้อปปิ้งและไลฟ์สไตล์

  • Galaxy Promenade – ศูนย์การค้าหรูขนาด 100,000 ตร.ม.
  • รวมแบรนด์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ระดับโลกกว่า 200 แบรนด์

เรียกได้ว่า ทุกอย่างออกแบบให้คนอยากอยู่นาน ใช้จ่ายเยอะ และกลับมาอีก โดยโปรเจ็กต์ยักษ์นี้ อยู่ภายใต้การดำเนินงาน ของ Galaxy Entertainment Group (GEG) กลุ่มบริษัทนี้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง และเป็นส่วนหนึ่งของ Hang Seng Index หนึ่งในสามผู้รับสัมปทานดั้งเดิมในมาเก๊ามาอย่างยาวนาน

ซึ่งนอกจาก GEG กำลังวางแผนขยายธุรกิจให้ใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในพื้นที่โคไท และเกรทเตอร์เบย์แอเรีย รวมถึงลงทุนกับรีสอร์ทหรูระดับโลกในโมนาโก ยังเป็น 1 ในกลุ่มทุนใหญ่ ที่เข้ามาเปิดสำนักงานในกรุงเทพฯ และ ศึกษาโอกาสของธุรกิจในประเทศอย่างจริงจัง ภายใต้การนำของ “เควิน เคลย์ตัน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายแบรนด์ กาเล็กซี รีสอร์ต ประเทศไทย อีกด้วย

เอเชียแปซิฟิก แย่งชิงนักท่องเที่ยวพรีเมียม ไทยจะทันหรือไม่?

เมื่อโลกท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ต้องบอกว่า สิ่งที่เราเห็นในมาเก๊าไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่สะท้อนภาพใหญ่ของภูมิทัศน์การท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญอย่างมาก

“เควิน เคลย์ตัน” ได้สะท้อนมุมมองที่น่าสนใจ ต่อทีมข่าวว่า ปัจจุบัน นักเดินทางยุคใหม่ ไม่ได้แค่มองหาการพักผ่อนหย่อนใจอีกต่อไป แต่แสวงหาประสบการณ์ที่มีคุณค่าและน่าจดจำระหว่างการเดินทาง โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีความมั่งคั่งสูง (HNWIs) และชนชั้นกลางที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดในภูมิภาคนี้

รายงานล่าสุดเผยว่า 72% ของนักท่องเที่ยวกลุ่ม HNWI มีแนวโน้มจะเพิ่มการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวแบบลักชัวรีในปี 2025 โดยเน้นการเดินทางระยะสั้นแต่มีความถี่สูงขึ้น จุดหมายปลายทางหลักยังคงอยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ไม่เพียงเท่านั้น การขยายตัวของชนชั้นกลางจีนยังเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ กระตุ้นการบริโภคสินค้าหรูหราในต่างประเทศถึง 47% และ 68% ของกลุ่มนี้มีแผนเดินทางเยือนจุดหมายในเอเชียแปซิฟิกเช่นกัน

ข้อมูลเหล่านี้ไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่เป็นสัญญาณชัดเจนว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยกำลังอยู่จุดเปลี่ยนที่ต้องเข้าใจแรงจูงใจที่ซ่อนอยู่ และต้องปรับกลยุทธ์ เพื่อตอบโจทย์รสนิยมของกลุ่มเป้าหมายศักยภาพสูงเหล่านี้ให้ได้ มากกว่าการขายจุดแข็งเดิม อย่าง แคมเปญ Amazing Thailand ให้ไปสู่ การท่องเที่ยวแบบลักชัวรีและเพื่อการบันเทิง อย่างเร่งด่วน

