กลุ่มอิทธิพลกว้านซื้อที่ดินขายให้นายทุน และพยายามหุบดอยสาธารณะของชาวบ้านขายให้นายทุน
เชียงราย-กลุ่มอิทธิพลกว้านซื้อที่ดินขายให้นายทุน และพยายามหุบดอยสาธารณะของชาวบ้านขายให้นายทุน
วันที่ 14 ก.ค.2568 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านหนองบัวสด ม.5 ต.ป่าสัก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ตัวแทนของชาวบ้าน กลุ่มร่วมน้ำใจพิทักษ์ดอยสันสูง จำนวน 25-30 คน จากที่มีผู้มีอิทธิพลเขตพื้นที่อำเภอเชียงแสน กว้านซื้อที่ดินรอบดอยสันสูง บ้านหนองบัวสด ต.ป่าสัก อ.เชียงแสน เพื่อขายให้กับนายทุน แลกเอาเงินเข้ากระเป๋าตนเอง ซึ่งดอยวันสูงอยู่ท้ายหมู่บ้านหนองบัวสด เป็นที่ดอยสาธารณะผืนสุดท้ายของชาวบ้าน บนเนื้อที่ 102 ไร่ ที่ชาวบ้านต้องการทำเป็น ที่ดินผืนสุดท้ายปลูกป่า ฝากไว้ให้ลูกหลาน ซึ่งที่ผ่านมา ผู้มีอิทธิพลพยายามครอบครอง เพื่อนำไปขายให้นายทุน ได้ผลกำไรเข้ากระเป๋าตนเอง ชาวบ้านจึงลุกขึ้นปกป้อง ร่วมกันมาประมาณ 3-4 ปี ที่ผ่านมา จนมีการต่อสู้กับผู้มีอิทธิพลมาโดยตลอด ถึงขั้นขู่ยิง จนมีที่มาที่ไปเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เพื่อปกป้องผืนดินไว้ทำผืนป่าให้ลูกหลาน
นายดำรง ตอบุญธง อายุ 70 ปี (อดีตครู ข้าราชการ) เป็นชาวบ้านหนองบัวสด ได้ร่วมกับชาวบ้านต่อสู่ปกป้องผืนดอยสุดท้ายของหมู่บ้าน กล่าวว่า ดอยสันสูงเป็นผืนดอยที่ชาวบ้านอาศัยหาของป่ากินมาหลายยุคหลายสมัย ประมาณปี 2567 ได้มีกลุ่มอิทธิพลได้กว้านซื้อที่ดินรอบดอยสันสูงขายให้นายทุน จนเหลือแต่ปลายดอยก็พยายามหุบเอา โดยใช้รถมาปรับดอย จนโล่งเตียนและห้ามชาวบ้านขึ้นไป ทำให้ชาวบ้านไม่กล้าขึ้นไปตั้งแต่นั้น ซึ่งดอยสันสูงไม่มีเอกสารสิทธิ์ว่าใครเป็นผู้ครอบครองชัดเจน ผู้มีอิทธิพลเข้าปรับที่ทำให้ไม่มีต้นไม่อุ้มน้ำ เวลาฝนตกน้ำได้ไหลเข้าหมู่บ้านพาดินโคลนเข้าไปด้วย สร้างความเดือนร้อนให้ชาวบ้าน
ซึ่งประมาณ 1 ปีที่ผ่านมาชาวบ้านร่วมกันทำหนังสือเข้าร้องป่าไม้เชียงราย กรมที่ดินเชียงราย สำนักงานที่ดินเชียงแสน ปปช.เชียงราย ผวจ.เชียงราย ศูนย์ดำรงธรรม ซึ่งยังไม่ได้คำตอบจากหน่วยงานไหน ที่ดินดอยสันสูงไม่มีเอกสารสิทธิ์ชื่อใครเป็นผู้ครอบครองตามกฎหมาย ซึ่งตอนนี้ยังรอคำตอบจากกรมพัฒนาที่ดิน เป็นที่สุดท้าย
ซึ่งความหวังของประชาชนที่สู้กับกลุ่มอิทธิพล ที่หวังหุบเอาที่ดินดอย สาธารณะนำไปขายให้นายทุนหวังเอาเงินเข้ากระเป๋าตนเอง ชาวบ้านไปร้องหอบหลักฐานไปทุกหน่วยงาน เรื่องยังเงียบ ตรวจสอบที่ดินทางที่ดินยังชี้ว่าไม่มีใครเป็นเจ้าของมาก่อน และทางชาวบ้านได้สอบถามไปยัง อบต.ทราบว่าที่ดินผืนดังกล่าวไม่มีการชำระภาษีมาแต่อย่างใด ขณะที่ได้สอบถามไปยังผู้นำชุมชน ทราบว่ามีคนมีสีเป็นคนดูแล จึงไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวหวันมีอันตราย