พาณิชย์ เผย ตลาดข้าวโลกแข่งดุ 7 เดือนไทยส่งออกข้าวลดฮวบ 25.09 %
นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วง 7 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ค.) ส่งออกข้าวปริมาณ 4.30 ล้านตัน ลดลง 25.09% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีปริมาณส่งออกอยู่ที่ 5.74 ล้านตัน และมีมูลค่า 86,412.72 ล้านบาท (ประมาณ 2,592 ล้านดอลลาร์) ลดลง 35.35% จากปีก่อนที่มีมูลค่า 133,663 ล้านบาท (ประมาณ 3,739 ล้านดอลลาร์ ) ซึ่งการส่งออกที่ลดลงมีสาเหตุจากผลผลิตข้าวโลกที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอินเดียที่กลับมาส่งออกตามปกติและคาดว่ามีผลผลิตกว่า 150 ล้านตัน รวมถึงการลดลงของความต้องการนำเข้าข้าวจากประเทศผู้นำเข้าสำคัญอย่างอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ประกอบกับค่าเงินบาทที่ผันผวนและแข็งค่าขึ้นยังเป็นอีกปัจจัยที่กดดันการส่งออก
โดยไทยส่งออกข้าวขาวมากที่สุด 2.04 ล้านตัน ลดลง 44.72 % ข้าวหอมมะลิ 1.01 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 8.6 % ข้าวนึ่ง 0.69 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 21.05% ข้าวหอมไทย 0.31 ล้านตัน ลดลง 16.22% ข้าวเหนียว 0.19 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 11.76% และข้าวกล้อง 0.06ล้านตัน เพิ่มขึ้น 50%
นางอารดา กล่าวว่า สำหรับตลาดส่งออกหลักอันดับที่1คือ อิรัก 0.63% ล้านตันเท่ากับปีก่อน สหรัฐอเมริกา 0.49 ล้านตัน เพิ่มขึ้น4.26% แอฟริกาใต้ 0.41 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 2.5% จีน 0.41 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 127.78 %และเซเนกัล 0.19 ล้านตัน ลดลง 13.64 % ขณะที่ไทยส่งออกข้าวไปฟิลิปปินส์ 160,000 ตัน คิดเป็น 3.72% ของปริมาณการส่งออกข้าวไทยทั้งหมด
ทั้งนี้ แม้ว่าภาพรวมการส่งออกลดลง แต่ไทยยังสามารถขยายตลาดไปยังตลาดจีน สหรัฐอเมริกา และแอฟริกาใต้ รวมทั้งภูมิภาคตะวันออกกลางและยุโรปได้เพิ่มขึ้น โดยข้าวหอมมะลิไทย ข้าวนึ่ง ข้าวเหนียว และข้าวกล้อง เป็นชนิดข้าวที่มีปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่ข้าวที่มีปริมาณส่งออกลดลง คือ ข้าวขาว และข้าวหอมไทย ที่มีการแข่งขันสูงทางด้านราคากับผู้ส่งออกสำคัญอย่างเวียดนาม อินเดีย และปากีสถาน
สำหรับกรณีที่สหรัฐฯ จัดเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) อัตรา 19% ตั้งแต่ 1 ส.ค.2568 นั้น ข้าวไทยโดยเฉพาะข้าวหอมมะลิไทยยังคงมีราคาแข่งขันได้กับข้าวหอมเวียดนามซึ่งถูกเก็บภาษีในอัตรา 20% และจากตัวเลขส่งออกข้าวไทยไปยังสหรัฐฯในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ปรับตัวสูงขึ้นถึง 4.26 % จึงคาดว่าการส่งออกข้าวไปสหรัฐฯ จะยังคงมีปริมาณใกล้เคียงกับปีก่อนที่ประมาณ 800,000 ตัน โดยส่วนใหญ่เป็นข้าวหอมมะลิไทยประมาณ 600,000 ตัน ขณะที่การระงับการนำเข้าข้าวเป็นการชั่วคราวของฟิลิปปินส์ 60 วัน ย่อมเป็นอีกปัจจัยที่กดดันตลาดการค้าข้าว
“ปีนี้ตลาดการค้าข้าวโลกเผชิญกับภาวะการแข่งขันที่สูงมาก ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศได้เจรจาขยายตลาดและกระชับความสัมพันธ์ทางการค้ากับคู่ค้าสำคัญมาอย่างต่อเนื่องโดยในช่วง 5 เดือนสุดท้ายของปี 2568 กรมฯ จะเดินหน้าจัดกิจกรรมส่งเสริมตลาดและเร่งดำเนินการตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในการผลักดันการส่งออกข้าวไทยตามที่ได้หารือร่วมกับภาคเอกชนสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เพื่อช่วยให้มีคำสั่งซื้อรองรับผลผลิตข้าว และผลักดันการส่งออกข้าวให้เป็นไปตามที่ได้ประเมินไว้ที่ 7.5 ล้านตัน”นางอารดา กล่าว
นางอารดา กล่าวว่า สำหรับแผนงานในช่วง 5 เดือนที่เหลือกรมจะเร่งการเจรจาตกลงซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐกับรัฐบาลจีนที่ยังเหลือตามสัญญาอีก 280,000 ตัน และขยายตลาดข้าวขาวและข้าวนึ่งไปยังตลาดที่มีความต้องการและมีศักยภาพ เช่น ซาอุดีอาระเบีย และอิรัก การเจรจาขยายตลาดกับญี่ปุ่น รวมถึงการรับรองคณะผู้นำเข้าข้าวฮ่องกงเดินทางเยือนไทยซึ่งเป็นตลาดข้าวหอมมะลิไทย ที่สำคัญเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพมาตรฐาน นอกจากนี้ กรมฯ มีแนวทางที่จะประชาสัมพันธ์ข้าวไทย ในงานแสดงสินค้านานาชาติให้ครอบคลุมตลาดที่มีศักยภาพ ได้แก่ ออสเตรเลีย จีน เยอรมนี และซาอุดีอาระเบีย และเชื่อมโยงการผลิตและการตลาดผ่านการจัดงาน TRC สัญจร เพื่อถ่ายทอดข้อมูลแนวโน้มตลาดแก่เกษตรกร ช่วยยกระดับการผลิตให้ตรงตามความต้องการของตลาดต่อไป