เพราะอะไรผู้ชายคนนี้จึงได้รับฉายา "พนักงานส่งของที่การศึกษาดีที่สุดในประวัติศาสตร์"
คนๆ นี้รับการขนานนามว่าเป็น "พนักงานส่งของที่การศึกษาดีที่สุดในประวัติศาสตร์" เพราะเบื้องหลังของเขาคือนักศึกษาปริญญาเอกชาวจีนผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชิงหัว มหาวิทยาลัยปักกิ่ง มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดในสหราชอาณาจักร และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหนานหยางในสิงคโปร์ แต่กลายมาเป็นพนักงานส่งของหลังจากที่เขาตกงานเมื่อปีที่แล้วและไม่สามารถหางานได้
เรื่องนี้กลายเป็นที่ฮือฮาอย่างมาก จนกระทั่ง ติงหย่วนเจา (丁远昭) เจ้าของเรื่องนี้ ต้องโชว์ใบรับรองการสำเร็จการศึกษาหลายใบในวิดีโอเพื่อพิสูจน์คุณสมบัติทางวิชาการของเขา
ในวิดีโอ ติงหย่วนเจา ให้กำลังใจผู้สมัครสอบเข้ามหาวิทยาลัยของจีน หรือ "การสอบเกาเข่า" ในปีนี้ โดยกล่าวว่าการสอบเข้ามหาวิทยาลัยเพิ่งจะจบลง "ไม่ว่าคุณจะทำได้ดีหรือไม่ก็ตาม คุณควรมีจิตใจที่สงบ หากทำไม่ได้ดี อย่ามองโลกในแง่ร้ายและผิดหวัง หากทำได้ดี งานในอนาคตของทุกคนก็ไม่แตกต่างกันมากนัก ตัวอย่างเช่น การส่งอาหาร การบริการสังคม การเลี้ยงดูครอบครัว การทำงานหนัก และการรับรางวัล การส่งอาหารเป็นงานที่ดี"
วิดีโอของ ติงหย่วนเจา ดึงดูดความสนใจจากชาวเน็ตอย่างร้อนแรง ชาวเน็ตบางคนฝากข้อความว่า "โลกแห่งความจริง คือความจริงอันโหดร้าย" "เกณฑ์การส่งอาหารค่อนข้างสูง ตอนนี้คุณต้องมีปริญญาเอกแล้วเหรอ" "แล้วจุดประสงค์ของการเข้าเรียนมหาวิทยาลัยคืออะไร" ชาวเน็ตบางคนยังกล่าวอีกว่า "เขาไม่ใช่แค่คนส่งของ แต่เขาเลือกที่จะส่งอาหารเท่านั้น"
ติงหย่วนเจา เกิดในปี 1985 และอายุ 39 ปีในปีนี้ เป็น "นักเรียนสายโหด" (学霸) ที่คร่ำเคร่งกับการเรียนในสายตาของทุกคนมาโดยตลอด ในปี 2004 เขาเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยชิงหัว ในปักกิ่งด้วยคะแนนเกือบ 700 ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยเพื่อศึกษาต่อด้านวิศวกรรมเคมีและวิศวกรรมชีวภาพอุตสาหกรรม
หลังจากสำเร็จการศึกษา เขาได้เข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยปักกิ่งและได้ปริญญาโทด้านวิศวกรรมพลังงานและทรัพยากร จากนั้นเขาไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหนานหยางในสิงคโปร์และได้รับปริญญาเอกด้านชีววิทยา
ในปี 2018 เขาไปเรียนปริญญาโทด้านความหลากหลายทางชีวภาพที่มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดในสหราชอาณาจักร จากนั้นเขาก็ได้เป็นนักวิจัยหลังปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ในเดือนมีนาคม 2024 สัญญาการวิจัยของ ติงหย่วนเจา หมดลงและไม่ได้รับการต่อสัญญา
หลังจากนั้นเขาก็หางานทำไม่ได้ และด้วยความสิ้นหวัง เขาจึงเลือกที่จะอยู่ในสิงคโปร์เพื่อส่งอาหาร
ปัจจุบัน เขาทำงานวันละ 11 ถึง 12 ชั่วโมง ไม่ว่าฝนจะตกหรือแดดออก รายได้ค่อนข้างคงที่ โดยได้รับเฉลี่ย 50 ถึง 100 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อวัน (ประมาณ 1,300 - 2,500 บาท) และรายได้สูงสุดในวันอาทิตย์อาจสูงถึง 254 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 6,500 บาท)
โดยทีมข่าวต่างประเทศ The Better