เพราะสิ่งที่ไทยกำลังเพลี่ยงพล้ำ คือ ข้อมูลที่พบว่า ในปี 2024 ตลาดท่องเที่ยวเอเชียแปซิฟิกกำลังสร้างสถิติใหม่ ญี่ปุ่น มาเลเซีย จีน ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ ต่างทำรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะสิงคโปร์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงกว่า 16.5 ล้านคน พร้อมค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อวันสูงกว่า 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ไม่นับการพนัน) แต่จุดที่น่าเสียดาย คือ “ประเทศไทย” ไม่ได้อยู่ในเทรนด์ขาขึ้นดังกล่าวนั่นเลย

ข้อมูลเหล่านี้ย้ำชัดว่า ตลาดนักท่องเที่ยวมีกำลังซื้อสูง คือหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวนี้ เพราะภาพรวมจากรายงาน Mastercard คาดการณ์ว่าในปี 2025 มูลค่าตลาดท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ (ไม่รวมการพนัน) จะสูงถึง 1.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และจะทะยานสู่ 2.98 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2035

ขณะเดียวกัน 6 ใน 10 อันดับจุดหมายปลายทางเมืองท่องเที่ยวระดับโลกในปี 2024 ล้วนอยู่ในเอเชียแปซิฟิก เช่น โตเกียว โอซาก้า เซี่ยงไฮ้ โซล ปักกิ่ง และสิงคโปร์ และคาดว่าภายในปี 2027 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามายังภูมิภาคนี้ถึง 801 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 692 ล้านคนในปี 2025

คำถามที่น่าสนใจคือ… ประเทศไทยพร้อมหรือยัง ที่จะก้าวเข้าสู่การแข่งขันนี้ด้วยโมเดล “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวพรีเมียมและชนชั้นกลางกำลังสูง หรือเราจะปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไป?

“เทรนด์ท่องเที่ยวโลกเปลี่ยนไป สู่ยุค Man-made Destination”

“เควิน” ผู้บริหารให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หนึ่งในแกนสำคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโลก คือการสร้าง “จุดหมายปลายทางที่มนุษย์ออกแบบ” (Man-made Destination) พื้นที่ซึ่งไม่ได้เกิดจากภูมิประเทศหรือธรรมชาติ แต่ถูกสร้างขึ้นเพื่อมอบประสบการณ์ที่พิเศษเฉพาะตัว และนักท่องเที่ยวยอมจ่ายแพงขึ้น เพื่อแลกกับความรู้สึก “ไม่ซ้ำใคร” ในการเดินทาง

ตัวอย่างชัดเจนคือ Family Entertainment Complex (FEC) — ศูนย์รวมความบันเทิงสำหรับครอบครัว ที่พัฒนาจากคอนเซปต์เดิมซึ่งเคยอยู่ในห้างสรรพสินค้า มาสู่การเป็น “แลนด์มาร์กครบวงจร” ขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นต้นแบบอย่างสิงคโปร์ หรือ มาเก๊า

  • มีเครื่องเล่นและกิจกรรมที่ดึงดูดทุกช่วงวัย
  • จัดกิจกรรมพิเศษ เช่น วันเกิด งานองค์กร หรือเทศกาลเฉพาะธีม
  • ตั้งอยู่ในทำเลเข้าถึงง่าย เช่น ศูนย์การค้าใหญ่ หรือศูนย์กลางคมนาคม

แนวคิดเดียวกันนี้ ถูกต่อยอดสู่รูปแบบที่ใหญ่กว่าอย่าง “รีสอร์ทแบบครบวงจร” (Integrated Resort / Entertainment Complex) ซึ่งกำลังครองสัดส่วนรายได้สูงสุดในตลาดท่องเที่ยวเอเชียแปซิฟิก โดยมีองค์ประกอบครบครันในที่เดียว ได้แก่

  • ที่พักระดับหรู
  • โชว์และการแสดงระดับโลก
  • พื้นที่ช้อปปิ้งไฮเอนด์
  • สปาและเวิลด์คลาสเวลเนส
  • กิจกรรม MICE ศิลปะและวัฒนธรรม
  • และบางแห่งรวมถึงกาสิโนระดับพรีเมียม

