จุดเกิดเหตุหลอน! กระบะแซงไม่พ้นชน จยย. หนุ่มกู้ภัยเสียชีวิต หน้าศาลจอมปลวก
กล้องหน้ารถจับภาพกระบะแซงไม่พ้น ชนประสานงาจยย. หนุ่มกู้ภัยเสียชีวิต ญาตินำร่างประกอบพิธีทางศาสนา จุดเกิดเหตุหลอน ตรงกับหน้าศาลจอมปลวก
วันที่ 2 ก.ย.68 ที่วัดบ้านหม้อ ตำบลคลองตาคต อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ได้มีบรรดาอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยสว่างราชบุรี เดินทางมาร่วมพิธีรับศพ นายธนรัตน์ พาณิชย์เจริญวงศ์ อายุ 34 ปี (รหัสอาสา "คลองตาคต 12") ซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน เมื่อรถจักรยานยนต์ของเขาถูกกระบะที่พยายามแซงแต่ไม่พ้น พุ่งชนประสานงาอย่างจัง ส่งผลให้นายธนรัตน์เสียชีวิตคาที่
เหตุการณ์เกิดขึ้นบนถนนเลียบคลองชลประทาน หมู่ 6 ตำบลนครชุมน์ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา โดยมีกล้องหน้ารถของประชาชนสามารถจับภาพขณะเกิดเหตุไว้ได้ชัดเจน ขณะรถกระบะคู่กรณีพยายามแซงขึ้นมา ก่อนจะชนประสานงากับรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต
วันนี้ (2 ก.ย.68) ญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต พร้อมด้วยอาสากู้ภัยสว่างราชบุรี ได้ร่วมกันจัดขบวนรับศพจากโรงพยาบาลบ้านโป่ง เพื่อนำกลับมายังวัดบ้านหม้อเพื่อประกอบพิธีทางศาสนา โดยผู้เสียชีวิตเป็นชาวมอญ ตามความเชื่อของชาวมอญ ก่อนนำร่างขึ้นตั้งสวดพระอภิธรรมบนศาลาเมรุ ต้องนำร่างไปเก็บไว้ในช่องเก็บศพที่ป่าช้าก่อน พร้อมใช้แผ่นสังกะสีปิดไว้ จากนั้นให้มารดาของผู้เสียชีวิตจุดธูป 1 ดอก เมื่อธูปหมดดอกแล้ว จึงสามารถนำร่างขึ้นบนเมรุได้ ซึ่งเป็นพิธีตามความเชื่อดั้งเดิมของชาวมอญ
สำหรับการสวดพระอภิธรรม ญาติจะตั้งสวดเป็นเวลา 5 คืน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 5 กันยายน และมีกำหนดฌาปนกิจในวันเสาร์ที่ 6 กันยายน 2568
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบเศษชิ้นส่วนของรถที่แตกกระจายอยู่บนพื้นถนน พร้อมคราบเลือดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ นอกจากนี้ จุดเกิดเหตุยังอยู่ตรงหน้าศาลเก่า บริเวณโคนต้นมะขามเทศ ซึ่งมีจอมปลวกขึ้นอยู่ และพบเศียรพญานาค 9 เศียร พร้อมผ้าสามสี พวงมาลัย และเครื่องเซ่นไหว้ วางอยู่บริเวณนั้น สร้างความรู้สึกขนลุกให้กับผู้ที่มาพบเห็น
นางขวัญหล้า พาณิชย์เจริญพงศ์ แม่ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ น้องป๊อป (ผู้เสียชีวิต) ขับรถจักรยานยนต์ไปซื้อของที่อำเภอบ้านโป่ง และกำลังจะกลับบ้าน ก็มาเกิดอุบัติเหตุก่อนถึงบ้านประมาณ 500 เมตร รถกระบะเขาแซงขึ้นมา แต่แซงไม่พ้น ก็มาชนประสานงากับรถของลูกชาย ภาพจากกล้องหน้ารถก็ชัดเจนเลยค่ะ ส่วนคู่กรณีเราเจอกันแล้ว เราคุยกันในฐานะแม่ เราไม่โกรธ ไม่ถือโทษ เราอโหสิกรรมให้เขาแล้ว เรื่องการเยียวยาหรือช่วยเหลือ ตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยหรือมีรายละเอียดอะไร เขาบอกแค่ว่าจะรับผิดชอบทั้งหมด
แม่ผู้เสียชีวิตยังกล่าวอีกว่า ลูกชายเป็นเสาหลักของครอบครัว มีลูกสองคนและภรรยาที่ต้องดูแล รายได้หลักของครอบครัวมาจากเขาคนเดียว อีกทั้งยังเป็นอาสาสมัครกู้ภัยของสว่างราชบุรีอีกด้วย อยากฝากให้กรณีนี้เป็นเคสตัวอย่าง ขอให้เป็นเคสสุดท้าย สำหรับผู้ที่ใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะการแซงในที่คับขัน หรือทางแคบ อยากให้มีสติ คิดถึงใจเขาใจเรา เพราะคนที่ชนอาจไม่ได้สูญเสียอะไร แต่ทางเราสูญเสียคนในครอบครัว เราไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับใครอีก