สคล.ภาคกลางเตรียมจัดมหกรรมรวมพลังสร้างกระแสงดเหล้าเข้าพรรษา 2568
วันที่ 6 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ณ วัดพิกุลทอง พระอารามหลวง ตำบลพิกุลทอง อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคกลาง(สคล.ภาคกลาง) ประชาคมงดเหล้า 8 จังหวัดภาคกลาง ได้แก่ สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา นนบุรี ปทุมธานี และนครนายก พร้อมทั้งหน่วยงานภาคีเกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันจัดงานแถลงข่าวมหกรรมรวมพลังสร้างกระแสงดเหล้าเข้าพรรษา 2568 ภายในกรอบแนวคิด “มีสติ มีสุข ทุก โอกาส” โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญ คือ เพื่อสร้างกระแสการรณรงค์เชิญชวนคนงดเหล้า ลด ละ เลิกเหล้า ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา โดยอาศัยช่วง เข้าพรรษาเป็นฤดูกาลฝึกสติ ตั้งใจทำความดีที่เป็นประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครัว และสังคม ตามแนวทาง “มีสติ มีสุข ทุกโอกาส” สานพลังประชาคมและภาคีร่วมรณรงค์ลดปัจจัยเสี่ยงในระดับพื้นที่ เพื่อสะท้อนบทบาทการขับเคลื่อนสร้างเสริมสุขภาพของประชาคม และหน่วยงานภาคีเกี่ยวข้อง
โดยภายในงานมีกิจรรมที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น การจัดบูธนิทรรศการแสดงผลงาน-กิจกรรมเด่นของเครือข่าย ประชาคมงดเหล้า 8 จังหวัด ซึ่งมีทั้งงานความรู้ สินค้า ผลิตภัณฑ์ชุมชนคนลด ละ เลิกเหล้า กลุ่มชาติพันธุ์ลดปัจจัยเสี่ยง และกิจรรมของกลุ่มเด็กเยาวชนที่เน้นเรื่องความสนุก สาระ มีส่วนร่วม หวังดึงเยาวชนทำกิจกรรมสร้างสรรรค์ ห่างไกล จากปัจจัยเสี่ยงเหล้า บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า ยาเสพติด และการป้องกันนักดื่ม นักสูบ นักเสพหน้าใหม่
นอกจากนี้ ยังมีการแถลงข่าวงดเหล้าเข้าพรรษา “ ME สติ ME สุข ทุกโอกาส” อย่างเป็นทางการ โดยพระ วัชรสิงหบุราจารย์ เจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี ได้กล่าวถึงบทบาทวัดและพระสงฆ์กับงานงดเหล้าเข้าพรรษา สรุปได้ว่า ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันวัดและพระสงฆ์มีบทบาทในการส่งเสริมศีล 5 ศีลห้าข้อสุดท้ายคือเว้นจากการดื่มสุราและเมรัยอัน เป็นที่ตั้งแห่งความประมาท เป็นเหตุให้ขาดสติ การงดเว้นจากการดื่มสุราถือเป็นการฝึกสติ ตามกฏหมายวัดเป็นสถานที่ ห้ามดื่มห้ามขายสุรา งานบุญประเพณีส่วนใหญ่ที่จัดในวัดก็เป็นงานปลอดเหล้า ในโอกาสเข้าพรรษาก็ได้ให้วัดในเขต ปกครองได้ช่วยรณรงค์เชิญชวนคนรักษาศีล 5 งดเว้นจากการดื่มสุราอันเป็นเหตุแห่งความประมาท สามารถก่อความ เสียหายอย่างยิ่งแก่ชีวิตได้ นายสุเมธ ธีรนิติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ได้กล่าวถึงบทบาทของจังหวัดในการสนับสนุนเชิงนโยบาย
โดยสรุปคือการสนับสนุนให้หน่วยงานทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือในการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา การงดเหล้า เข้าพรรษาเป็นกิจกรรมที่ดี ช่วยลดผลกระทบทางสุขภาพและอุบัติเหตุบนท้องถนน เป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย และ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ประชาชน คุณทนงชัย บูรณพิสุทธิ์ ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคกลาง กล่าวถึงกรอบแนวทางการ รณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาปีนี้ ที่นำเอาหลักธรรมสำคัญคือ สติ มาใช้ในการรณรงค์ สติ คือความระลึกรู้ ความตื่นตัว ไม่ ประมาท เหมาะแก่ทุกๆคน เหมาะแก่ทุกๆ โอกาส การใช้ชีวิตควรมีสติเป็นพื้นฐานเป็นเครื่องนำทาง ชีวิตจะได้ไม่ก้าว พลาด หรือทำชีวิตให้พังเพราะไม่รู้จักยับยั้งคือขาดสติ งดเหล้าเข้าพรรษาเป็นหนึ่งในกิจกรรมสำคัญและได้ผลของ เครือข่าย เป็นช่วงเวลาของการฝึกตนให้ลด ละ เลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และปัจจัยเสี่ยงสุขภาพอื่นๆ
ซึ่งปีนี้ ในส่วนของ ประชาคมงดเหล้าภาคกลาง 8 จังหวัด มีพื้นที่ขับเคลื่อนงดเหล้าเข้าพรรษาเชิงคุณภาพ ไม่น้อยกว่า 13 อำเภอ 30 ตำบล 117 หมู่บ้าน และมีการรณรงค์ผ่านภาคีเครือข่ายอื่นๆ เช่น วัด โรงเรียน โรงงาน เป็นต้น คาดว่าจะมีคนลงนาม ปฏิญาณตนงดเหล้าเข้าพรรษาปีนี้ ไม่ต่ำกว่า 5,000 คน หลังออกพรรษาในพื้นที่ปฏิบัติการจะมีการรณรงค์ต่อเนื่อง ตลอดปี คุณทนุบูรณ์ กองจินดา นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ สำนักงานควบคุมป้องกันโรคที่ 4 สระบุรี (สคร.4) กล่าวถึงบทบาทและแนวทางการหนุนเสริมการขับเคลื่อนงานงดเหล้าเข้าพรรษา สรุปได้ว่าสำนักงานควบคุม ป้องกันโรคที่ 4 ได้สนับสนุนให้หน่วยงานต่างๆ เช่น สสจ. สสอ. รพสต. ในพื้นที่ร่วมรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษามาอย่าง ต่อเนื่อง
พร้อมทั้งมีแผนในการตรวจเฝ้าระวังการทำผิดกฏหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วงเทศกาลเข้าพรรษา วัน สำคัญต่างๆ เป็นต้น นายแพทย์วิญญู จันทร์เนตร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี ได้กล่าวถึงบทบาทสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.) กับการควบคุมปัจจัยเสี่ยงและงานสร้างเสริมสุขภาพประชาชน โดยให้ความสำคัญกับการเฝ้าระวัง ควบคุมปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ไม่เฉพาะเหล้า บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า แต่รวมถึงปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ และดูแลสุขภาพประชาชนส่งเสริม ให้ทำเรื่องปัจจัยสร้างเสริมสุขภาพ เช่น ออกกำลังกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ อยู่ในสภาพแวดล้อมรอบตัวที่เอื้อต่อ การมีสุขภาพที่ดี และการเว้นจากสิ่งเสพติดมึนเมา เป็นต้น
ด้านคุณวิจิตร เลิศไพบูลย์วงศ์ ประธานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสิงห์บุรี ได้ให้มุมมองด้านอุตสาหกรรมการ ท่องเที่ยวกับงานรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา จังหวัดสิงห์บุรีเคยเป็นเมืองน่าอยู่อันดับ 1 ของประเทศ และมีการส่งเสริม การท่องเที่ยวในรูปแบบต่างๆ ทั้งการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวชุมชน และอื่นๆ เป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจ สร้างรายได้ในจังหวัด กิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษาไม่ได้กระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีความปลอดภัย อันเป็นแรงจูงใจให้ผู้คนมาเที่ยวมากขี้น