โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

ทรัมป์จี้เฟดลดดอกเบี้ยเหลือ 1% หวังลดต้นทุนกู้เงิน เสี่ยงเงินเฟ้อพุ่ง-ศก.เสียวูบ

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 13 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณชัดเจนว่าต้องการให้เฟด(Fed) ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเหลือเพียง 1% โดยให้เหตุผลว่าการลดดอกเบี้ยจะช่วยให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมเงินได้ถูกลง เพื่อนำมาใช้กับมาตรการใช้จ่ายและลดภาษีตามนโยบาย One Big Beautiful Bill Act ที่เพิ่งผ่านสภาคองเกรสไปเมื่อไม่นานนี้

แต่เสียงสะท้อนจากผู้เชี่ยวชาญกลับมองต่าง เพราะการลดดอกเบี้ยลงเหลือระดับต่ำผิดปกติในขณะที่เศรษฐกิจยังไม่วิกฤติ อาจกลายเป็นดาบสองคมที่ทำให้ตลาดทุนทั่วโลกตีความว่า Fed ยอมอ่อนข้อให้กับแรงกดดันทางการเมือง ซึ่งไม่เพียงแต่จะบั่นทอนความน่าเชื่อถือของธนาคารกลางสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังเสี่ยงทำให้ความคาดหวังด้านเงินเฟ้อ (inflation expectation) หลุดกรอบ และอาจเกิดภาวะเงินเฟ้อระลอกใหม่ในไม่ช้า

เกรกอรี แดโก หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก EY-Parthenon ระบุว่า แม้ในเชิงเทคนิคยังพอมีช่องว่างให้ลดดอกเบี้ยลงจากระดับปัจจุบันที่ 4.25%-4.50% แต่การหั่นดอกเบี้ยลงถึงระดับ 1% อย่างที่ทรัมป์ต้องการนั้นถือว่า “มากเกินไป” เมื่อพิจารณาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่มีอยู่ในปัจจุบัน ทั้งอัตราการว่างงานที่อยู่ที่ 4.1% อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจราว 2% และอัตราเงินเฟ้อที่สูงประมาณ 2.5% ยังไม่มีปัจจัยใดบ่งชี้ว่าจำเป็นต้องลดดอกเบี้ยอย่างเร่งด่วนหรือในระดับรุนแรง

แม้อัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1% จะเคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์การเงินของสหรัฐฯ แต่ก็มักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาแห่งความไม่ปกติ เช่น ช่วงหลังเหตุการณ์ 9/11 ภายใต้รัฐบาลจอร์จ ดับเบิลยู. บุช หรือช่วงวิกฤตการเงินโลกในยุคของบารัค โอบามา รวมถึงช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่เกิดในปลายวาระแรกของทรัมป์เอง การใช้อัตราดอกเบี้ยต่ำมากมักเป็น “ยาแรง” สำหรับสถานการณ์ที่รุนแรง ไม่ใช่สัญญาณของเศรษฐกิจร้อนแรงและน่าลงทุนอย่างที่ทรัมป์พยายามโฆษณา

ที่สำคัญ อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดแม้จะมีอิทธิพลอย่างสูงต่อเศรษฐกิจ แต่ไม่ได้เป็นตัวกำหนดโดยตรงต่ออัตราดอกเบี้ยอื่น ๆ ในตลาด เช่น ดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาล ดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้าน บัตรเครดิต หรือดอกเบี้ยของภาคธุรกิจ เพราะปัจจัยสำคัญที่มีผลต่ออัตราดอกเบี้ยในตลาดการเงินโลก คือ อุปสงค์-อุปทาน และความเสี่ยงของผู้ออกตราสาร

ในกรณีของสหรัฐฯ การที่รัฐบาลมีแนวโน้มก่อหนี้มากขึ้นหลังผ่านร่างกฎหมาย One Big Beautiful Bill Act หมายความว่า “อุปทาน” ของพันธบัตรจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ ในขณะที่ฝั่ง “อุปสงค์” จากนักลงทุนต่างชาติและกองทุนบำนาญแม้จะยังแข็งแกร่ง เพราะยังมองว่าสหรัฐฯ คือที่ปลอดภัยสำหรับการลงทุน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีขีดจำกัด โดยเฉพาะหากพวกเขาเริ่มไม่มั่นใจว่าเฟดจะรักษาความเป็นอิสระจากฝ่ายบริหารได้หรือไม่

ยิ่งไปกว่านั้น นักลงทุนยังต้องการค่าตอบแทนเพื่อชดเชยความเสี่ยงจากการผูกเงินไว้ในสินทรัพย์ระยะยาวอย่างพันธบัตร 10 ปี ซึ่งจะได้รับผลกระทบจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้อ และการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคต ความเสี่ยงเหล่านี้ล้วนสะท้อนกลับมาในรูปของ “term premium” ซึ่งอาจเพิ่มสูงขึ้นหากนโยบายของเฟดถูกมองว่าถูกแทรกแซง

ก่อนหน้านี้เอง ทรัมป์เคยขู่ปลดประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ จนทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (yield) พุ่งสูงในทันที ก่อนที่เขาจะต้องถอยกลับ ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนชัดเจนจากตลาดโลกว่าความเป็นอิสระของเฟดไม่ใช่สิ่งที่สามารถต่อรองได้

รายงานระบุว่า ทรัมป์ถึงกับส่งบันทึกเขียนด้วยลายมือถึงพาวเวลล์ โดยระบุว่าอัตราดอกเบี้ยของเฟดควรอยู่ในระดับใกล้เคียงกับชาติอื่น ๆ ที่ต่ำกว่า ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางสหรัฐฯ เองย้ำว่าการตัดสินใจด้านนโยบายจะต้องอิงจากสูตรคำนวณที่สัมพันธ์กับข้อมูลเศรษฐกิจและคาดการณ์เงินเฟ้ออย่างมีหลักการ และไม่มีสูตรไหนที่สนับสนุนแนวคิดลดดอกเบี้ยเหลือ 1% ตามที่ทรัมป์เรียกร้อง

แม้ทรัมป์จะต้องการ “ดอกเบี้ยต่ำเพื่อการเติบโต” แต่หากกดดันเฟดสำเร็จโดยไม่ดูบริบทของเศรษฐกิจ อาจได้ผลลัพธ์ที่กลับตาลปัตร เสียความเชื่อมั่นจากนักลงทุนทั่วโลก สร้างความผันผวนแก่ตลาด และในระยะยาวอาจกลายเป็นชนวนให้เกิดวิกฤตเงินเฟ้อครั้งใหม่ในสหรัฐฯ เองก็เป็นได้

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

ตลท. ดับร้อน DV8 ขึ้นมาตรการระดับ 2 ซื้อขายต้องใช้ Cash Balance-Auction

26 นาทีที่แล้ว

ฮุนได เปิดตัว “The all-new SANTA FE” ราคาเริ่มต้น 1.599 ล้านบาท

36 นาทีที่แล้ว

ลุยลงพื้นที่ เตรียมความพร้อมรับมือฤดูกาลผลิตลำไยภาคเหนือ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เปิดตัว NEW YAMAHA GRAND FILANO HYBRID 2025 ราคาเริ่มต้น 64,700 บาท

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความต่างประเทศอื่นๆ

ผู้ส่งสินค้าไทยในกัมพูชาเล็งเปลี่ยนเส้นทางขนส่งผ่าน "ลาว"

Thai PBS

เกาหลีใต้ประท้วง ญี่ปุ่นอ้างสิทธิเหนือหมู่เกาะพิพาทในสมุดปกขาว

เดลินิวส์

อย่าทิ้งมือถือไว้กับเด็ก! คุณพ่อกุมขมับเมื่อเผลอปล่อยให้ลูกชายวัย 5 ขวบชอปปิ้งออนไลน์ สั่งรถมา 7 คัน

เดลินิวส์

ทำความรู้จัก "ข้อตกลง 123" ความร่วมมือด้านนิวเคลียร์เพื่อสันติที่สหรัฐฯ เพิ่งเริ่มใช้กับไทย

TNN ช่อง16
วิดีโอ

สรุปข่าวต่างประเทศ 15 ก.ค. 2568

THE ROOM 44 CHANNEL

‘เจนเซ่น หวง’ ซีอีโอ Nvidia พบ ‘เหลย จวิ้น’ ซีอีโอ Xiaomi ระหว่างทริปเยือนปักกิ่ง พร้อมยกนิ้วชมรถ Xiaomi SU7 ULTRA

THE STATES TIMES

รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียเยือนกรุงปักกิ่ง เข้าพบประธานาธิบดีจีน

เดลินิวส์

ทำไม? เด็กที่เกิดใน 3 ช่วงเวลานี้ ถึงเรียกว่า “ลูกนำโชค” พ่อแม่ก็สุขตามไปด้วย!

sanook.com

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...