“แพทองธาร” เยี่ยมทหารเหยียบระเบิด ศบ.ทก.ลั่น ไม่ยอมแน่!
นายกฯ แพทองธาร พร้อมด้วย พล.อ.ณัฐพล ลงพื้นที่ จ.อุบลฯ เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ 3 ทหาร ในเหตุการณ์เหยียบกับระเบิดช่องบก ยกย่องเป็นแบบอย่างกล้าหาญเสียสละ พร้อมรักษาอธิปไตยไทย ด้าน ศบ.ทก.ขอรอเวลา 2-3วัน ในการตรวจสอบว่าเป็นทุ่นระเบิด หากพบว่าเป็นของใหม่ ไทยจะไม่ยอม ขอประชาชนเชื่อมั่นเราไม่นิ่งนอนใจ
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางลงพื้นที่เข้าเยี่ยมให้กำลังใจทหารพราน 3 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์เหยียบทุ่นระเบิด ที่บริเวณพื้นที่ข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ซึ่งพักรักษาตัว ที่ โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์
โดยน.ส.แพทองธาร ได้สอบถามอาการพลทหาร ธนพัฒน์ หุยวัน กำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 พร้อมบอกว่า รัฐบาลจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่กระทบต่อขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานไปมากกว่านี้ อะไรที่ทำได้ก็จะทำ พร้อมให้กำลังแม่ของทหารที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทราบว่า เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ครอบครัวตกใจ เพราะทหารคนดังกล่าวเพิ่งไปปฏิบัติงานในพื้นที่
ขณะที่ครอบครัวของผู้บาดเจ็บ ทั้ง 3 คน ก็มีกำลังใจดี และภูมิใจกับทั้ง 3 คน ที่เสียสละรับใช้ชาติ ซึ่งได้ยินแล้วก็รู้สึกเกรงใจ เพราะในวันที่เขามีความทุกข์ ก็ยังมีกำลังคนข้าง ๆ ให้กำลังใจ ซึ่งเป็นกำลังใจที่เข้มแข็ง เพราะนอกจากร่างกายที่จะต้องหายแล้วจิตใจ ก็ต้องได้รับการดูแลที่ดี
นายกรัฐมนตรี ยังชื่นชมกำลังพลที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญและเสียสละ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยต้องยกย่องเป็นแบบอย่าง และขอแสดงความเคารพนับถือในความเสียสละที่มีต่อประเทศชาติของกำลังพล ทุกท่านที่ปฏิบัติหน้าที่ เพื่อประชาชน โดยขณะนี้ ทางกระทรวงกลาโหม กำลังเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมถึงเก็บกู้กับระเบิดในพื้นที่อย่างเร่งด่วน ที่สำคัญจะมีมาตรการเยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ อย่างเต็มที่ และที่ผ่านมารัฐบาลและกองทัพได้ดำเนินการทุกอย่างด้วยความรับผิดชอบง
และที่ผ่านมารัฐบาลและกองทัพได้ดำเนินการทุกอย่างด้วยความรับผิดชอบ อย่างเต็มที่ในการดูแลความปลอดภัยของกำลังพล และประชาชน เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของประเทศ
ด้านศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ได้มีการถึงสถานการณ์ โดยพล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม และนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ว่า กองทัพบก ได้ส่งหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม เข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บหลักฐานนำมาวิเคราะห์ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งว่าจะใช้เวลา 2-3 วัน เพื่อให้ได้ข้อมูลข้อเท็จจริงที่ชัดเจนในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการวางทุ่นระเบิด ว่าจะเป็นการวางใหม่หรือเป็นของเดิม
ซึ่งหากเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่ ถือว่าเป็นการละเมิดต่ออนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้และเก็บสะสมทุ่นระเบิดสังหารบุคคล เพราะไทยและกัมพูชา เป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาดังกล่าว ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2542 และทางรัฐบาลไทยจะไม่เพิกเฉยรงมไปถึงหากมีการพบว่ามีการรุกล้ำอธิปไตยของไทยทางเราจะมีการดำเนินการโต้ตอบ โดยขอให้ประชาชน เชื่อมั่นว่า เราไม่ได้นิ่งนอนใจถึงสถานการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น
สำหรับพลทหารที่เหยียบกับระเบิดจนทำให้ขาด้านซ้ายขาด กองทัพภาคที่ 2 ได้มีมาตรการในการช่วยเหลือสวัสดิการให้กับกำลังพลอย่างเต็มที่ โดยมีการปูนบำเหน็จเลื่อนขั้นจากพลทหารเป็นสิบเอก หลังจากรักษาตัวเสร็จด้วยเหตุสูญเสียจากการรบ? นอกจากนี้ ยังได้รับบำเหน็จเดือนละ 15,600 บาท หากรวมเงินรายเดือนจากหน่วยงานต่างๆ คาดว่า จะได้รับเงินจำนวนถึง 29,800 บาทต่อเดือน ยังได้รับเงินก้อนจากหน่วยงานองค์กรต่างๆรวมทั้งสิ้นประมาณ 1 ล้านบาทเศษ ซึ่งทางราชการเล็งเห็นถึงคุณประโยชน์ที่กำลังพลได้ปฏิบัติช่วยเหลือทางราชการ มองเห็นการบรรจุทายาททดแทน ซึ่งทางพี่สาวเขากำลังพลดังกล่าวประสมที่จะรับราชการก็จะมีการพิจารณาเป็นกรณีพิเศษด้วยเช่นกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews