ทะลุ 10,000 ล้านบาท! เปิดยอดเงิน เชลซี จ่าย ไบรท์ตัน ดึงแข้งร่วมทัพยุค ท็อดด์ โบห์ลี่
ทีมของกุนซือเอ็นโซ่ มาเรสก้า ได้ดึงตัวนักเตะและทีมงานจากคู่แข่งร่วมพรีเมียร์ลีกมาแล้วถึง 14 ราย นับตั้งแต่ ท็อดด์ โบห์ลี่ เข้ามารับตำแหน่งเจ้าของร่วมและประธานสโมสรเมื่อปี 2022 โดยล่าสุดเพิ่งสอย ชูเอา เปโดร กองหน้าทีมชาติบราซิล มาร่วมทัพด้วยค่าตัว 55 ล้านปอนด์ (ราว 2,420 ล้านบาท) ช่วงซัมเมอร์นี้
แซ็ค สเตอร์จ และ ชูไมร่า เมฮูก้า สองดาวรุ่งกลายเป็นนักเตะกลุ่มแรกที่ย้ายเข้ามาสู่ถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ในช่วงตลาดพ่อค้าแข้งซัมเมอร์ ซึ่งเพียงแค่เดือนเดียวหลังยุคของ โบห์ลี เริ่มต้น
หลังจากนั้น "สิงโตน้ำเงินคราม" ก็สอยตัว มาร์ค กูกูเรย่า ฟูลแบ็กทีมชาติสเปน มาร่วมทัพ ด้วยสนนราคา 62 ล้านปอนด์ (ราว 2,728 ล้านบาท) ตามด้วยการดึงตัว แกรม พ๋อตเตอร์ กุนซือชาวอังกฤษของ ไบรท์ตัน เข้ามากุมบังเหียน เชลซี ด้วย
ตอนนั้น โบห์ลี ตัดสินใจปลด โธมัส ทูเคิ่ล ซึ่งปัจจุบันนั่งเก้าอี้ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ เพียงไม่กี่สัปดาห์ในฤดูกาล 2022/2023 พร้อมกับแต่งตั้ง พ็อตเตอร์ เข้ามาคุมทัพโดยมองว่านี่คือคนที่เหมาะสมที่จะนำสโมสรก้าวไปข้างหน้าในระยะยาว
สำหรับการทำข้อตกลงกับไบรท์ตัน นั้น เชลซี ต้องจ่ายค่าชดเชยให้ ไบรท์ตัน ประมาณ 22 ล้านปอนด์ (ราว 968 ล้านบาท) เพื่อนำ พ็อตเตอร์ และทีมงานของเขาอีก 5 คน ได้แก่ บิลลี่ รีด, บียอร์น แฮมเบิร์ก, บรูโน่ ซัลตอร์, เบน โรเบิร์ตส์ และ ไคล์ แม็คออลี่ย์ มาสานฝันสร้างทีม "สิงห์บลูส์"
อย่างไรก็ตาม กุนซือเลือดผู้ดี วัย 50 ปีก็โดนปลดกลางอากาศทั้งๆ ที่ทำงานไปแค่ 7 เดือนเท่านั้น โดยทุกคนยกเว้น แม็คออลี่ย์ และ โรเบิร์ตส์ ต่างก็อำลาถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ตามเขาไป
ในเดือนธันวาคมปี 2022 พอล วินสแตนลีย์ เป็นอีกคนที่ย้ายจาก ไบรท์ตัน มาสู่ เชลซี เมื่อเขาได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬา และแน่นอนว่าการทำแบบนั้น "สิงห์บลูส์" ต้องจ่ายค่าชดเชยให้กับ "เดอะ ซีกัลส์" อีกครั้ง
เข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2024 แซม จีเวลล์ ผู้อำนวยการฝ่ายเสริมทัพของ "นกนางนวล" โดยพลังเงินจาก เชลซี ดูดเข้าไปร่วมทัพ เพื่อให้ทำหน้าที่เป็นผู้นำเครือข่ายแมวมองระดับโลกของสโมสร และดูแลการเจรจาซื้อขายนักเตะ
จีเวลล์ ได้ชื่อว่ามีบทบาทสำคัญอย่างมากในยุทธศาสตร์การเสริมทัพของ "เดอะ ซีกัลส์" อย่างเช่นการทำให้ทีมได้ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, มอยเซส ไกเซโด้, ฟากุนโด้ บัวนาน็อตเต้ และ ฮูลิโอ เอ็นซิโซ่ มาเสริมแกร่ง รวมถึงการเอา พ็อตเตอร์ มาเป็นกุนซือของ ไบรท์ตัน เมื่อช่วงปี 2022
สำหรับการมาของ จีเวลล์ ทำให้เขากลายเป็นทีมสตาฟฟ์คนที่ 8 ที่ย้ายจาก ไบรท์ตัน มาสู่ เวสต์ลอนดอน
ส่วนรายต่อไปที่ เชลซี ได้ตัวมาร่วมทัพนั่นก็คือการทุ่มเงินมหาศาลเป็นสถิติเกาะอังกฤษ (ก่อน ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ จะทำลายสถิติ) คว้าตัว ไกเซโด้ มาร่วมทัพ ด้วยค่าตัว 115 ล้านปอนด์ (ราว 5,060 ล้านบาท) โดยนักเตะย้ายมาร่วมทัพเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2023 ด้วยการปาดหน้า ลิเวอร์พูล ที่อยากได้ตัวเช่นกัน
ในเดือนเดียวกัน พวกเขาจัดการบุกฉกนักเตะจากรังนกนางนวลอีกครั้งด้วยการเซ็นสัญญากับ โรเบิร์ต ซานเชซ ผู้รักษาประตูชาวสแปนิช ด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ (ราว 1,100 ล้านบาท)
ตอนนี้ เปโดร กำลังกลายเป็นนักเตะรายล่าสุดที่เตรียมเดินตามรอยเส้นทางเพื่อนร่วมอาชีพที่ตบเท้าอำลารังเอแม็กซ์ สเตเดี้ยม สู่ถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เช่นเดียวกับนักเตะอีก 5 รายก่อนหน้านี้
เชลซี สามารถเอาชนะ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ในการแย่งลายเซ็นของ เปโดร เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยคาดว่า ดาวเตะวัย 23 ปีน่าจะมีค่าตัวอยู่ที่ 55 ล้านปอนด์ และเตรียมย้ายสู่อ้อมอก "สิงโตน้ำเงินคราม" อย่างเป็นทางการในเร็ววันนี้
สำหรับตอนนี้แค่เฉพาะการทุ่มเงินซื่อนักเตะจาก ไบรท์ตัน ทัพ "สิงห์บลูส์" ควักกระเป๋าจ่ายไปถึง 257 ล้านปอนด์ (ราว 11,308 ล้านบาท) แต่ถ้าหากรวมทีมสตาฟฟ์จากทัพ "นกนางนวล" ยอดเงินแบบคร่าวๆ พุ่งไปกว่า 282 ล้านปอนด์ (ราว 12,408 ล้านบาท) ซึ่งเม็ดเงินดังกล่าวแทบจะเพียงพอสำหรับการสร้างสนามเอแม็กซ์ สเตเดี้ยม ได้ถึง 3 แห่ง เลยทีเดียว
จำนวนเงินที่ เชลซี จ่ายให้ ไบรท์ตัน ในการดึงนักเตะมาร่วมสังกัดนับตั้งแต่ปี 2022
1. แซ็ค สเตอร์จ - ฟรีเอเจนต์
2. ชูไมร่า เมฮูก้า - ไม่มีการเปิดเผย
3. มาร์ค กูกูเรย่า - 62 ล้านปอนด์ (ราว 2,728 ล้านบาท)
4. มอยเซส ไกเซโด้ - 115 ล้านปอนด์ (ราว 5,060 ล้านบาท)
5. โรเบิร์ต ซานเชซ - 25 ล้านปอนด์ (ราว 1,100 ล้านบาท)
6. ชูเอา เปโดร - 55 ล้านปอนด์ (ราว 2,420 ล้านบาท)
รวมทั้งหมด = 257 ล้านปอนด์ (ราว 11,308 ล้านบาท)
TOMMY TEE.