โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

ราคาทองคำผันผวนหนัก ผลตอบแทนครึ่งปียังยืนหนึ่ง

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สถานการณ์ราคาทองคำปีนี้ เหมือนขึ้น “รถไฟเหาะ” มีทั้งช่วงขึ้นแรง และลงแรง เป็นไปตามปัจจัยต่าง ๆ ที่เข้ามากระทบ โดยเฉพาะสงครามการค้า ที่มีการประกาศนโยบายภาษีของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐ และปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ จากกรณีการสู้รบระหว่าง “อิสราเอล” กับ “อิหร่าน” นอกจากนี้ แนวโน้มดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ

ทองยืนหนึ่งผลตอบแทนสูงสุด

“MTS GOLD” หรือห้างทองแม่ทองสุกระบุว่า ตลอดช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 ทองคำให้ผลตอบแทนรวมสูงถึง 26% ขึ้นแท่นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดอย่างต่อเนื่อง

ครึ่งปีหลังทองคำยัง “ขาขึ้น” ได้

ขณะที่ “จิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี” นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า ราคาทองที่ปรับตัวลงช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากสงครามระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านมีข้อตกลงหยุดยิง 12 วัน ซึ่งขณะนี้ก็ใกล้ครบ 12 วันแล้ว ทำให้เริ่มเห็นราคาทองขยับขึ้น ทั้งนี้ คาดว่าสงครามนี้คงไม่ได้ยุติเร็ว เพราะมีปัญหาขัดแย้งยืดเยื้อกันมานานแล้ว

“ราคาทองระยะยาวก็ยังเป็นขาขึ้นอยู่ เพราะสงครามการค้าคงไม่ได้จบง่าย ๆ นโยบายทรัมป์ก็ไม่แน่นอน ทำให้ไม่มีความเชื่อมั่น หลาย ๆ ประเทศก็กังวลภาวะเศรษฐกิจโลก ค่าเงินดอลลาร์ก็อาจจะอ่อนค่า ทำให้ทองคำมีความต้องการในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ราคาในระยะยาวก็คงขยับขึ้นอีก”

“นายกสมาคมค้าทองคำ” มองว่า ครึ่งปีหลังราคาทองแท่งไม่น่าหลุดต่ำกว่า 50,000 บาท โดยก่อนหน้านี้ที่มีหลุดไปบ้าง เป็นในเชิงเทคนิค ซึ่งตนยังมองว่า ไตรมาสสุดท้าย ทองจะขึ้นไปถึง 3,800 ดอลลาร์ ส่วนทองแท่ง ก็มองว่าจะขึ้นไปที่ 58,000 บาทได้

ทองในประเทศเจอ 2 เด้ง

โดย “ศิริลักษณ์ ปโกฏิประภา” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมา ราคาทองที่ปรับตัวขึ้นมา มาจาก 2 ปัจจัยหลัก ๆ คือ สงครามการค้าและความตึงเครียดในตะวันออกกลาง อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันสถานการณ์ตะวันออกกลางก็ไม่ตึงเครียดเท่าก่อนหน้านี้แล้ว

รวมถึงประเด็นสงครามการค้าก็ตึงเครียดลดน้อยลงต่อเนื่อง ทำให้เป็นปัจจัยลบต่อทองคำ จึงเห็นราคาปรับลดลง

“อย่างไรก็ดี ก็ต้องบอกว่ายังมีความไม่แน่นอน ในเรื่องภาษีตอบโต้ที่ยังเจรจาจบไม่กี่ประเทศ ไม่น่าเกิน 10 ประเทศ แต่ทรัมป์ก็มีท่าทีอ่อนลงเยอะ สหรัฐกับจีนก็คุยกันได้ง่ายกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ดังนั้น ระยะสั้นก็ดูจะมีปัจจัยที่กดดันอยู่”

ทั้งนี้ ยอมรับว่าระยะสั้น ทองคำแท่งในประเทศก็มีโอกาสหลุดต่ำกว่า 50,000 บาท หากราคา Spot ลงไปที่ 3,200 ดอลลาร์ ทองแท่งก็อาจจะลงไปแถว 49,900 บาทได้

“ก็มีโอกาสที่ทอง Spot จะกลับไปแถว ๆ 3,200 ดอลลาร์ แล้วทองแท่งก็อาจจะต่ำกว่า 50,000 บาทได้ เพราะช่วงนี้เงินบาทก็แข็งค่าขึ้น ไม่ได้ช่วยราคาทองในประเทศ ซึ่งทองในประเทศก็จะเจอ 2 เด้ง คือ Spot ลดลง และบาทแข็ง”

ปีนี้ไม่กลับไปจุดสูงสุดเดิม

“ช่วงนี้มุมมองราคาทอง ก็อาจจะมีมุมมองที่เป็นบวกลดน้อยลง เพราะดูท่าทีของทรัมป์อ่อนลงหลาย ๆ เรื่อง ต่างจากช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาเยอะ ดังนั้น โอกาสที่ทองจะกลับไปที่ 3,500 ดอลลาร์ คิดว่าน่าจะยาก ทองแท่งก็ยิ่งยากจะกลับไปที่จุดสูงสุดเดิมที่ 54,800 บาท คิดว่าคงไม่มีโอกาสในปีนี้แล้ว เพราะเงินบาทกลับทิศทางมาแข็งค่า”

ส่วนจะเป็นขาลงแล้วหรือไม่นั้น “ศิริลักษณ์” กล่าวว่า ราคาจะต้องไม่หลุดแนวรับที่ 3,225/3,200 ดอลลาร์ หากหลุดก็อาจจะเป็นขาลงได้

อย่างไรก็ดี มองระยะยาวปีหน้า หรือปี 2569 ราคาทองก็จะยังคงปรับตัวขึ้นได้ โดยผู้ที่ซื้อทองแท่งไว้ที่ราคา 53,000 บาท ก็สามารถรอขายปีหน้าได้

“ระยะสั้นราคาก็จะผันผวนไปตามข่าว ตามสถานการณ์ที่เข้ามา แต่ 3 ปี 5 ปีข้างหน้า ก็ยังมีปัจจัยที่หนุนให้ราคาปรับขึ้นอยู่ ทั้งการลดการถือครองดอลลาร์ การใช้ทองคำเป็นทุนสำรอง เป็นต้น”

มองกรอบ 48,000-53,000 บาท

สำหรับแนวโน้มราคาทองในช่วงครึ่งปีหลัง “ศิริลักษณ์” กล่าวว่า ฮั่วเซ่งเฮงมองกรอบกว้าง ๆ ที่ 3,000-3,500 ดอลลาร์ ส่วนทองแท่งจะอยู่ในกรอบประมาณ 48,000-53,000 บาท ซึ่งจะขึ้นกับปัจจัยสงครามการค้าเป็นหลัก

ทั้งนี้ จากต้นปี 2568 มาจนถึงวันที่ 26 มิ.ย. ราคาทอง Spot ให้ผลตอบแทน 24.8% ส่วนทองแท่งจนถึงวันที่ 27 มิ.ย. ให้ผลตอบแทน 19% อย่างไรก็ดี ปีนี้ก็มีช่วงที่ทองขึ้นมาก ๆ ทองแท่งเคยให้ผลตอบแทนถึง 33% ส่วนทอง Spot 29%

“จริง ๆ แล้วในเดือน มิ.ย. ทองก็ไม่ได้ลง เพราะมีช่วงที่มีสงครามที่ขึ้นไปแถว ๆ 3,450 ดอลลาร์ แล้วก็มีช่วงที่ลงต่ำสุดในรอบ 1 เดือน ลงมาแถว ๆ 3,272 ดอลลาร์ ก็คือจะมีความผันผวนในช่วงระหว่างเดือน แต่พอเทียบช่วงสิ้นเดือน มิ.ย. กับสิ้นเดือน พ.ค. ก็จะทรง ๆ ตัว” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส กล่าว

ฟาก “ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” ระบุว่า ทองคำกลายเป็นสินทรัพย์สำรองที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 2 รองจากดอลลาร์สหรัฐ โดยในปี 2567 ธนาคารกลางทั่วโลกหันมาถือทองคำเพิ่มเป็น 20% ของเงินทุนสำรอง แซงหน้าเงินยูโร ซึ่งปัจจัยที่หนุนการถือครองทองคำ ได้แก่ การลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐ, ประเด็นทางภูมิรัฐศาสตร์ และราคาทองคำที่ปรับตัวสูงขึ้น เป็นต้น

ส่วนไทยมีการสะสมทองคำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสู่ระดับ 9.6% ของเงินทุนสำรองในปัจจุบัน จากที่อยู่เพียง 3.4% ณ สิ้นปี 2562

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ราคาทองคำผันผวนหนัก ผลตอบแทนครึ่งปียังยืนหนึ่ง

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ประชาชาติธุรกิจ

เปิดประวัติ "ดิโอโก้ โชต้า" นักเตะลิเวอร์พูล เสียชีวิตในวัย 28 ปี

28 นาทีที่แล้ว

บันยัน กรุ๊ป เปิดตัว ‘วิสทีเรีย’ ที่อยู่อาศัยเพื่อสุขภาพแห่งใหม่ ใจกลางลากูน่า ภูเก็ต

56 นาทีที่แล้ว

ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงสภา เร่งผลักดันนิรโทษกรรมประชาชน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

AOT เดินหน้าเปิดประมูลผู้ให้บริการภาคพื้นรายใหม่ มูลค่า 9,000 ล้านบาท

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความหุ้น การลงทุนอื่น ๆ

กรณ์ประเมินดีล 'สหรัฐ-เวียดนาม' กระทบ Margin ส่งออกไทยเสียเปรียบ

ประชาชาติธุรกิจ

ต่างชาติซื้อ “หุ้นญี่ปุ่น” ต่อเนื่อง 13 สัปดาห์ ยาวนานสุดรอบ 11 ปี หนุน Topix ใกล้จุดสูงสุดใหม่

การเงินธนาคาร

เตือนผู้ใช้ SCB EASY เร่งเปลี่ยนชื่อให้ตรงกับซิม ภายใน 8 ก.ค. 68

ประชาชาติธุรกิจ

“ทรัมป์”ไม่ยืดเส้นตายขึ้นภาษี 9 ก.ค. | 2 ก.ค. 68

การเงินธนาคาร

นิกเกอิ ปิดตลาดบวก 23.42 จุด นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ

การเงินธนาคาร

ตลท. ให้ ECF แจงแก้วันใช้สิทธิ ECF-W5 ปรับกระชั้นเป็น 1ก.ค. และขอ SP 4 ก.ค.

กรุงเทพธุรกิจ

PremiumStock 04/07/68

Share2Trade

SDJ 04/07/68

Share2Trade

ข่าวและบทความยอดนิยม

ราคาทองคำผันผวนหนัก ผลตอบแทนครึ่งปียังยืนหนึ่ง

ประชาชาติธุรกิจ

ราคาทองวันนี้ (3 ก.ค. 68) ปรับลง 50 บาท ทองรูปพรรณ 52,050 บาท

ประชาชาติธุรกิจ

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (3 ก.ค. 68) บทวิเคราะห์โดย YLG Bullion

ประชาชาติธุรกิจ
ดูเพิ่ม
Loading...