ทำความรู้จัก "ทหารพราน" นักรบชุดดำ วีรบุรุษด่านหน้าผู้รักษาชายแดนไทย
ทำความรู้จัก "ทหารพราน" นักรบชุดดำ ผู้ปิดทองหลังพระ กองกำลังหนักด่านหน้าผู้รักษาชายแดนไทย
“ทหารพราน” หรือ “ทพ.” ถือกำเนิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2521 ตามแนวคิด“นักรบประชาชน” โดยมีที่มาจากสถานการณ์ ภัยคุกคามคอมมิวนิสต์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ทวีความรุนแรงขึ้นในยุคนั้น พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ขณะดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก เป็นผู้ริเริ่มโครงการ “513” เพื่อสร้างกำลังรบรูปแบบใหม่ ที่เน้นการอาสาจากประชาชนท้องถิ่นมาเป็น “นักรบเสริมทัพ” ที่สามารถเคลื่อนที่และเข้าใจสภาพพื้นที่ได้ดีกว่าทหารประจำการ
จุดเริ่มต้นของหน่วยกล้า: จากโครงการอาสาสมัครสู่กำลังหลัก
กองทัพบกได้อนุมัติจัดตั้ง “โครงการชุดปฏิบัติการพิเศษทหารพรานชายแดนไทย-กัมพูชา” โดยเน้นการดึงคนในพื้นที่มาเสริมกำลังรบ ทั้งนี้เพื่อแก้ไขข้อจำกัดของทหารประจำการที่ต้องตรึงกำลังในพื้นที่และไม่สามารถเคลื่อนย้ายรับมือภัยคุกคามจากนอกพื้นที่ได้
ต่อมาในปี พ.ศ. 2523 ได้โอนความรับผิดชอบโครงการไปยัง กองทัพภาคที่ 2 ส่วนหน้า พร้อมจัดตั้ง “ชุดควบคุมอาสาสมัครทหารพรานที่ 2602” ซึ่งกลายมาเป็น กรมอาสาสมัครทหารพรานที่ 2602 ในปี 2524 โดยตั้งฐานที่มั่นอยู่ที่บ้านน้ำเย็น อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
ในปี 2527 กองทัพบกได้ยกเลิกสถานะ “เฉพาะกิจ” และจัดตั้งหน่วยขึ้นอย่างเป็นทางการในรูปแบบ กรมทหารพรานที่ 23 ซึ่งยังคงปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาเรื่อยมา
ปัจจุบัน หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 23 ภายใต้การนำของ พันเอกสุรกิจ กาฬเนตร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 1 ยังคงยืนหยัดปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดน ด้วยอุดมการณ์เพื่อ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน อย่างไม่ย่อท้อ ตราบใดที่อธิปไตยของไทยยังต้องได้รับการปกป้อง หน่วยทหารพรานก็ยังคงเป็นแนวหน้าแห่งศรัทธาและเสียสละสืบไป
ผลงานโดดเด่นของทหารพรานในสมรภูมิสำคัญ
1. สมรภูมิช่องพระพลัย (มีนาคม 2527)
เกิดเหตุสู้รบระหว่างกองกำลังเวียดนามและทหารไทย บริเวณ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ โดยทหารเวียดนามพยายามกวาดล้างฐานทหารไทย ทหารพรานร่วมกับกองกำลังสุรนารีเข้าสะสางสถานการณ์และผลักดันฝ่ายตรงข้ามออกจากพื้นที่
2. สมรภูมิช่องบก (2529–2530)
ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เป็นพื้นที่สามเหลี่ยมพรมแดนไทย-ลาว-กัมพูชา กองทัพเวียดนามรุกล้ำเข้ามาจัดตั้งฐานปฏิบัติการในฝั่งไทย กองกำลังไทยเปิด “ยุทธการ D-9” โดยมีทหารพรานร่วมสมรภูมิและสามารถยึด “เนิน 500” คืนมาได้ แม้จะถูกโจมตีด้วยปืนใหญ่และระเบิดอย่างหนัก
3. สมรภูมิเขาพระวิหาร (2551–2554)
เกิดจากข้อพิพาทเรื่องเขตแดนและการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก เกิดการปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชาในช่วงเดือนตุลาคม 2551 และระลอกใหม่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ทหารพรานกรมที่ 23 ปฏิบัติหน้าที่ตรึงกำลังควบคุมพื้นที่สำคัญ เพื่อแสดงอำนาจอธิปไตยของไทยอย่างต่อเนื่อง
หน่วยทหารพรานในปัจจุบัน
ปัจจุบัน กองทัพบกมี กรมทหารพรานทั้งสิ้น 22 กรม 276 กองร้อย และ หมวดทหารพรานหญิง 12 หมวด แบ่งกำลังออกตามภาคต่างๆ ดังนี้:
กองทัพภาคที่ 1: 4 กรม / 36 กองร้อย / 2 หมวดหญิง
กองทัพภาคที่ 2: 4 กรม / 46 กองร้อย / 2 หมวดหญิง
กองทัพภาคที่ 3: 5 กรม / 50 กองร้อย / 2 หมวดหญิง
กองทัพภาคที่ 4: 9 กรม / 144 กองร้อย / 6 หมวดหญิง
จุดเด่นของทหารพราน
คล่องตัวสูง: ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ยากลำบากได้อย่างมีประสิทธิภาพ
งบประมาณต่ำ: ใช้ทรัพยากรน้อยกว่าหน่วยประจำการ
แนบแน่นกับชุมชน: เข้าใจพื้นที่และประชาชนในพื้นที่มากกว่า
สมญานามแห่งเกียรติยศ
นักรบชุดดำ
สุภาพบุรุษชุดดำ
ดอกไม้เหล็ก (สำหรับทหารพรานหญิง)