โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

"จตุพร" ประกาศภารกิจขับ "นายกฯ ตระกูลชินวัตร" พ้นอำนาจ ลั่นไทยอยู่ใต้ระบอบ "เสือกเป็นใหญ่"

สยามรัฐ

อัพเดต 2 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว

เปิดภารกิจ ปชช. กระตุ้นร่วมแรงเอานายกฯ ตระกูลชินออกจากแผ่นดินไทย ขจัด สทร.ลุอำนาจ ลั่นบ้านเมืองปกครองด้วยระบบ “เสือกเป็นใหญ” ไม่ได้ ฟาดนำคนโกงเป็นจิตวิญญาณพรรครัฐบาลได้อย่างไง ขืนอยู่กันแบบนี้ฉิบหายแน่ แนะบ้านเมืองต้องพ้นจากสภาพเฮงซวยของคนเก่งหน้าบาง แต่คนมีอำนาจหน้าด้าน

เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ปราศรัยเวทีความจริงมีหนึ่งเดียว ครั้งที่ 3 ที่หอประชุมเล็ก (ศรีบูรพา) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยระบุภารกิจของประชาชนว่า ประเทศไทยจะปลอดภัยจากการอยู่ใต้อาณัติสมเด็จฮุนเซน และกัมพูชา ต้องเอานายกฯ จากตระกูลชินวัตร ออกจากแผ่นดินไทย แล้วเปิดทางให้คนที่เห็นแก่ประโยชน์ชาติมากกว่าประโยชน์ส่วนตัวมาเป็นผู้ปกครอง เพื่อปิดโอกาสคนเสือกได้มีอำนาจในประเทศ

อีกทั้งกล่าวว่า วันนี้ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงการปกครองมาถึงยุคคำว่า "เสือก" เป็นคำที่มีอำนาจสูงสุด และ สทร.กลายเป็นตำแหน่งที่ใหญ่กว่า สร.1 (รหัสเรียกตำแหน่งนายกฯ) แล้วคนเสือกทุกเรื่องใครก็กลัว จนทำให้ประเทศไม่ได้ปกครองในระบอบประชาธิปไตย แต่เป็นประชาธิปเสือก ซึ่งเป็นการปกครองของเสือก โดยเสือก และเพื่อเสือก ไม่มีใครทำอะไรคนเสือกได้

กรณีทักษิณ ชินวัตร ผู้นิยามบทบาทตัวเองเป็น "สทร." คือเสือกทุกเรื่อง ให้สัมภาษณ์ในรายการผ่าทางตันประเทศไทย เมื่อ 9 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น นายจตุพร กล่าวว่า เป็นการพูดเท็จและโคตรโกหกที่สุด โดยสร้างเรื่องเล่าขึ้นมาใหม่เกี่ยวกับคลิปเสียงหลุดระหว่างนายกฯ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ถูกศาลสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ กับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา

พร้อมเชื่อว่า การสร้างเรื่องเล่าใหม่นั้น ถ้าทักษิณ ไม่เตรียมการนัดแนะกับฮุนเซนมาก่อนคงไม่กล้าพูด เพราะเรื่องเล่าของทักษิณ ไม่มีข้อเท็จจริงที่นายกฯ อุ๊งอิ๊งแถลงข่าวปฎิเสธมาแล้วถึง 4 ครั้งเลย

โดยสาระสำคัญการแถลงครั้งแรก นายกฯ อุ๊งอิ๊งสารภาพว่า นึกไม่ถึงจะถูกอัดคลิป ครั้งสองเปิดปากขออภัยประชาชน ครั้งที่สามทายท้าว่า "ดิฉันไม่ได้อะไร ประเทศก็ไม่เสียอะไร” ส่วนครั้งที่สี่บอกแบบปัดรำคาญให้พ้นว่า ขอโทษถ้าทำให้ไม่สบายใจ ดังนั้น จึงแสดงว่า ไม่ได้สำนึกในสิ่งที่กระทำไม่เหมาะสมลงไป

นายจตุพร กล่าวถึงเรื่องเล่าที่ทักษิณเสริมแต่งขึ้นใหม่ว่า ผอ.ฮวด ล่ามคนสนิทฮุนเซนที่ส่งมาประสานงานเจรจากับนายกฯ อุ๊งอิ๊ง ที่โรงแรมโรสวูด โดยมี รมว.กลาโหม รมว.ต่างประเทศและเลขาธิการนายกฯ ร่วมอยู่ด้วย แต่เมื่อถึงเวลานัดคุยกัน ฮุนเซนนอนหลับ ต้องรอนานกว่า 3 ชั่วโมง ทักษิณจึงบอกลูกสาวไม่ต้องรอมัน ให้แยกย้ายกันกลับ

