BGRIM บล.เคจีไอ-บล.หยวนต้า ปรับเพิ่มเป้าราคา
BGRIM บล.เคจีไอ-บล.หยวนต้า ปรับเพิ่มเป้าราคา
#bgrim #หุ้นโรงไฟฟ้า #ทันหุ้น – การซื้อขายหุ้นของบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM วันที่ 26 ส.ค.68 เคลื่อนไหวในช่วง 12.30-12.70 บาท ณ เวลา 15.20 น.ราคาอยู่ที่ 12.40 บาท ลดลง 0.40 บาท หรือลดลง 3.13% มูลค่าการซื้อขาย 220 ล้านบาท
IAA Consensus โบรกเกอร์ให้คำแนะนำ “ซื้อ” 8 ราย ให้คำแนะนำ “ถือ” 6 ราย และให้คำแนะนำ “ขาย” 2 ราย โบรกเกอร์ให้ราคาเหมาะสมในช่วง 10.00-22.00 บาท มีค่ากลางที่ 12.70 บาท
มุมมองบล.เคจีไอ
บล.เคจีไอออกบทวิเคราะห์หุ้น BGRIM วันที่ 26 ส.ค. 2568 ระบุว่า บล.เคจีไอเปลี่ยนมามอง BGRIM เป็นบวกจากการลดอัตราค่าไฟฟ้าในประเทศไทยช้าลง อุปสงค์การใช้ไฟฟ้ากลุ่มอุตสาหกรรมฟื้นตัวดี และความเสี่ยงจากอัตราค่าไฟฟ้าในเวียดนามลดลงทำให้มองไปในทิศทางบวกมากขึ้น ดังนั้น บล.เคจีไอจึงปรับเพิ่มกำไรหลักปี 2568-2570F ขึ้น 12-22% ขณะที่กำไรครึ่งปีแรก 2568 คิดเป็น 60% ของประมาณการทั้งปี 2568F ของบล.เคจีไอ
ส่วนกำไรครึ่งปีหลังอาจชะลอลงตามฤดูกาล แต่ปัจจัยพื้นฐานระยะยาวยังคงดีอยู่ ทั้งนี้ บล.เคจีไอปรับเพิ่มคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายขึ้นใหม่ที่ 14.00 บาท โดย BGRIM จะได้ประโยชน์จากอัตราค่าไฟฟ้าที่ทรงตัว อัตรากำไรจาก SPP แข็งแกร่งขึ้นและความเสี่ยงในเวียดนามลดลง ซึ่งหนุนจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกที่ลดลงและค่าเงินบาทที่แข็งค่า
บล.เคจีไอปรับเพิ่มคำแนะนำ BGRIM ขึ้นเป็น “ซื้อ” จาก “ถือ” และปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2569F DCF ที่ 14.00 บาท (WACC ที่ 6.1%, จาก 6.6%) (เดิม 10.10 บาท) ตามการปรับเพิ่มกำไรใหม่ของบล.เคจีไอและส่วนลดของสินทรัพย์ในเวียดนามที่ลดลงกลับเป็นปกติจากการรับรู้ความเสี่ยงลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่การแทรกแซงอัตราค่าไฟฟ้าน่าจะน้อยลงและอุปสงค์กลุ่มผู้ใช้งานอุตสาหกรรมค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้น ทั้งนี้ บล.เคจีไอคาดว่าราคาหุ้น BGRIM จะ outperform ขึ้นอีก ด้วยแรงหนุนจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกที่ลดลงชัดเจนและค่าเงินบาทแข็งแกร่งเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ
มุมมองบล.หยวนต้า
บล.หยวนต้าออกบทวิเคราะห์หุ้น BGRIM วันที่ 13 ส.ค. 2568 ระบุว่า บล.หยวนต้ามีการปรับประมาณการกำไรปี 2568-2569 ขึ้น 11% และ 19% เป็น 1,819 ล้านบาท (-18% YoY) และ2,072 ล้านบาท (+14% YoY) ตามลำดับ จากการปรับสมมติฐานราคาค่าไฟฟ้าสำหรับงวด ก.ย. – ธ.ค. 2568 ขึ้นเป็น 3.94 บาท/หน่วย (เดิม 3.70 บาท/หน่วย) และปรับสมมติฐานค่าไฟฟ้าเฉลี่ยสำหรับปี 2569 ขึ้นเป็น 3.80 บาท/หน่วย (เดิม 3.70 บาท/หน่วย) เพื่อสะท้อนแนวโน้มการปรับลดค่าไฟฟ้าของรัฐบาลที่เกิดขึ้นช้ากว่าที่บล.หยวนต้าประเมินไว้ก่อนหน้า
กำไรไตรมาส 3/68 ยังไม่เด่น รอลุ้นการกลับมาโต YoY ในช่วงไตรมาส 4/68
เบื้องต้นคาดกำไรปกติไตรมาส 3/68 ที่ราว 350-450 ล้านบาท ลดลง QoQ เพราะแม้ต้นทุนก๊าซธรรมชาติในช่วงดังกล่าวจะมีแนวโน้มลดลงมาอยู่ที่ระดับ 300-320 บาท/MMBtu หลัง ปตท. ไม่มีการเรียกคืนต้นทุน AF gas เหมือนไตรมาส 2/68 แต่คาดบริษัทฯ จะไม่มีการรับรู้รายได้จากการบริการ (Service Revenue) ที่สูงเหมือนในปี 2567 (คาดลดลงมาอยู่ที่ระดับ 30-50 ล้านบาท) และคาดส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมจะลดลงเช่นกัน เพราะคาดทิศทางค่าเงินที่มีเสถียรภาพมากขึ้นจะทำให้บริษัทร่วมต่าง ๆ ไม่มีการบันทึกกำไรจากค่าเงินที่สูงเหมือนในไตรมาส 2/68 ขณะที่ YoY คาดลดลงจากฐานที่สูงในปีก่อน หลังค่าไฟฟ้าปรับตัวลงเร็วกว่าต้นทุนก๊าซธรรมชาติ ทั้งนี้ หากมองไปช่วงไตรมาส 4/68 คาดกำไรปกติมีโอกาสกลับมาเติบโตได้ YoY อีกครั้งจากการเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการทุนนอกชายฝั่ง Nakoso 1 ในเกาหลี หลังเริ่มทยอย COD ในช่วงปลายปี 2568
ปรับราคาเหมาะสมขึ้นเป็น 14.30 บาท/หุ้น คงคำแนะนำ “ซื้อ”
ผลจากการปรับประมาณการขึ้นส่งผลให้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2568 เพิ่มขึ้นเป็น 14.30 บาท/หุ้น มี Upside 20.2% โดยบล.หยวนต้ามองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมา 38% YTD ได้สะท้อนปัจจัยลบจากแนวโน้มผลประกอบการปี 2568 ที่อ่อนแอและความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์ในเวียดนาม รวมถึงการก่อสร้างโครงการลมในเกาหลีที่ล่าช้าไปมากแล้ว โดยในระยะถัดไปคาดหุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ตามแนวโน้ม Bond Yield ระยะ 10 ปีของไทยและสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลงหลังการเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. และเฟด ในช่วง 6-12 เดือนข้างหน้า จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”
BGRIM บล.เคจีไอ-บล.หยวนต้า ปรับเพิ่มเป้าราคา