ผู้บริหาร Galaxy Macau อธิบายว่า การท่องเที่ยวรูปแบบนี้ไม่ได้ขายเพียง “สถานที่พัก” แต่ขาย “จังหวะของประสบการณ์” ตั้งแต่ก้าวแรกจนวันกลับ และนั่นคือสิ่งที่ทำให้คนอยากอยู่ต่อ ใช้จ่ายมากขึ้น และกลับมาอีก แถมเที่ยวได้ทุกเพศทุกวัยในเวลาเดียวกัน

ไทยแค่เพิ่มแหล่งเที่ยว หรือ ควรสร้างจุดหมายใหม่ทั้งเมือง?

สุดท้าย ประเทศไทยของเราเวลานี้ คงไม่ต่างจากการกำลังยืนอยู่บนทางแยกสำคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโลก ว่า จะเดินต่อด้วยสูตรเดิม ขาย “Amazing Thailand” ในแบบที่เคย หรือก้าวสู่การออกแบบ “จุดหมายปลายทางเต็มรูปแบบ” เพื่อตอบโจทย์นักท่องเที่ยวยุคใหม่ที่มองหาประสบการณ์ครบวงจร?

“สิงคโปร์ เกาหลีใต้ เวียดนาม มาเลเซีย และมาเก๊า ทุกประเทศมีเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์หมดแล้ว วันนี้ไทยกำลังเผชิญความท้าทายว่า เราจะสร้าง Positioning ใหม่ให้ตัวเองอย่างไร ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเราต้องเป็น ‘คาสิโน’ เท่านั้น แต่เราต้องแต่งตัวใหม่ แต่งหน้าใหม่ ก่อนที่โลกจะลืมเรา การท่องเที่ยวแบบหรูหรา เราไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเราทำได้ และคำว่า หรูหรา ไม่ได้จำกัดแค่ความแพง แต่รวมถึงประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกับหัวใจของนักท่องเที่ยวได้จริง”

“เควิน เคลย์ตัน” ชี้ว่า แคมเปญ Amazing Thailand อาจต้องก้าวไปอีกขั้นได้แล้ว หลังจากที่ประเทศเผชิญความท้าทายด้านภาพลักษณ์ความปลอดภัย ทั้งจากสถานการณ์ชายแดน การหลอกลวงทางโทรศัพท์ และเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ปัจจัยเหล่านี้ล้วนกระทบต่อความสนใจของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะตลาดจีน ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่และทรงอิทธิพลที่สุดในภูมิภาค จากการเติบโตของชนชั้นกลางจีนที่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

จนอาจกล่าวได้ว่า วันนี้ไทยกำลังเผชิญความท้าทายว่าเราจะสร้าง Positioning ใหม่ให้ตัวเองอย่างไร ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเราต้องเป็นกาสิโนเพียงอย่างเดียว แต่เราต้องสร้างประสบการณ์หรูหราและเชื่อมโยงกับนักท่องเที่ยวอย่างแท้จริง นี่คือโจทย์ที่ประเทศไทยต้องตอบ หากอยากไม่ตกขบวนการแข่งขันระดับโลก

เพราะแม้เรามีจุดแข็งด้านธรรมชาติและวัฒนธรรม แต่ยังไม่โดนใจนักท่องเที่ยวยุคใหม่ที่มองหาความตื่นเต้นและความครบวงจร ขณะเดียวกัน ปัญหาการพนันในประเทศก็ไม่เล็ก มูลค่าพนันใต้ดินทุกประเภทสูงถึง 1.1 ล้านล้านบาท และกว่า 5% ของคนไทยยอมรับว่าติดพนัน ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยโลกถึง 10 เท่า

หากวันหนึ่งประเทศไทยตัดสินใจเปิด Entertainment Complex คำถามคือ เราจะออกแบบระบบคัดกรองและบริหารจัดการอย่างโปร่งใส พร้อมสร้างมาตรฐานสูงสุดด้านความปลอดภัยและความบันเทิง เพื่อเปลี่ยนให้ที่นี่เป็น “แม่เหล็กดึงดูด” นักท่องเที่ยวและเม็ดเงินจากทั่วโลก เหมือนที่สิงคโปร์และมาเก๊าเคยทำสำเร็จได้หรือไม่?

ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่

https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : จากล็อบบี้ถึงชั้นกาสิโน อินไซต์จากมาเก๊า ที่ไทยต้องรู้!ก่อนสร้าง“เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Thairath Money

จับตาเอลซัลวาดอร์ ดันกฎหมาย “ธนาคารบิตคอยน์” ยกระดับคริปโตฯ สู่ระบบการเงินกระแสหลัก

50 นาทีที่แล้ว

วัดพลัง 3 หุ้นปั๊ม “OR - PTG - BCP” ส่องธุรกิจ “น้ำมัน-กาแฟ” สมรภูมิไหน ใครแกร่ง-ใครโตแรง ?

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

Standard Chartered ปรับเป้า Ethereum สิ้นปีลุ้นแตะ 7,500 ดอลลาร์ รับแรงหนุน Stablecoin โต

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"บอร์ดนบข.”อัดงบ 4 หมื่นล้านบาท ซับน้ำตาชาวนาทั่วประเทศตั้งเป้าทยอยจ่ายเงินเดือน ก.ย.นี้

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

กรุงศรี หั่นดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% ลดต้นทุนการเงิน มีผล 18 ส.ค.68

สยามรัฐ

เซ็นทรัล รีเทล และ มาสเตอร์การ์ด ส่งดีลเด็ดรับวันแม่ “Mastercard Mega Month” รับคืนคุ้มสูงสุด 500 บาท

BTimes

โลกโฆษณาอีก 5 ปี ไม่ใช่แค่ใช้ AI เก่งสุด แต่แบรนด์ต้องเข้าใจคนมากสุด

TODAY Bizview

ข้าวโซอิ: จากวิกฤติสู่ภารกิจพาข้าวซอยไทยสู่เวทีโลก

TNN ช่อง16

Derma Innovation เปิดตัว “Derma Color” โรงงานผลิตเครื่องสำอาง และเมคอัพครบวงจร ในงาน Cosmoprof CBE ASEAN 2025 เดินเกมรุกตลาดบิวตี้บูม มูลค่า 1.77 แสนล้านบาท ชวนผู้ประกอบการไทยปั้นแบรนด์รับเทรนด์ตลาดสากลโลก

Positioningmag

ส. ขอนแก่น ครึ่งปีแรก 68 กำไร 94.4 ล้าน ธุรกิจอาหารแปรรูป-ฟาร์มสุกรหนุนเต็มสูบ

ฐานเศรษฐกิจ

MPJ ครึ่งปีแรกกำไรพุ่ง 56%

Manager Online

ธนจิรา กรุ๊ป หรือ TAN ประกาศผลงานครึ่งปี 68 รายได้รวม 902.4 ล้านบาท เติบโต 6% ชี้ทิศทางธุรกิจต่างประเทศโตโดดเด่นใน Q2 พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์ Digital Transformation สร้างการเติบโตที่ยั่งยืน

Positioningmag

ข่าวและบทความยอดนิยม

“สุริยะ” สั่ง สส. ที่เป็น รมต. หอบงานไปทำในสภา แก้เกมสภาล่ม- “ชูศักดิ์” ชี้ เป็นบทเรียน

Thairath Money

เหตุผลไม่เข้าท่ารัฐบาลดันโป๊กเกอร์ “อนุทิน” มองเลี่ยงบาลี ช่วยชาวบ้านชายแดนสำคัญกว่า

Thairath Money

จากล็อบบี้ถึงชั้นกาสิโน อินไซต์จากมาเก๊า ที่ไทยต้องรู้!ก่อนสร้าง“เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”

Thairath Money
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...