ถ้ายังไม่สะดวกเข้าวัด! แนะวิธีทำบุญจับต้องได้ ความหมายแท้จริงของการให้
เพราะวัดไม่ใช่สถานที่ผูกขาด "บุญ" ที่ไหนก็ทำได้ แนะเส้นทางการทำบุญ ทำความดี สำหรับผู้ที่ยังไม่สะดวกเข้าวัด เร็วๆ นี้
ในรอบหลายปีมานี้ สังคมไทยแทบจะไม่เคยว่างเว้นจากข่าวฉาวในวงการสงฆ์ ไม่ว่าจะเป็นพระที่พัวพันกับเงินวัดจนกลายเป็นคดีระดับชาติ พระระดับเจ้าอาวาสถูกตั้งข้อหายักยอกเงินบริจาค หรือข่าวที่สะเทือนใจยิ่งกว่านั้น คือภาพลักษณ์ของพระสงฆ์ซึ่งควรเป็นที่พึ่งทางใจ กลับกลายเป็นพาดหัวสื่อในมุมที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง เช่น ข่าวพระกับสีกา สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงทำให้ชาวพุทธจำนวนมากตั้งคำถามต่อความน่าเชื่อถือของวัด แต่ยังสั่นคลอนความศรัทธาที่เคยเป็นแรงขับดันให้ผู้คนเข้าวัดทำบุญอย่างไม่ลังเล
เมื่อความศรัทธาถูกสั่นคลอน การเดินเข้าวัดเพื่อหยอดเงินลงตู้บริจาคก็ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้อย่างสบายใจเหมือนแต่ก่อน หลายคนอาจเคยตั้งคำถามว่า “เงินที่เราบริจาคไป จะถึงมือผู้ที่เดือดร้อนจริง ๆ หรือถูกหักลบกลบหนี้อยู่ในบัญชีใคร?” บางคนเริ่มรู้สึกว่า การทำบุญไม่ควรกลายเป็นการอุ้มชูระบบที่มีปัญหา แต่ควรเป็นการส่งต่อความช่วยเหลือไปยังผู้ที่ต้องการจริง ๆ
อย่างไรก็ตาม การหมดศรัทธาในพระบางรูป ไม่ได้แปลว่าการทำบุญจะหมดความหมาย เพราะแท้จริงแล้ว “บุญ” ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะจากการถวายปัจจัยให้วัดเท่านั้น หากแต่เกิดจากเจตนาที่บริสุทธิ์ และการแบ่งปันสิ่งที่เรามีต่อผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือจริง ๆ ต่างหาก
ดังนั้นหากใครกำลังลังเลว่าการเข้าวัดหยอดตู้บริจาคในช่วงนี้อาจยังไม่ใช่คำตอบ ก็ยังมีเส้นทางการทำบุญอีกมากมาย ที่ไม่เพียงโปร่งใสและจับต้องได้ แต่ยังทำให้เรารู้สึกถึงความหมายที่แท้จริงของการให้
เริ่มจากการทำบุญที่เกี่ยวข้องกับ “ชีวิตและความตาย” อย่าง การบริจาคโลงศพ หรือ ร่วมสมทบทุนค่าฌาปนกิจศพไร้ญาติ การช่วยให้มนุษย์ที่จากไปโดยไม่มีใครเหลียวแล ได้มีการส่งท้ายที่สมเกียรติ เป็นการคืนความเป็นมนุษย์ขั้นสุดท้ายให้กับเขา และนี่คือบุญที่ยิ่งใหญ่แบบไม่ต้องผ่านมือใคร
หรือหากอยากทำบุญที่สัมผัสถึงความใจฟูได้ทันที ลองไป เลี้ยงอาหารกลางวันเด็ก ๆ ในสถานสงเคราะห์ เด็กกำพร้า หรือโรงเรียนที่ขาดแคลน แค่เห็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขก็เหมือนได้รับบุญกลับมาทันทีโดยไม่ต้องรอชาติหน้า การบริจาคแบบนี้ยังตรงไปตรงมา เราเลือกเองได้ว่าจะซื้อวัตถุดิบ ปรุงอาหาร หรือแม้แต่จ้างทีมงานมาช่วย ก็กลายเป็นบุญที่จับต้องได้จริง
อีกแนวทางหนึ่งสำหรับคนรักสัตว์ การทำบุญกับสัตว์จรจัด บริจาคอาหารให้มูลนิธิหมาแมว หรือแม้แต่การอาสาไปช่วยอาบน้ำ ทำความสะอาดคอกสัตว์ การเห็นสัตว์ที่อดอยากได้กินอิ่มท้องในวันนี้ คือความสุขเล็ก ๆ ที่เราเป็นผู้สร้างขึ้นเองโดยตรง
ในด้านการแพทย์ บุญที่ทรงพลังมาก ๆ อย่างหนึ่งคือการบริจาคเลือด บริจาคอวัยวะ หรือสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้โรงพยาบาล บางครั้งเงินหลักร้อยก็ซื้อผ้าปูเตียงใหม่ ๆ ได้หนึ่งผืน และมันจะถูกใช้จริงทุกวัน การช่วยชีวิตคนหนึ่งด้วยการบริจาคเลือด หรือการสร้างความสะดวกให้คนไข้ที่นอนรักษาตัว นั่นคือบุญที่ประเมินค่าไม่ได้
สำหรับคนที่อยากทำบุญเชิงการศึกษา ก็สามารถมอบทุนเล็ก ๆ ให้เด็กที่เรียนดีแต่ขาดแคลน บริจาคหนังสือ เครื่องเขียน หรือแม้แต่การอาสาสอนการบ้านเด็ก ๆ ในชุมชนยากจน การส่งต่อความรู้คือบุญที่งอกงามไปเรื่อย ๆ เพราะเด็กคนนั้นอาจเติบโตไปช่วยเหลือสังคมได้มากกว่าที่เราคิด
ยังมีการทำบุญที่ไม่ต้องใช้เงินเลย นั่นคือการ “ลงแรง” เช่น อาสาเก็บขยะชายหาด ปลูกต้นไม้ในชุมชน หรือช่วยงานมูลนิธิต่าง ๆ การให้แรงกายและเวลาอาจเหนื่อย แต่กลับเติมเต็มใจเราได้มากกว่าที่คาด และไม่ต้องกลัวว่าบุญจะหายไปกับระบบ เพราะทุกหยาดเหงื่อคือบุญล้วน ๆ
สิ่งสำคัญคือ การทำบุญไม่ควรถูกผูกติดกับภาพจำว่าต้องเข้าวัด ต้องหยอดตู้บริจาค หรือถวายซองปัจจัยเสมอไป หากข่าวฉาวในวงการสงฆ์ทำให้หลายคนลังเล การหันมามองเส้นทางการทำบุญทางเลือกเหล่านี้ ก็ไม่เพียงเป็นการรักษาศรัทธาที่เรามี แต่ยังเป็นการทำให้ “บุญ” กลายเป็นสิ่งที่โปร่งใส จับต้องได้ และเห็นผลจริงในปัจจุบัน