Telenor Asia เผย คนไทย 91% ใช้ AI แล้ว แต่เรียกร้องธรรมาภิบาลและการกำกับดูแลข้อมูล
ในปี 2025 เป็นอีกการเปลี่ยนแปลงที่หลายคนเริ่มปรับตัวกับ AI พัฒนาทักษะเพื่อให้การทำงานร่วมกับ AI ที่ชัดเจน วันนี้มีการเปิดเผยจาก เทเลนอร์เอเชีย (Telenor Asia) ได้เผยแพร่รายงานประจำปีฉบับที่ 4 "Digital Lives Decoded 2025: Building Trust in Thailand’s AI Future" ซึ่งสำรวจผู้ใช้อินเทอร์เน็ตชาวไทยกว่า 1,000 คน พบว่าเทคโนโลยี AI ได้แทรกซึมเข้าสู่ชีวิตประจำวันของคนไทยอย่างรวดเร็ว
แต่ในขณะเดียวกัน ผู้ใช้งานก็มีความตระหนักและเรียกร้องให้มีกรอบจริยธรรมที่รัดกุมควบคู่กันไป
ในรายงานชี้ให้เห็นถึงอัตราการยอมรับ (Adoption Rate) ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดย 91% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในไทยระบุว่าตนเองใช้เครื่องมือ AI ในชีวิตประจำวัน เพิ่มขึ้นจาก 77% ในปี 2024 ยิ่งไปกว่านั้น 1 ใน 2 ของผู้ใช้งานยังใช้ AI ทุกวัน
AI@Work การเติบโตในที่ทำงานและช่องว่างเชิงกลยุทธ์
ภาคธุรกิจกำลังเป็นสมรภูมิสำคัญของการนำ AI มาปรับใช้ โดยปัจจุบัน 4 ใน 10 ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในไทยนำ AI มาใช้ในการทำงาน ซึ่งเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 93% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่มีสัดส่วนเพียง 21%
กรณีการใช้งาน (Use Case) หลักในที่ทำงานประกอบด้วย
- การพัฒนาคอนเทนต์ (61%)
- การวิเคราะห์ข้อมูล (54%)
- การให้บริการลูกค้า (53%)
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่น่าสนใจคือ มีพนักงานเพียง 3 ใน 10 เท่านั้นที่ระบุว่าองค์กรของตนมีแผนหรือกลยุทธ์ด้าน AI ที่ชัดเจน สะท้อนให้เห็นถึงช่องว่างที่องค์กรต้องเร่งกำหนดทิศทางและให้การสนับสนุน เพื่อดึงศักยภาพของ AI มาใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
Gen Z กลุ่มผู้ใช้หลักที่เรียกร้องการกำกับดูแลสูงสุด
กลุ่ม Gen Z กลายเป็นผู้ใช้งาน AI หนักที่สุด (Power Users) โดยกว่า 85% มีการใช้งานเครื่องมือ AI แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นกลุ่มที่แสดงความกังวลและต้องการกลไกคุ้มครองด้านจริยธรรมมากที่สุด นอกจากนี้ยังมีอีกกลุ่มคือ
- 56% เชื่อว่าการใช้ AI ในบางกรณีอาจสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อสังคม
- 61% สนับสนุนให้มีการชะลอการพัฒนา AI จนกว่าจะมีกรอบการกำกับดูแลที่รัดกุม
ความกังวลของคนรุ่นใหม่สะท้อนให้เห็นว่าพวกเขาคาดหวังให้ AI เป็นมากกว่านวัตกรรม แต่ต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบ ความเป็นธรรม และปราศจากอคติ
ความเชื่อมั่น ความปลอดภัย และการควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
แม้ว่าผู้ใช้กว่า 2 ใน 3 (68%) จะเชื่อมั่นว่า AI สามารถยกระดับความปลอดภัยในโลกออนไลน์ได้ แต่ความท้าทายยังคงอยู่ โดยมีผู้ใช้งานเพียง 13% ที่มั่นใจว่าตนเองสามารถแยกแยะเนื้อหาที่สร้างโดยมนุษย์และ AI ได้
ประเด็นด้านธรรมาภิบาล (Governance) และความโปร่งใสยังคงเป็นสิ่งที่ผู้ใช้ให้ความสำคัญสูงสุด
- 77% ของผู้ใช้งานยินดีแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อแลกกับบริการที่ดีขึ้น แต่ต้องมาพร้อมกับความโปร่งใสและสิทธิ์ในการปฏิเสธ (Opt-out)
- 61% ของผู้ตอบแบบสอบถามมองว่า "ตนเอง" ควรเป็นผู้กำกับดูแลการใช้ AI มากกว่ารัฐบาลหรือบริษัทเทคโนโลยี ซึ่งเป็นทิศทางที่เปลี่ยนไปจากปี 2024 ที่คนส่วนใหญ่ยังคาดหวังให้ภาครัฐและผู้ให้บริการเป็นผู้ดูแลหลัก
คุณณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ กรรมการบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า "การพัฒนา AI อย่างมีความรับผิดชอบ ภายใต้กรอบจริยธรรมที่รัดกุม และการกำกับดูแลโดยมนุษย์ คือกุญแจสำคัญที่จะเปลี่ยนนวัตกรรมให้เป็นคุณค่าที่ยั่งยืนต่อสังคมไทย"
ดร. Ieva Martinkenaite, SVP and Head of AI at Telenor Group เสริมว่า "ผลสำรวจชี้ให้เห็นชัดว่า AI ที่มีความรับผิดชอบไม่ใช่เพียงภาพลักษณ์ของแบรนด์ แต่เป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างแท้จริง"
ดังนั้นแล้ว การยอมรับ AI ในประเทศไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ความสำเร็จในระยะยาวจะขึ้นอยู่กับความสามารถของทุกภาคส่วนในการสร้าง "ความไว้วางใจ" ผ่านการกำกับดูแลที่มีจริยธรรม การพัฒนาทักษะดิจิทัล และการให้อำนาจผู้ใช้งานในการควบคุมข้อมูลของตนเอง