กมธ. อึ้ง! อุบลราชธานี เบิกเงินช่วยผู้อพยพ แค่ 5.5 หมื่นบาท งงชาวบ้านอยู่กันได้ยังไง
กมธ.ปกครอง อึ้ง! อุบลราชธานี เบิกเงินช่วยผู้อพยพ แค่ 5.5 หมื่นบาท งงชาวบ้านอยู่กันได้ยังไง จี้ ภูมิธรรม มาชี้แจง เหน็บขอให้กล้าเหมือนที่กล้ากับข้าราชการ
เมื่อเวลา 13.10 น. วันที่ 6 ส.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การปกครอง สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุม กมธ.ว่า ที่ประชุมได้เชิญผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี, ศรีสะเกษ และสุรินทร์ ซึ่งเป็นจังหวัดตามแนวชายแดนมาชี้แจงเรื่องการใช้งบประมาณสำรองฉุกเฉินทดรองจ่ายให้กับจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา จำนวน 100 ล้านบาท
รวมถึงเชิญ รมว.มหาดไทย เข้าชี้แจงด้วย แต่รมว.มหาดไทย ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยเข้าชี้แจงแทน นอกจากนี้ ยังมีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เข้าให้ข้อมูลต่อด้วย
โดยมีการพิจารณาการอนุมัติเงิน 100 ล้านบาทเพิ่มเติม และการดูแลประชาชน สืบเนื่องจากการตั้งกระทู้ถามในสภาฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วถึงการใช้จ่ายเงิน 100 ล้านบาท ขณะที่รมช.มหาดไทย ที่มาชี้แจงแทนก็ตอบว่าสามารถเบิกจ่ายได้ตามปกติ มีการโฟนอินถึงผู้ว่าฯ อุบลราชธานี ยืนยันว่าสามารถเบิกจ่ายเงินได้
นายกรวีร์ กล่าวต่อว่า กรณีนี้ที่ประชุมพบว่า ตัวเลขการเบิกจ่าย 3 จังหวัด มีการเบิกจ่ายเงินไปแล้วจริง จ.ศรีสะเกษ เบิกจ่ายแล้วจำนวน 46 ล้านบาท และใช้เงินขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) 48 แห่ง จำนวน 22 ล้านบาท ,
จ.สุรินทร์ เบิกจ่ายแล้วจำนวน 55 ล้านบาท และใช้เงินขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) 173 แห่ง จำนวน 53 ล้านบาท และจ.อุบลราชธานี รองผู้ว่าราชการจังหวัดให้ข้อมูลว่า เบิกจ่ายไปแล้วจริง เพียง 55,000 บาท
จึงกลายเป็นข้อสงสัยว่าที่ผ่านมาประชาชนใน จ.อุบลราชธานี ที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก อยู่กันได้อย่างไร ทั้งที่รมช.มหาดไทยและผู้ว่าฯ อุบลราชธานี ยืนยันกลางสภาฯ ว่าสามารถเบิกจ่ายได้ ซึ่งตนเห็นว่าไม่ได้เป็นการโกหก แต่ก็ไม่ได้บอกจำนวนว่าเบิกจ่ายไปเท่าไหร่
นายกรวีร์ กล่าวอีกว่า ส่วนเงินที่เหลือไปใช้เงินของ อปท. อีกจำนวน 6.6 ล้านบาท กมธ.ได้ฝากรองผู้ว่าฯ อุบลราชธานี รวมถึงสุรินทร์และศรีสะเกษว่า เงินงบประมาณตรงนี้ รัฐบาลมีความตั้งใจอนุมัติให้ เพื่อดูแลช่วยเหลือประชาชน
ขอให้มีการเบิกจ่ายเงินให้ไปถึงมือประชาชน ในการดูแลผู้ได้รับผลกระทบด้วยความรวดเร็วและสามารถตรวจสอบได้ และเพื่อสามารถใช้จ่ายได้ตามความจำเป็น ไม่ใช่มัวแต่กอดระเบียบเอาไว้ หวงเงินเอาไว้ไม่ยอมใช้จ่าย
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีการติดตามกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 5 ส.ค. เรื่องการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ไทย-กัมพูชา ยืนยันว่าเงินที่จะช่วยเหลือประชาชนที่เสียชีวิต ไม่ว่าจะเป็นพลเรือน, เจ้าหน้าที่ของรัฐ จำนวน 10 ล้านบาท และ 8 ล้านบาท จะเป็นเงินคนละส่วนกับ 100 ล้านบาท ที่ให้จังหวัดนำไปแก้ไขปัญหา จึงขอย้ำกับทุกจังหวัดและประชาชนให้เกิดความชัดเจน
พร้อมกันนี้ได้ฝากไปถึงกระทรวงมหาดไทย , อปท. และ ปภ. ซึ่งน่าเห็นใจที่จะต้องใช้เงิน อปท. มาบริหารจัดการดูแลประชาชนในพื้นที่ ตนอยากขอบคุณนายกท้องถิ่นและทีมผู้บริหาร อปท.ทุกแห่ง ที่ใช้เงินงบประมาณของตัวเองในการช่วยเหลือดูแลประชาชน ทั้งๆ ที่มีเงินอยู่จังหวัดละ 100 ล้านบาท
“คำถามคือทำไมเราถึงต้องให้ภาระในการดูแลพี่น้องประชาชนไปแบกไว้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แทนที่แต่ละจังหวัดจะมาเร่งเบิกจ่ายและใช้เงินทางรัฐบาล จังหวัดละ 100 ล้านบาทเพื่อไปดูแลพี่น้องประชาชน โดยให้ไปกระทบกับเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นน้อยที่สุด และขอให้กระทรวงมหาดไทยไปดูแลระเบียบการเบิกจ่ายเงินให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเงินช่วยเหลือสำหรับผู้เสียชีวิต ขอให้สามารถทำได้จริง ทำได้เร็วและถึงมือประชาชน” นายกรวีร์ กล่าว
เมื่อถามว่าเงิน จ.อุบลราชธานี ที่เบิกจ่ายเพียง 55,000 บาท เกิดจากการติดขัดข้อกฎหมายอะไรหรือยังไม่อยากมีการเบิกจ่ายงบประมาณ นายกรวีร์ กล่าวว่า รองผู้ว่าฯ อุบลราชธานี ชี้แจงว่าช่วงแรกได้มีการใช้จ่ายเงินของ อปท.ไปก่อน หากเกินกำลังของท้องถิ่นค่อยใช้เงินในส่วนนี้
ตนจึงสงสัยว่า เงินถูกอนุมัติไปตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค. จนถึงวันนี้ (6 ส.ค.) เบิกจ่ายไปเพียงแค่นี้ เพียงพอหรือไม่ ซึ่งได้รับการชี้แจงว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบ การใช้จ่ายเงินจะต้องมีความรอบคอบ ระมัดระวัง ซึ่งแปลกจากที่รัฐมนตรีและผู้ว่าฯ อุบลราชธานียืนยันว่าเบิกจ่ายได้ ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของจังหวัดที่จะต้องเร่งเบิกจ่าย
เมื่อถามว่าจะมีโอกาสเรียกระดับรัฐมนตรี ซึ่งเป็นคนตัดสินใจมาในกมธ.หรือไม่นายกรวีร์ กล่าวว่า วันนี้ก็ได้เชิญ รมว.มหาดไทย มาชี้แจง 2 สัปดาห์ต่อเนื่อง แต่น่าเสียดายที่ไม่เคยมาเลย
“อยากจะฝากไปถึงท่าน เวลาท่านเชิญผู้ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัด ใครไม่มาท่านบอกจะย้าย เวลา กมธ.ใช้อำนาจฝ่ายนิติบัญญัติเชิญรัฐมนตรี ก็อยากจะให้รัฐมนตรีมาตอบ อยากให้กล้าเหมือนที่กล้ากับราชการด้วย” นายกรวีร์ กล่าว
เมื่อถามว่าทำไมระดับรัฐมนตรีถึงประเมินว่าสถานการณ์การเบิกงบยังไหวอยู่ นายกรวีร์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ท่านอาจจะมีภารกิจอื่น เวลาที่มาตอบไม่ว่าจะเป็นห้องประชุมใหญ่หรือกมธ. ที่ให้ข้าราชการมาตอบ ก็จะตอบเหมือนทุกอย่างไปได้ดี ทุกอย่างดำเนินไปได้โดยไม่มีปัญหา ซึ่งขัดแย้งกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นที่หน้างาน
เมื่อถามว่างบ 55,000 บาท มีความคลาดเคลื่อนตรงไหน นายกรวีร์ กล่าวว่า ตนได้ย้ำกับผู้ว่าฯ อุบลราชธานีหลายครั้ง เพราะได้ฟังตัวเลขก็รู้สึกตกใจว่ารายงานผิดหรือไม่ ซึ่งก็ได้รับการยืนยันว่าเบิกไปจำนวนเท่านี้จริงๆ และเป็นข้อมูลล่าสุดถึงวันนี้ด้วย
เมื่อถามว่าการเบิกจ่ายอาจจะเป็นเรื่องการกังวลเกี่ยวกับข้อระเบียบหรือไม่ นายกรวีร์ กล่าวว่า จังหวัดอื่นก็ใช้ระเบียบตัวเดียวกัน เช่น จ.สุรินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดก็ชี้แจงว่าเบิกจ่ายได้ และเบิกจ่ายไปแล้ว 50-60 ล้านบาท ซึ่งมีรายการที่จะต้องเบิกจ่าย เพราะพี่น้องประชาชนที่อยู่ในศูนย์อพยพ ตนรู้สึกแปลกใจว่าจังหวัดอื่นไม่มีปัญหา จึงอยากฝาก รมว.มหาดไทย ที่ระบุว่าหากทำไม่ได้ก็จะหาคนอื่นมาทำ ตนจะรอดูว่าจะทำได้หรือไม่
นายกรวีร์ กล่าวย้ำว่า เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดที่เบิกจ่ายเงิน ท่านอาจจะมองว่าใช้เงินต้องรอบคอบ ต้องมีการตรวจสอบอย่างชัดเจน ต้องระมัดระวังการใช้จ่ายเงิน ซึ่งก็เป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดที่ต้องใช้จ่ายเงินส่วนนี้
ส่วนที่ขณะนี้มีกองกำลังฝ่ายกัมพูชามาแทรกซึมอยู่กับพลเรือนฝั่งไทย มีความกังวลหรือไม่ นายกรวีร์ กล่าวว่า กรณีนี้ยังไม่มีการพูดคุยกันในที่ประชุม เพราะพูดคุยเพียงแค่เงินช่วยเหลือฉุกเฉิน ซึ่งตนก็มีความเป็นห่วง แต่คิดว่าทางจังหวัดโดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และฝ่ายปกครองจะต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยให้กับประชาชนในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบในช่วงนี้ด้วย
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : กมธ. อึ้ง! อุบลราชธานี เบิกเงินช่วยผู้อพยพ แค่ 5.5 หมื่นบาท งงชาวบ้านอยู่กันได้ยังไง
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th