โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

‘ครม.-322สส.’มีหนาว บี้เช็กบิลเหมือนพิเชษฐ์

ไทยโพสต์

อัพเดต 4 สิงหาคม 2568 เวลา 3.26 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“สรวงศ์” เผยทีมยุทธศาสตร์พรรคเตรียมเคาะคนนั่งเก้าอี้รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ก่อนส่งที่ประชุม สส.เพื่อไทยมีมติ ชี้ไม่ได้กำหนดโควตาเป็นของภาคไหน ดูความเหมาะสมเป็นหลัก “เรืองไกร” ตามขยี้คำวินิจฉัยศาล รธน.ที่เขี่ย “พิเชษฐ์” หลุดเก้าอี้ ชี้ ครม.และ สส. 322 คนต้องไปตาม เตือน สส.-สว.ที่นิ่งเฉยอาจเจอ 2 เด้ง

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม 2568 ยังคงมีความต่อเนื่องกรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส.เชียงราย และรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 พ้นจากตำแหน่ง และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี จากการผันงบประมาณลงพื้นที่ตัวเองขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 144 วรรคสอง

โดยนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ว่ากำลังสรรหาและพูดคุยกันอยู่ เพราะเราต้องดูความเหมาะสมด้วย โดยต้องดูบุคคลที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ และไม่ได้กำหนดว่าจะเป็นโควตาของภาคไหน ดูเรื่องของความเหมาะสมเป็นหลัก

“ทีมคณะทำงานด้านยุทธศาสตร์ของพรรคจะประชุมพูดคุยกัน เพื่อคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมส่งให้ที่ประชุม สส.ของพรรคเพื่อไทยมีมติในวันที่ 5 ส.ค. เพราะโควตารองประธานสภาฯ คนที่ 1 เป็นของพรรค”

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี และโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวในเรื่องนี้ว่า โควตาดังกล่าวเป็นของพรรค พท. ซึ่งผู้ใหญ่คุยกันเรียบร้อย ฉะนั้นเราในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลต้องเคารพในสัดส่วนของพรรค ไม่เสนอชื่อใคร หรือส่งใครลงชิงตำแหน่งดังกล่าวแข่งแน่นอน

ขณะที่ นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร เลขาธิการพรรคกล้าธรรม โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ขอโอกาสพรรคกล้าธรรมแสดงผลงานในฐานะรองประธานสภาฯ

วันเดียวกัน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ในฐานะกรรมาธิการงบประมาณปี 2569 ระบุว่า ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (อีเอ็มเอส) เพื่อขอให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รีบส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคณะรัฐมนตรี (ครม.) และ สส.ที่ลงมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ต้องพ้นจากตำแหน่งหรือสิ้นสุดสมาชิกภาพตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 1 ส.ค.2568 หรือไม่ และ สส. 121 คน (ผู้ร้อง) หรือสมาชิกวุฒิสภาที่ไม่เสนอความเห็นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไปตามผลของคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จะมีความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ตามความในมาตรา 234 (1) หรือไม่

นายเรืองไกรกล่าวว่า ในคำร้องได้สรุปเป็นข้อๆ ประกอบด้วย 1.เมื่อวันที่ 1 ส.ค.2568 ตามข่าวศาลรัฐธรรมนูญที่ 27/2568 ศาลรัฐธรรมนูญโดยเสียงข้างมากวินิจฉัยสรุปได้ว่า ศาลรัฐธรรมนูญโดยเสียงข้างมาก (5 ต่อ 4) วินิจฉัยว่านายพิเชษฐ์มีส่วนในการเสนอการแปรญัตติ หรือการกระทำใดๆ ในโครงการทั้งสาม และศาลรัฐธรรมนูญโดยเสียงข้างมาก (6 ต่อ 3) วินิจฉัยว่าเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสอง และวินิจฉัยว่า สมาชิกภาพของ สส.ผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกร้องมีกำหนดเวลา 10 ปี

2.ผลของคำวินิจฉัยมีเหตุมาจากการจัดทำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ตามมติ ครม. ซึ่งลงนามโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ 3.ในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 มาตรา 30 ลำดับที่ 3 มีงบของสภาผู้แทนราษฎรด้วย 4.ในการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2569 วาระหนึ่ง ขั้นรับหลักการ สส.ฝ่ายค้านได้อภิปรายเกี่ยวงบประมาณดังกล่าวแล้ว แต่ ครม.มิได้ถอนร่างกฎหมายดังกล่าวกลับไปแก้ไข และ สส.ได้ลงมติเห็นชอบในวาระที่หนึ่งด้วยคะแนนเสียง 322 เสียง

5.ในวันที่ 13 มิ.ย.2568 สส. 121 คน ได้เข้าชื่อร้องศาลรัฐธรรมนูญว่านายพิเชษฐ์กระทำอันฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 ซึ่งต่อมาศาลรัฐธรรมนูญรับไว้วินิจฉัย 6.ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 สำหรับงบประมาณที่ถูกร้องนั้น เมื่อวันที่ 18 ก.ค.2568 คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ได้ลงมติให้ปรับลดงบประมาณดังกล่าวรวม 3 รายการ จำนวนเงิน 178,125,000 บาทออกไปแล้ว ด้วยคะแนนเสียง 45 เสียง จากองค์ประชุม 48 คน 7.ผลของคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 1 ส.ค.2568 เห็นได้ว่า เป็นการวินิจฉัยที่รวมไปถึงขั้นตอนการจัดทำงบประมาณของ ครม. และการลงมติในวาระที่หนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้น กรณีจึงไม่ควรร้องเฉพาะตัวผู้ถูกร้อง (นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน) เพียงคนเดียวเท่านั้น

8.ผลของคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ประกอบกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏชัดว่า ครม.ทั้งคณะมีส่วนในการจัดทำงบประมาณของผู้ถูกร้องด้วยแล้ว และ สส.จำนวน 322 คน ได้ลงมติรับหลักการในวาระที่หนึ่ง ทั้งที่มีการอภิปรายเกี่ยวกับความไม่ชอบของงบประมาณของสภาทั้ง 3 รายการดังกล่าวแล้ว ครม.กลับไม่ถอนร่างกลับไปแก้ไขให้ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 และ สส.ไม่ลงมติไม่รับหลักการเพื่อไม่ให้เกิดการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 ดังนั้น ครม.และ สส.จึงต้องรับผิดชอบเช่นเดียวกับผู้ถูกร้อง

“9.ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 1 ส.ค.2568 แล้ว กลับยังไม่พบการกระทำในส่วนของ สส.หรือ สว.ที่จะทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสาม แต่อย่างใด กรณีจึงมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสี่”

10.สำหรับ สส.หรือ สว.ที่ทราบผลของคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญแล้ว แต่ไม่เสนอความเห็นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสาม เพื่อให้ ครม.พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ หรือเพื่อให้ สส. 322 คน สิ้นสุดสมาชิกภาพด้วยหรือไม่นั้น ผู้ร้องหรือ สว.จะมีความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ตามความในมาตรา 234 (1) หรือไม่ และ 11.ผลจากคำวินิจฉัยดังกล่าวจะเป็นเหตุให้การแปรญัตติเพิ่มงบประมาณที่ ละ 1.ราษฎรครม.เสนอมา จะทำให้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่ร่วมลงมติในงบแปรญัตติ มีส่วนไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่าย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 วรรคสอง อันเป็นความผิดเช่นเดียวกัน

ด้านนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ว่าเราพิจารณาทุกหน่วยงานจบแล้ว โดยในวันที่ 5 ส.ค. จะเป็นการพิจารณาการแปรญัตติหลังจากที่อนุ กมธ.ตัดงบประมาณไปแล้วว่าเราจะแปรงบประมาณไปให้หน่วยงานไหนบ้าง หรือบางครั้งหน่วยงานที่ถูกตัดงบประมาณเขาก็อุทธรณ์มาในห้อง กมธ.ชุดใหญ่ ส่วนวันที่ 6 ส.ค. จะเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายเพื่อสรุปภาพรวม ทั้งนี้ จะเข้าสู่การพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎร วาระ 2 และ 3 ในวันที่ 13-15 ส.ค. โดยจะพิจารณาเรียงเป็นรายมาตรา

เมื่อถามว่า จะไม่เกินไปเป็นวันที่ 16 ส.ค.ใช่หรือไม่ นางมนพรกล่าวว่า ใช่ ไม่เกิน

เมื่อถามต่อว่า จะนัดประชุมกับคณะกรรมการประสานงานในสภาผู้แทนราษฎร (วิป) 2 ฝ่ายวันไหนบ้าง นางมนพรกล่าวว่า ไม่น่ามีประชุมอะไร เพราะปกติเราก็วางไทม์ไลน์ไว้เช่นนี้ และไม่ต้องจัดสรรเวลาอะไร ไม่เหมือนชั้นรับหลักการวาระ

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี และโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ในวาระ 2 และ 3 ในวันที่ 13-15 ส.ค.ว่า เรามี สส.ที่แปรญัตติไว้หลายคน ซึ่งจะอภิปรายในรายมาตรา และการปรับลดงบประมาณในแต่ละกระทรวง แต่ละหน่วยงานที่มีความไม่เหมาะสม เราก็จะปรับลดลง และคงไม่ได้เตรียมอะไรเหมือนวาระ 1 เพราะเป็นการอภิปรายคนละรูปแบบคนละลักษณะกัน.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

‘วิน ศิริวงศ์’ จูงมือแฟนสาว เข้าพิธีแต่งงานสุดอบอุ่น

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วันที่ทหารเสียชีวิตคุณอยู่ไหน?

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ถอยเถิดทหารกล้า?

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

งานด่วนในมือ พม.

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

ด่วน! ชาวบ้านผวา ได้ยินเสียงดังบนท้องฟ้าพร้อมลูกไฟขนาดใหญ่

Khaosod

อินเดียยังคงนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย แม้ทรัมป์ขู่ลงโทษ

JS100

สหราชอาณาจักรขู่จำคุกผู้ลักลอบขนคนเข้าเมืองที่ลงโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย

JS100

เผยวงจรปิดอีกมุม หลัง "เป๊ก ผลิตโชค" ถูกแทง ก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง

Khaosod

ไฟฟ้าดับวันนี้ 4-6 ส.ค.นี้ กทม. นนทบุรี สมุทรปราการ อัปเดตที่นี่

ฐานเศรษฐกิจ

อินเดียไม่สนคำขู่ทรัมป์ สั่งซื้อน้ำมันรัสเซียต่อ ด้านมอสโกเริ่มซ้อมรบร่วมกับจีน ในเขตทะเลญี่ปุ่น

Manager Online

ภูเขาไฟรัสเซียปะทุครั้งแรกในรอบกว่า 500 ปี

JS100

แฉทรัมป์‘หมกมุ่น’อยากได้รางวัลโนเบลสันติภาพ เพราะโหยหาเกียรติยศ-ริษยาโอบามา-ลิ่วล้อเชลียร์

Manager Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...