โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ดร.พิชาย สะท้อน ‘รัฐกล้วยาธิปไตย : จากหีบเลือกตั้งถึงห้องแจกงบ’ อนาคตเหลือแค่ ปชต. ฉาบด้วยเปลือกกล้วย

ไทยโพสต์

อัพเดต 14 กรกฎาคม 2568 เวลา 1.55 น. • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

13 ก.ค.2568-รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อาจารย์คณะพัฒนาสังคมและยุทธศาสตร์การบริหาร สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่อง “รัฐกล้วยาธิปไตย: จากหีบเลือกตั้งถึงห้องแจกงบ” เนื้อหาระบุว่า นี่ไม่ใช่ประเทศประชาธิปไตย ไม่ใช่เผด็จการทหาร ไม่ใช่ระบอบอภิชนาธิปไตย …แต่มันคือ “กล้วยาธิปไตย” ระบอบที่เสียงประชาชนคือของปลอม และผลประโยชน์คือเครื่องมือที่แท้จริงของอำนาจ

จุดเริ่มต้น: ซื้อเสียงคือสัญญาเช่าที่นั่งในสภา

การซื้อเสียงไม่ใช่อาชญากรรมในระบอบกล้วยาธิปไตย แต่มันคือ “ต้นทุนลงทุน”

เหมือนบริษัทจ่ายค่าเช่าพื้นที่ในห้าง ผู้สมัครจ่ายเงินสด แลกกับการได้สิทธิ์ประกอบกิจการทางการเมืองในเขตเลือกตั้งหนึ่ง

ผู้สมัครบางคนตั้งงบประมาณเขตละ 10 ล้านบาท ถ้าต้องแข่งกับตระกูลใหญ่ในพื้นที่ อาจต้องทุ่ม 30 ล้าน เงินส่วนนี้ไม่ใช่เพียง “ให้ชาวบ้าน” แต่รวมถึงหัวคะแนน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ครู ผู้จัดรายการวิทยุ และพระบางรูปที่ “ยืดหยุ่นได้” เมื่อเข้าสภา กล้วยกลายเป็นค่าใช้จ่ายประจำ หลังการเลือกตั้ง ผู้แทนที่ชนะด้วยเงิน

ย่อมมีเป้าหมายเดียว: เอาเงินคืน พร้อมดอกเบี้ย

งบพัฒนาพื้นที่ คือวิธีเอากล้วยคืนจากกระทรวง การเสนอชื่อเข้าสู่กรรมาธิการ คือทางลัดสู่ “งบโครงการ” การย้ายพรรคคือการ เปลี่ยนสวน เพื่อหากล้วยที่ “หอมกว่า ใหญ่กว่า และแจกง่ายกว่า” ในโลกอุดมคติ งูเห่าอาจถูกประณาม แต่ในกล้วยาธิปไตย งูเห่าคือสิ่งจำเป็น พวกมันคือผู้รักษาสมดุล ทำหน้าที่ “เบี่ยงสมอง” จากประชาชนไปยังผู้มีอำนาจ งูเห่าอาจหักหลังพรรค

แต่ไม่เคยหักหลังกล้วย เพราะกล้วยให้ความชุ่มฉ่ำแบบที่อุดมการณ์ไม่เคยให้ได้

กลไกเชิงโครงสร้าง: ทำไมกล้วยจึงฝังแน่น?

รัฐธรรมนูญแบบบิดเบี้ยว สร้างระบบพรรคเล็ก พรรคเฉพาะกิจ พรรคขนส่งกล้วย สร้างระบบสัดส่วนบิดเบี้ยวที่ทำให้ “เสียงประชาชนมาก” แพ้ “เสียงกล้วยรวมกัน” ระบบราชการที่รับใช้ทุนการเมือง กลุ่มทุน-ราชการใหญ่-นักการเมืองกลายเป็น “กลุ่มผลประโยชน์เชิงกล้วย” กระทรวงคือโรงงานกล้วย กรมคือสายพาน นักการเมืองคือตัวแทนขายส่ง ประชาชนที่ถูกทำให้จนพอที่จะขายเสียง ไม่มีรัฐอนุรักษ์นิยมจารีตไหนที่ผู้มีอำนาจอยากให้ประชาชนมั่งคั่ง เพราะประชาชนที่ลำบากจะพร้อมแลกเสียงกับ “สิ่งของจำเป็นระยะสั้น” ถ้าคุณไม่มีเงินกินข้าววันนี้ อุดมการณ์ประชาธิปไตยก็ไม่สำคัญอีกต่อไป

เมื่อไหร่เราจะเลิกใช้กล้วยเป็นเงินตราการเมือง? เมื่อการเมืองไม่มีต้นทุนสูงจนคนดีเข้าไม่ถึง เมื่อพรรคการเมืองไม่ต้องประกันงบพื้นที่เพื่อคุม ส.ส. เมื่อเราเลิกเรียกการ “ซื้อเสียง” ว่า “ช่วยเหลือประชาชน” และเมื่อประชาชนเลือกผู้นำจากนโยบาย ไม่ใช่จากน้ำหนักถุงข้าวสาร หากเรายังปล่อยให้ระบอบกล้วยาธิปไตยเติบโต เราอาจต้องยอมรับว่าสภาคือ “ตลาดนัดผลไม้” ที่กล้วยราคาดีมีค่ากว่าเสียงประชาชน และถ้าไม่มีใครโค่นต้นกล้วยในระบบ

อนาคตเราจะเหลือแค่ “ประชาธิปไตยฉาบด้วยเปลือกกล้วย”

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

‘อิ๊งค์’ ทำให้คิดถึง ‘ลุงตู่’

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘ไม่มี’..คือคำตอบ!

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ปิดประตูตีมาร

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ผุด‘ฉก.อินเตอร์’ ปราบแก๊งคอลฯ ‘พท.’ฟุ้งคุม‘มท.’

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม