สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 2 ส.ค. 68
1. สรุปสถานการณ์น้ำ ปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ : จ.น่าน (83 มม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.หนองคาย (43 มม.) ภาคกลาง : จ.สิงห์บุรี (10 มม.) ภาคตะวันออก : จ.จันทบุรี (56 มม.) ภาคตะวันตก : จ.เพชรบุรี (3 มม.) ภาคใต้ : จ.สุราษฎร์ธานี (97 มม.)
สภาพอากาศวันนี้ : หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนน้อย
คาดการณ์ : ช่วงวันที่ 3 – 4 ส.ค. 68 หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน จะทำให้ประเทศไทยมีฝนน้อย แต่ยังคงมีฝนบางแห่งบริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ส่วนในช่วงวันที่ 5 – 7 ส.ค. 68 ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนบน เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย
2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 64% ของความจุเก็บกัก (51,891 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 48% (27,773 ล้าน ลบ.ม.)
สทนช. ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการ เพื่อรองรับปริมาณน้ำที่อาจเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูฝน โดยเน้นการลดความเสี่ยงจากอุทกภัยและเตรียมความพร้อมในทุกภาคส่วน พร้อมทั้งสร้างการรับรู้แก่ประชาชน ประชาสัมพันธ์การแจ้งเตือน และจัดเตรียมมาตรการช่วยเหลือผ่านช่องทางต่าง ๆ อย่างทั่วถึงและทันท่วงที
3. พื้นที่ประสบอุทกภัย : สถานการณ์อุทกภัย วันที่ 1 ส.ค. 68 ในพื้นที่ 4 จ. 13 อ. ได้แก่ จ.เชียงราย (อ. เมืองเชียงราย เวียงเชียงรุ้ง เชียงของ ดอยหลวง และขุนตาล) จ.น่าน (อ.เวียงสา) จ.สุโขทัย (อ.เมืองสุโขทัย ศรีสำโรง สวรรคโลก ศรีสัชนาลัย และศรีนคร) และ จ.พิษณุโลก (อ.บางระกำ และพรหมพิราม)
4. ข่าวประชาสัมพันธ์ : วานนี้ (1 ส.ค. 68) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และประธานคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย ได้มอบหมายให้ ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ และติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.นครพนม และบึงกาฬ เพื่อติดตามการเตรียมความพร้อมในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย และรับฟังความต้องการของจังหวัดในการขอรับการสนับสนุนเพิ่มเติมจากรัฐบาล
ในการนี้ นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ร่วมลงพื้นที่บริเวณลานพญาศรีสัตตนาคราช ถนนสวรรค์ชายโขง และจุดสูบน้ำเทศบาลเมืองนครพนม ต.ในเมือง อ.เมืองนครพนม จากนั้นเดินทางไปยัง จ.บึงกาฬ โดยมีนายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ร่วมลงพื้นที่บริเวณฝายห้วยกำแพง ต.โคกก่อง และลำห้วยป่าน จุดสูบน้ำบริเวณโรงเรียนบึงกาฬ และโรงพยาบาลบึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ ตามลำดับ
ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ สทนช. จัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ ณ จ.หนองคาย ตั้งแต่เมื่อช่วงต้นเดือน ก.ค. 68 ที่ผ่านมา และให้ สทนช. ประสานงานร่วมกับสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRCS) เพื่อบริหารจัดการน้ำร่วมกัน โดยเฉพาะในพื้นที่แม่น้ำโขงตอนบนที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เนื่องจาก สปป.ลาว มีลำน้ำสาขาหลายสายและเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำจำนวนมาก ซึ่งทั้ง 2 ประเทศได้ร่วมดำเนินงานผ่านคณะทำงานเฉพาะกิจฯ อย่างใกล้ชิด ในส่วนของประเทศไทย สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการพร่องน้ำจากเขื่อนและลำน้ำต่าง ๆ ที่ไหลลงแม่น้ำโขงไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ก่อนเข้าสู่ฤดูฝน รวมทั้งได้ประชุมเตรียมการร่วมกับ 4 จังหวัดริมโขงที่มีความเสี่ยงในช่วงวันที่ 24 – 26 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา ได้แก่ จ.หนองคาย บึงกาฬ นครพนม และมุกดาหาร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 1 ส.ค. 68