สิ่งสำคัญ หลังจากแยกกันแล้ว ทักษิณบอกว่า ฮุนเซนโทรศัพท์หานายกฯ อุ๊งอิ๊ง พร้อมบอกเวลาที่รอ 3 ชั่วโมงนั้น ฮุนเซนวางแผนบันทึกคลิปเสียง ทั้งที่เสียงในคลิปหลุดนายกฯ อุ๊งอิ๊งพูดภาษากัมพูชาทักทายฮุนเซนก่อน ดังนั้น จึงไม่ควรปล่อยให้นายกฯ อุ๊งอิ๊งอยู่คนเดียวเพราะจะเสียค่าโง่ให้ประเทศเพื่อนบ้าน

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ฮุนเซนไม่มีวันโทรตรงหานายกฯ อุ๊งอิ๊ง ต้องโทรหา ผอ.ฮวดก่อน เพราะเป็นล่ามเพื่อติดต่ออุ๊งอิ๊ง แต่ สทร.กลับสื่อว่า ฮุนเซนโทรตรงหานายกฯ เลย ซึ่งเป็นการแต่งเรื่องเล่าใหม่ขึ้นมาโกหก

"บ้านเมืองนี้อยู่ด้วยการหลอกลวงกันมาตลอด และเรื่องนี้เสมือนหนึ่งว่า เป็นชัยชนะสามารถอธิบายความได้เสร็จสิ้น ที่สำคัญ สทร.ใช้เวลาร่วมเดือนคิดได้แค่นี้เหรอ จึงเป็นคนที่มีควาามรู้สึกช้า ถ้าเป็นเรื่องจริง เขา (ฮุนเซน) ออกคลิปจัดการลูกตัวเองเกือบเดือนจึงเกิดโมโห ช่างใจถึงมากจริงๆ"

พร้อมทั้งกล่าวว่า ทักษิณออกมาพูดเรื่องเล่านี้ในวันที่ 9 ก.ค. ซึ่งเป็นวันยื่นหมูยื่นแมวกรณีพรรคเพื่อไทยถอนร่าง พรบ.บ่อนกาสิโนออกจากที่ประชุมสภาเรียบร้อยแล้ว คงหวังว่าฮุนเซนได้สบายใจ ดังนั้น สิ่งที่ผิดใจกันมาตลอดจึงเจ๊ากันไป

อย่างไรก็ตาม นายจตุพร เชื่อว่า เรื่องเล่านี้เป็นผลประโยชน์ส่วนตัวทั้งสิ้น และหลังจากนี้ประเทศชาติจะเสียประโยชน์ โดยก่อนหน้านี้สิ่งผิดใจกันกรณีแบ่งผลประโยชน์พลังงานในทะเล 50 ต่อ ต่อ แต่ไม่ทำ กระทั่งเกิดเหตุทหารชายแดนสองฝ่ายปะทะกันที่ช่องบก แล้วมาถึงคลิปหลุด ซึ่งสิ่งผิดใจกันแสดงว่า ไม่เกี่ยวกับผลประโยชน์ของประเทศชาติเลย

แต่นับจากนี้ไป ไทยเสมือนหนึ่งตกเป็นเมืองขึ้นของกัมพูชา เมื่อขัดใจฮุนเซนจะส่งเสียงดังตามมา เอาคลิปข่มขู่อีก แต่เมื่อสมประโยชน์แล้วก็เงียบกริบ ถ้าวันหน้าจะเอาประโยชน์อีกคงนำคลิปมาเปิดอีก

"ดังนั้น ประเทศไทยจะปลอดภัยที่สุดคือ เอานายกฯ จากตระกูลชินวัตร ออกจากแผ่นดินไทยให้ได้ เอาคนที่ไม่ตกอยู่ภายใต้อาณัติใดๆ เอาคนที่เห็นแก่ประโยชน์ชาติมากกว่าประโยชน์ส่วนตัวมาเป็นผู้ปกครองของเรา”

ส่วนกรณีภาษีทรัมป์ นายจตุพร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทักษิณ โชว์ฟอร์มของอนุญาติศาลอาญาออกนอกประเทศเพื่อไปดักรอพบประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ ของสหรัฐที่ประเทศการ์ต้า ซึ่งเป็นข้ออ้างไม่สมเหตุสมผลที่สุด ศาลจึงไม่อนุญาติ

นอกจากนี้ สทร.ยังบอกได้ว่า คุยกับคนใกล้ชิดประธานาธิบดีทรัมป์หมดแล้ว ส่วนายกฯ อุ๊งอิ๊งยังอ้างว่า กำลังเจรจาทางลับอยู่ ปรากฎว่าทีมไทยแลนด์ไปเจรจาต้องเสียค่าจ้างล็อบบี้ยีสต์มากกว่า 100 ล้านบาท แต่ได้ภาษีทรัมป์ที่เก็บกับไทย 36% ตามเดิมอีก แล้งยังมีหน้าปลอบคนไทยไม่ให้ตกใจ

"ขอบอกไปยัง สทร.ว่า ไม่มีใครตกใจเพราะที่พูดมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีอะไรสำเร็จสักเรื่อง แต่จำไว้อย่างว่า อย่าเอาภาษีทรัมป์แลกกับการตั้งฐานทัพอเมริกาในไทยเด็ดขาด เพราะในอดีตไทยเจ็บช้ำเรื่องนี้มาตลอดที่ทำให้ประเทศเพื่อนบ้านเจ็บแค้นเคืองไทย"

อีกทั้งกล่าวว่า ไม่เชื่อสหายอ้วน-นายภูมิธรรม เวชยชัย รมว.มหาดไทย รักษาการนายกฯและทีมไทยแลนด์จะจัดการภาษีทรัมป์ได้ สิ่งสำคัญสหรัฐขึ้นแบล็กลิส รมต.ไทยกรณีส่งอุยกูร์ให้จีนนั้น มีชื่ออะไรบ้าง เพราะทีมไปเจรจาภาษีทรัมป์ไม่มีแม้แต่ชื่อ รมว.ต่างประเทศไทย และขึ้นบัญชีนายกฯ อุ๊งอิ๊งไว้หรือไม่ ดังนั้น การปล่อยให้คนพวกนี้ละเลงแผ่นดินจนปล่อยให้ชาติย่อยยับในขณะนี้

กรณีรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายนั้น รัฐบาลมีแผนแรกไปซื้อสัญญาสัมปทานที่เหลือทั้งหมดแล้วจ้างเอกชนเดิมบริหารต่อ เมื่อถูกต่อต้านกลับมาใช้จ่ายเงินชดเชยให้ครบช่วงหนึ่งปี ซึ่งคนพวกนี้ไม่ได้คิดอะไรเลย เอาแต่แปรรูปหรือสอดไส้รายได้รัฐวิสาหกิจมาเป็นรายได้ของเอกชน

นอกจากนี้ สทร.ยังจะไปพูดวันที่ 17 ก.ค.นี้หัวข้อปลดล็อกประเทศไทย ทั้งที่ปลดล็อกคดีตัวเองจากปมชั้น 14 รพ.ตำรวจยังไม่ได้เลย ส่วนสถานการณ์การเมืองที่รัฐบาลเพื่อไทยโชคดีมีพรรคประชาชนเป็นฝ่ายค้านทำหน้าที่อภิปรายไม่ไว้วางใจดุดันในสภาตามทฤษฎีเล่าสู่กันฟัง แล้วกลับบ้านน้าตาเฉย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เมื่อฝ่ายค้านอภิปรายฯนายกฯ หลบเลี่ยงภาษี รุกที่ดินหลวงที่เขาใหญ่ และถือครองที่ดินวัดเป็นสนามกอล์ฟอัลไพน์ ซึ่งทั้งหมดเข้าข่ายผิดมาตรฐานทางจริยธรรม โดยฝ่ายค้านประกาศยุทธการโรยเกลือบาดแผลนายกฯ แต่ไม่ส่งเรื่องนายกฯ ให้ศาล รธน.วินิจฉัย กลับไปยื่นหนังสือถามหามาตรฐานการใช้ตั๋วพีเอ็นจากกรมสรรพากร ซึ่งเป็นหน่วยงานใต้บังคับบัญชาพรรคเพื่อไทยและท้ายสุดนายกฯ ก็รอดจากยุทธการโรยเกลือของเด็กเล่นขายของไป

"เคยหวังว่าฝ่ายค้านจะเป็นความหวังใหม่ โดยเขาพยายามอธิบายว่า นี้เป็นการเมืองของคนรุ่นใหม่ แต่โคตรดึกดำบรรพ์เลย เป็นไข่ไดโนเสาร์ชัดๆ เท่านั้นยังไม่พอยังออกแถลงการณ์ให้ประชาชนถอนตัวออกจากที่ชุมนุมอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเมื่อ 28 มิ.ย. ซึ่งเป็นพรรคไม่มีหลักยึดมั่น เพราะอ้างว่าเป็นการเรียกร้องรัฐประหาร แต่กลับให้ท้ายเยาวชนชุมนุมเรื่องสถาบัน"

นายจตุพร กล่าวถึงกรณีทักษิณจะทำการพนันออนไลน์ให้ถูกกฎหมายเพื่อดึงรายได้ 3 แสนล้านต่อปีว่า เมื่อรัฐบาลพรรคเพื่อไทยถอนร่าง พรบ.บ่อนกาสิโน แล้วมาคงการพนันออนไลน์ให้ถูกกฎหมาย ซึ่งจะทำให้เจ้ามือบ่อนกาสิโนในกัมพูชาได้ประโยชน์ ทั้งๆที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี มีหน้าที่ปราบปรามการพนันออนไลน์ กลับไม่ทำหน้าที่อย่างจริงจัง

อีกทั้งกล่าวว่า การเมืองไทยขณะนี้ ไม่ได้คิดเอาชาติบ้านเมืองเป็นหลัก แต่คิดแข่งกันไปปล้นงบประมาณแผ่นดินได้เงินไปซื้อเสียงเลือกตั้งเพื่อเข้าไปมีอำนาจ วนรอบกันไปเรื่อยๆ แบบนี้ ถ้าประเทศชาติปล่อยให้มีการปกครองเช่นนี้ย่อมรอคอยความฉิบหาย

นายจตุพร ย้ำว่า ประชาชนต้องจัดการพวกทำชาติฉิบหายเสียก่อน เพื่อให้แผ่นดินได้เจริญสูงขึ้น นอกจากนี้ คนพวกนี้ยังรวบงบประมาณ 1.5 แสนล้านโดยอ้างเอาไปกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่แบ่งจ่ายกันไปซ่อมถนน แล้วได้เงินเหลือไปซื้อเสียงเลือกตั้งอีกทอดหนึ่ง

"สิ่งสำคัญคือ อดีตนายกฯ สารภาพกับพระเจ้าแผ่นดินว่าได้ทุจริตจริง บัดนี้สำนึกแล้ว และบอกเคารพต่อกระบวนการยุติธรรม แต่ไม่ติดคุกสักวัน กลายเป็นผู้นำจิตวิญญาณของรัฐบาล เอาคนขี้โกงมาชี้นำประเทศได้อย่างไร มาสั่งการคนได้ทั้งหมด บ้านเมืองจะเป็นแบบนี้ไม่ได้"

ดังนั้น หากต้องการให้บ้านเมืองมีการเปลี่ยนแปลง สถาบันหลักของชาติต้องได้รับความคุ้มครองอย่างแข็งแรง อีกอย่างกติกา กฎหมายต้องมีความแข็งแรง มิเช่นนั้นแล้วประเทศจะหาทางฟื้นไม่ได้เลย เพราะเรามีแต่นักการเมืองไม่จักอิ่มมาปกครอง

นายจตุพร กล่าวว่า เราจำเป็นต้องล้างใหญ่กันเสียทีกับระบบเฮงซวยแบบนี้ เพื่อให้ประเทศไปในสิ่งที่ถูกต้อง โดยไม่อยู่กับสภาพคนเก่งหน้าบาง แต่คนมีอำนาจหน้าด้าน นอกจากนี้ สิ่งเลวร้ายในการปรับ ครม.ล่าสุด ขณะที่ไทยมีปัญหาดินแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน รัฐบาลไม่ตั้งตำแหน่ง รมว.กลาโหม ซึ่งเป็นการคิดแบบมิตินักการเมือง ไม่ใช่เอาปัญหาบ้านเมืองเป็นหลักยึด ซึ่งวิธีคิดแบบนี้ควรจบสิ้นกันได้แล้ว

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สยามรัฐ

"ลิเวอร์พูล" เตรียมทำลายสถิติย้ายทีมครั้งที่สอง คาดเซ็น "อีซัค" ค่าตัว 125 ล้านปอนด์!

14 นาทีที่แล้ว

"อาร์เซน่อล" จ่อคว้า "โยเคเรส" 63.5 ล้านยูโร เตรียมล่าต่อ "เอเบเรชี่ เอเซ่" จากพาเลซ

16 นาทีที่แล้ว

"โคนาเต้" ปัดเงินก้อนโตจากซาอุฯ ขอค้าแข้งยุโรปต่อ ท่ามกลางข่าว "มาดริด" จ้องคว้าตัวฟรี

17 นาทีที่แล้ว

"แมนยู" เปิดฉากเจรจาดึง "มาร์ติเนซ" เฝ้าเสา เสริมทัพลุ้นคืนฟอร์มแชมป์

18 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม