โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

นักวิชาการมองดีลภาษีนำเข้าสหรัฐ 19% เป็นแต้มต่อระยะสั้น ช่วยให้โล่งใจชั่วคราว ดึงนักลงทุนไม่ให้ย้ายฐานผลิต แต่ไม่ได้ช่วยซัพพลายเชน และงยังมีคู่แข่งเพิ่มนอกจากอาเซียน

BTimes

อัพเดต 4 สิงหาคม 2568 เวลา 17.44 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • อัพเดตข่าวหุ้น ธุรกิจ การเงิน การลงทุน การตลาด การค้า สุขภาพ กับ บัญชา ชุมชัยเวทย์ - BTimes.Biz

รองศาสตราจารย์ ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดีสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ กล่าวถึง ดีลภาษีนำเข้าสินค้าไทยไปสหรัฐฯ ที่ทีมไทยแลนด์ยื่นข้อเสนอในการเจรจาและสามารถบรรลุขข้อตกลงอัตราภาษีที่ 19% ซึ่งใกล้เคียงกับกับประเทศในกลุ่มอาเซียน ว่า จากดีลนี้สามารถมองเห็นประโยชน์ หรือแต้มต่อของไทยในระยะสั้น ที่ไม่ทำให้เกิด Trade diversion (การย้ายฐานผลิต) เนื่องจากแต่ละประเทศในกลุ่มอาเซียนถูกคิดภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ในอัตราใกล้เคียงกันที่ 19-20% แต่ขณะเดียวกันอย่าลืมว่าภาษี 19% ที่สหรัฐเก็บกับสินค้าไทยนั้นจะทำให้ผู้ส่งออกประสบปัญหาส่งออกลำบาก ต้นทุนสูงขึ้น ผู้ส่งออกไทยต้องไปเจรจากับผู้นำเข้า ซึ่งมีอำนาจต่อรองมากกว่าจากอัตราภาษีที่สูงใกล้เคียงกันทั่วโลก

หากผู้ส่งออกต้องลดราคาสินค้าเพื่อให้ขายได้ปริมาณมากแต่กลับมีมาร์จิ้นน้อยลง ที่สำคัญเมื่อสหรัฐฯ เก็บภาษีในอัตราเฉลี่ย 15-20% ก็จะทำให้เกิดการย้ายฐานผลิตไปยังสหรัฐฯ เพื่อผลิตสินค้าขายในสหรัฐและส่งออกไปประเทศต่างๆทั่วโลก ด้วยอัตราภาษี 0% ที่ทั่วโลกเปิดตลาดให้สหรัฐ ซึ่งต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมีหลายรายที่เป็นกลุ่มบริษัทเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น รวมถึงจีน หากจะย้ายฐานก็จะไปกันทั้งหมด

ดังนั้นในอนาคตคู่แข่งทางการค้าของไทยจึงไม่ได้มีเฉพาะกลุ่มประเทศอาเซียนเท่านั้น หากแต่เป็นผู้ผลิตในสหรัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นมากมายในอนาคต จากข้อแลกเปลี่ยนของประเทศต่างๆ ที่ต้องไปลงทุนในสหรัฐฯ เช่น ญี่ปุ่น ต้องไปลงทุนในสหรัฐฯ 5.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เกาหลีใต้ต้องลงทุน 3.5 แสนล้านเหียญสหรัฐ อียู ต้องไปลงทุนอย่างน้อย 6 แสนล้านเหรียญ เป็นต้น

“ดังนั้น การที่ไทยได้ภาษีแค่ 19% จึงเป็นเพียงการโล่งใจ ไม่ใช่น่าจะมาดีใจกันเยอะแยะมากมายอย่างที่เห็นแสดงความยินดีกันในขณะนี้ คุณแค่โล่งใจที่ไม่เกิด Trede diversion เพราะอัตราภาษีใกล้เคียงกัน แต่คุณต้องเจอปัญหา supply site ต้นทุนสูง และไม่ได้แข่งขันเฉพาะกับบริษัทที่ส่งสินค้าเข้าสหรัฐเท่านั้น แต่ยังจะต้องแข่งกับอุตสาหกรรมที่จะงอกเงยขึ้นในสหรัฐด้วย” ดร.สมภพ กล่าว

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก BTimes

เอสเอ็มอีไทยไปไม่ไหว เจ๊งจบปีละ 7% พีคสุดปิด 2,500 แห่งใน 1 ปี | คุยกับบัญชา | 25 ก.ค. 68

16 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘Sewing Thing’ งามซ่อมตุ๊กตาตัวโปรด คืนความรู้สึกผูกพัน l 2 ส.ค. 68 FULL l BTimes Weekend ShowBiz

17 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

K-Beauty ยังฮอต! แม้ภาษีสหรัฐพุ่ง 15% แฟนคลับยันไม่มีอะไรแทนได้

การเงินธนาคาร

วันแรก "การบินไทย" กลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์

Thai PBS

การบินไทย กลับเข้าเทรดในตลาดหลักทรัยพ์ วันแรก ดันราคาหุ้นพุ่ง 134%

Khaosod

บล.กรุงศรี ชี้โอกาสตลาดหุ้นไทยฟื้นตัว-คาดFed อาจลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย.

TNN ช่อง16

การค้า "ไทย-กัมพูชา" 6 เดือนแรกปี 2568 โต 3.33% คาดเหตุปะทะ ทำค้าชายแดนปีนี้วูบ 1% เร่งหาทางแก้ไข

TNN ช่อง16

การบินไทย กลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันแรก 4 สิงหา 68 พร้อมทะยานสู่ขอบฟ้าใหม่ในฐานะสายการบินที่คนไทยภาคภูมิใจ

สวพ.FM91

BEM เตรียมเปิดรับสมัคร Art Training รุ่นที่ 2 ปี 2568

Manager Online

เอพี-มิตซูฯ ญี่ปุ่น ย้ำพันธกิจร่วมทุน 12 ปี พัฒนาคอนโด 31 โครงการ 1.37 แสนล.

Khaosod

ข่าวและบทความยอดนิยม

เอสเอ็มอีไทยไปไม่ไหว เจ๊งจบปีละ 7% พีคสุดปิด 2,500 แห่งใน 1 ปี | คุยกับบัญชา | 25 ก.ค. 68

BTimes

‘Sewing Thing’ งามซ่อมตุ๊กตาตัวโปรด คืนความรู้สึกผูกพัน l 2 ส.ค. 68 FULL l BTimes Weekend ShowBiz 

BTimes

อสังหาฯ ไทยซอมบี้ ขาลงลากนาน 5 ปี ยอดโอนติดลบทุกปี | คุยกับบัญชา | 25 ก.ค. 68

BTimes
ดูเพิ่ม
Loading...