หุ้นไทยวันนี้ ซึมตัวในกรอบ 1,110-1,130 จุด หลังเจรจาไทย-สหรัฐไร้ข้อสรุป-โดนสกัดชิป AI-ตลท.เริ่มเกณฑ์คุม HFT
หุ้นไทยวันนี้ 7 ก.ค. นักวิเคราะห์คาดซึมตัวในกรอบ 1,110-1,130 จุด หลังเจรจาการค้าไทย-สหรัฐไร้ข้อสรุป และสหรัฐจ่อคุมส่งออกชิป AI ให้ไทย-มาเลเซียป้องกันเป็นทางผ่านไปจีน ขณะที่วันนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ เริ่มใช้เกณฑ์คุม HFT เฉพาะ SET100 อาจทำให้วอลุ่มหด รวมถึงแรงกดดันจากปัจจัยการเมืองไทยไม่นิ่ง
7 กรกฎาคม 2568บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ คาดตลาดแกว่งตัวผันผวนทางลง รอการประกาศอัตราภาษีสหรัฐฯ ติดตามว่าไทยจะอยู่ใน 12 ประเทศที่ได้รับจดหมายหรือไม่ หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามแล้วและรอประกาศวันนี้ รวมถึงเส้นตายระยะผ่อนผัน 9 ก.ค. นี้ ระยะสั้นตลาดติดที่แนวต้าน 1,128 ยืนเหนือไม่ได้ ยังคงมีแนวต้านที่ 1,128/1,135 ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,110/1,100 หลุดต่ำกว่าจะกลับมาลงรอบใหม่
ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวผันผวน โดยแม้มองปัจจัยการเมืองในประเทศจะยังไม่มีแรงกดดันเพิ่มในช่วงสั้น เพราะยังต้องรอผลการตัดสินขั้นสุดท้ายของศาลรัฐธรรมนูญหลังจากที่มีมติให้นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่
แต่ตลาดน่าจะให้น้ำหนักกับปัจจัยเสี่ยงเกี่ยวกับความไม่ชัดเจนของมาตรการภาษีศุลกากรซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ เริ่มส่งจดหมายแจ้งอัตราภาษีไปยังประเทศต่างๆ ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 4 ก.ค. และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค. สำหรับประเทศที่ยังไม่ได้บรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ ซึ่งรวมทั้งไทยด้วย
อย่างไรก็ดีเราประเมิน SET ที่บริเวณต่ำกว่า 1,100 จุด คิดเป็น PER ปี 2568 ต่ำกว่า 12 เท่า ยังเป็นจุดที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว โดยกลยุทธ์ลงทุนคงแนะนำให้ “Selective Buy”
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดซึมตัวลง หลังการเจรจาการค้าของไทยกับสหรัฐฯ ยังไม่มีข้อสรุปช่วงใกล้ถึงเส้นตายวันที่ 9 ก.ค.แล้ว รวมถึงปัจจัยเฉพาะตัวเรื่องที่รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมออกกฎควบคุมการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) มายังไทยและมาเลเซีย เพื่อป้องกันการใช้ทั้งสองประเทศเป็นทางผ่านไปจีน ทำให้ sentiment ในประเทศไม่ค่อยดี
ขณะที่วันนี้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เริ่มใช้มาตรการกำหนดให้กลุ่ม High Frequency Trading (HFT) ทำได้เฉพาะหุ้นใน SET100 อาจทำให้มูลค่าการซื้อขายลดลงราว 2-3% และยังมีปัจจัยกดดันบางส่วนจากการเมืองไทยไม่นิ่ง แม้จะมีนายกรัฐมนตรีรักษาการ แต่หลายประเด็นต่าง ๆ ยังไม่แน่นอน อาทิ ข้อพิพาทชายแดนกัมพูชา หรือการพิจารณาคดีอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร เป็นต้น
แนวโน้มวันนี้ ติดตามรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิ.ย. ของไทย รวมทั้งรายชื่อประเทศที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ จะส่งจดหมายไปแจ้งการเก็บภาษีตอบโต้วันที่ 1 ส.ค. โดยอาจจะมีอัตราสูงถึง 70% โดยให้กรอบแนวรับ 1,100-1,110 จุด และแนวต้าน 1,130 จุด
บล.พาย ประเมินSET INDEX สัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,070 – 1,140 จุด เชิงกลยุทธ์การลงทุนอาจลดพอร์ตการลงทุนเพื่อรอดูการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับนานาประเทศรวมถึงไทยหากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้จะเป็นความเสี่ยงกับเศรษฐกิจโลกและไทย
แต่หากรับความเสี่ยงได้ระยะสั้นอาจเลือกกลุ่ม Defensive อาทิ โรงพยาบาล (BDMS) หุ้นที่อิงกับต่างประเทศ (MINT) สื่อสาร (ADVANC INTUCH)