ป.ป.ช.แจง สตง.คว้าที่ 1 เน้นธรรมาภิบาล-โปร่งใส ไม่ได้ประเมินเฉพาะประเด็นทุจริต
วันนี้ (19 ส.ค.2568) นายศรชัย ชูวิเชียร รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า ITA (INTEGRITY AND TRANSPARENCY ASSESSMENT) คือคะแนนการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ
โดยหลักเกณฑ์การให้คะแนน ITA จะมีการประเมินธรรมาภิบาล และความโปร่งใส ผ่านผู้เชี่ยวชาญ โดยมีเครื่องมือ 3 ส่วน โดยส่วนแรก เป็นการวัดการรับรู้ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ภายในองค์กรที่ปฏิบัติงานมาไม่น้อยกว่า 1 ปี ประเมินเรื่องคุณธรรมและความโปร่งใสของหน่วยงานตนเอง เช่น การใช้ทรัพย์สินราชการ การป้องกันการทุจริตของผู้บริหารองค์กร โดยมีคะแนน 30 คะแนน
ส่วนที่ 2 เป็นการประเมินบุคคลภายนอกที่ติดต่อหน่วยงาน เช่น การสื่อสารกับคู่สัญญา การอำนวยความสะดวก การเรียกรับสินบน โดยส่วนนี้จะมี 2 ส่วน ส่วนแรก สตง.เก็บข้อมูลผ่านผู้มีส่วนได้เสีย ซึ่ง สตง.ได้คะแนนพอๆ กับปีที่แล้ว อาจจะต่ำกว่านิดหน่อย ส่วนที่สอง ป.ป.ช.ตรวจสอบคนที่มีส่วนได้เสียว่า การรับรู้เป็นอย่างไร ซึ่งลดลงเล็กร้อย โดยส่วนที่ 2 นี้ มีคะแนน 30 คะแนน
และส่วนที่ 3 การเปิดเผยข้อมูลสาธารณะ หรือ OPEN DATA เป็นเรื่องของความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้าง การบริหารงานบุคคล ซึ่งในส่วนนี้หากเปิดเผยข้อมูลครบก็จะได้ไป 40 คะแนน
นายศรชัย กล่าวต่อว่า จาก 100 คะแนน สตง.ได้ 94 คะแนน เป็นลำดับ 1 ขององค์กรอิสระจาก 5 หน่วยงานไม่ใช่เป็นคะแนนจากทั้งประเทศ ซึ่งการประเมินเกณฑ์ ITA มี 8,317 หน่วยงานทั่วประเทศ การประเมิน ITA ทำให้มีการเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดให้ประชาชนและสาธารณะรับทราบ สามารถเข้าไปดูใน Open Data ได้ จากเดิมที่เข้าไปดูได้มีเพียง 1,000 หน่วยงานเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข้อกังขาและมีข้อวิพากษ์วิจารณ์จากสังคม ที่คะแนนค้านสายตานั้น นายศรชัย ระบุว่า Open Data หากไม่เปิดเผยจะไม่ได้คะแนน ส่วนในอนาคตจะมีคำถามที่เข้มข้นมากขึ้น พร้อมยืนยันว่า คณะกรรมการของ ITA มีหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุดมศึกษาฯ ปปท. และมีผู้ที่มีผู้มีความรู้ความสามารถมีการกลั่นกรองทุกคะแนนในการประเมินผ่านคำถาม
การประเมิน ITA พูดง่ายๆ เป็นการวัดสุขภาพขององค์กรว่า องค์กรมีปัญหาในจุดไหนอะไรยังไงบ้าง แล้วให้ไปแก้ไข เราไม่ได้วัดว่าทุจริตไหม อาจจะมีข้อคำถามบางตัวแค่นั้นเอง แต่หลักการของ ITA ในเรื่องของธรรมาภิบาลในหน่วยงานนั้น ๆ ว่าเขามีมากน้อยขนาดไหน สตง. ก็มีตัวหนึ่งที่ตกลงไปก็คือว่าเรื่องปรับปรุงระบบการทำงานก็ได้คะแนนแค่ 81 กว่าๆ ตรงนี้คิดว่า สตง.ก็ต้องเอาตรงนี้ไปแก้ไขว่า ทำอย่างไรให้กลับมันดีขึ้น
ขณะที่ในวันนี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร่วมมือกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) และในการขับเคลื่อนโครงการยกระดับดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index - CPI) ด้านการประชาสัมพันธ์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้ด้านการป้องกันและต่อต้าน การทุจริต ผ่านการเผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์ต่อต้านการรับสินบนและการทุจริตทั้งในรูปแบบของอินโฟกราฟิก และ คลิปวิดีโอบนจอแสดงผลภายในท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งในความดูแลของ AOT
นายศรชัย กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยสถานการณ์ทุจริตไม่ลดลง แต่ละปีมีเรื่องร้องเรียนเข้ามาที่ ป.ป.ช.กว่า 9,000-10,000 เรื่องสะท้อนให้เห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นพฤติการณ์การทุจริตยังมีปัญหาในการพัฒนาประเทศ แต่องค์กรต่างประเทศ มีมุมมองต่อสถานการณ์การทุจริต มีดัชนีประเมินสถานการณ์การทุจริตหรือ CPI ซึ่งไทยเข้าร่วมการประเมินตั้งแต่ปี 2538 ถึงปัจจุบันประมาณ 30 ปี
ที่ผ่านมาไทยได้ไม่เกิน 38 คะแนนจาก 100 คะแนน โดยปีที่ผ่านมาได้ 34 คะแนนถือว่ายังต่ำ จาก 180 ประเทศ ไทยอยู่ที่ลำดับที่ 107 ของโลก เรื่องใหญ่คือการเรียกรับสินบน หน่วยงานภาครัฐที่ใช้ดุลยพินิจการจัดซื้อจัดจ้างจนเกิดการรับสินบน
สำหรับคะแนนที่ลดต่ำลงมองว่า เป็นการพิจารณาเรื่องการแสดงเจตจำนงค์ทางการเมือง การแก้ปัญหาการทุจริต ผลประโยชน์ทับซ้อน กระบวนการยุติธรรม การบังคับใช้กฎหมายภาครัฐ การเรียกรับสินบน มุมมองการทุจริตนักลงทุนต่างชาติ การรับรู้สื่อมวลชนการทุจริต หน่วยงานที่ประเมิน โดยตั้งเป้าปีหน้า ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ไทยจะต้องได้ 56-57 คะแนนในปีถัดไป
อ่านข่าว : ลาออกแล้ว "พระอลงกต" เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ
“สมศักดิ์” อ้างผลสอบ "หมอสุภัทร" เป็น “มติลับ” เปิดเผยไม่ได้