คลังลุยป้องกันปัญหาสินค้าสวมสิทธิ เร่งถกสหรัฐกำหนดสัดส่วน RVC
คลังเตรียมแก้ปัญหาแหล่งกำเนิดสินค้า ป้องกันสวมสิทธิ เร่งเจรจาสหรัฐกำหนดสัดส่วน RVC พร้อมจับตาสินค้าเลี่ยงภาษี
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหลังจากที่ไทยและสหรัฐได้บรรลุข้อตกลงด้านภาษีนำเข้าที่ 19% ว่ากระทรวงการคลังดำเนินการตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด และพร้อมเปิดเผยรายละเอียดข้อตกลงต่อสาธารณะผ่านการพิจารณาของรัฐสภา เพื่อความโปร่งใสและรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วน
“ประเด็นใดที่มีข้อสงสัยก็ต้องมีการชี้แจงให้ชัดเจน โดยเฉพาะข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับภาษี ซึ่งมีการแก้ไขหลายจุด เราจึงตั้งใจจะส่งร่างทั้งหมดเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา แม้บางเรื่องจะไม่จำเป็นต้องเข้า แต่เพื่อความโปร่งใส เราจะส่งให้ครบถ้วน แล้วไปชี้แจงกันในสภา” นายจุลพันธ์กล่าว
สำหรับประเด็นการสวมสิทธิ หรือการนำเข้าสินค้าผิดแหล่งกำเนิดนั้น นายจุลพันธ์กล่าวว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายอยู่แล้ว ไม่ต้องเข้าสภา แต่กระทรวงการคลังก็ได้กำชับให้กรมศุลกากรดำเนินการอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการตรวจสอบสินค้าขาเข้าที่อาจมาในรูปแบบกึ่งสำเร็จรูป (semi-complete) เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี หรือแอบอ้างสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากแหล่งกำเนิดที่ไม่ถูกต้อง
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็น กรมศุลกากรจะสามารถลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานได้ โดยเฉพาะในเขตปลอดอากร ซึ่งสามารถเข้าตรวจสอบได้โดยตรง ส่วนพื้นที่นอกเขตต้องมีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมดำเนินการ
ด้านความกังวลของเกษตรกรและสมาคมต่าง ๆ นายจุลพันธ์กล่าวว่าขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดร่างข้อตกลงอย่างเป็นทางการ เพราะอยู่ระหว่างการจัดทำและเตรียมความพร้อม โดยยืนยันว่าเป็นห่วงเกษตรกรและผู้ประกอบการทุกกลุ่ม พร้อมรับฟังข้อกังวลทุกด้าน
สำหรับผลกระทบทางรายได้จากการเจรจาลดภาษีกับประเทศคู่ค้า นายจุลพันธ์ยอมรับว่าอาจมีผลกระทบบ้าง แต่เชื่อว่าผลเชิงบวกจากการเพิ่มปริมาณการค้า การกระตุ้นเศรษฐกิจ และการจัดเก็บภาษีจากฐานที่ขยายตัว จะช่วยสร้างสมดุลทางเศรษฐกิจในภาพรวมได้
ขณะเดียวกัน รัฐบาลเตรียมนำข้อตกลงบางส่วนเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา ภายใต้บทบัญญัติมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดการกลั่นกรองอย่างรอบด้าน
ในส่วนของมาตรการท่องเที่ยวและการเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ต่าง ๆ นั้น ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารรัฐอื่น ๆ ได้ทยอยออกมาตรการช่วยเหลือแล้วทั้งในภาคประชาชนและภาคทหาร
“ทุกฝ่ายต้องเร่งดำเนินการให้ทันต่อสถานการณ์ และพร้อมรายงานความคืบหน้าต่อรัฐบาลในช่วงเดือนสิงหาคมนี้” นายจุลพันธ์กล่าว
ด้านนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สินค้าสวมสิทธิยังเป็นข้อกังวลในการค้าระหว่างประเทศ โดยยอมรับว่ายังไม่มีความชัดเจนในหลายประเด็น เช่น สินค้าที่นำเข้ามาในลักษณะเพียงผ่านแดน แล้วถูกแปะป้ายแหล่งผลิตใหม่ ซึ่งอาจเข้าข่ายสวมสิทธิ หากไม่ได้มีการแปรรูป หรือเพิ่มมูลค่าอย่างแท้จริง
“อย่างถ้าสินค้าจากประเทศหนึ่งเปลี่ยนฉลากเป็นอีกประเทศ แล้วส่งออกต่อ มันก็ถือว่าสวมแน่ ๆ ถ้าแค่เติมเนื้อหาท้องถิ่น (Local Content) ไป 10-20% แล้วแปะใหม่ แบบนั้นก็ไม่แฟร์” นายลวรณกล่าว
ทั้งนี้ ยังระบุว่า ขณะนี้ไทยยังอยู่ระหว่างหารือกับสหรัฐ เพื่อทำความเข้าใจในกติกาการค้าระหว่างกัน โดยเฉพาะการคำนวณ RVC (Regional Value Content) ซึ่งมีความสำคัญต่อการพิจารณาว่าสินค้าใดจะได้รับสิทธิพิเศษทางภาษี
“ตอนนี้มีตัวเลขที่คาดกันว่า RVC จะอยู่ที่ 50-60% แต่ยังไม่แน่นอน ต้องรอการสรุปข้อตกลงก่อน ซึ่ง RVC ก็คือการนับเนื้อหาส่วนประกอบจากประเทศพันธมิตรในภูมิภาคที่อยู่ในข้อตกลงด้วยกัน ไม่ใช่แค่จากประเทศไทยเท่านั้น” นายลวรณระบุ
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : คลังลุยป้องกันปัญหาสินค้าสวมสิทธิ เร่งถกสหรัฐกำหนดสัดส่วน RVC
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net