'อินเดีย' ลดอัตราภาษี GST tax หุ้นอะไรจะได้อานิสงส์?
ทันหุ้น – บล.เคจีไอ ระบุ อินเดียเผยแผนปรับลดอัตราภาษี GST เพื่อบรรเทาผลกระทบจากภาษี Trump ซึ่งอินเดียเป็นหนึ่งในสองสามประเทศที่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐได้ ซึ่งเป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดเอาไว้ เนื่องจาก i) ข้อกล่าวหาของสหรัฐว่าอินเดียยังคงซื้อน้ำมันดิบจากรัสเซีย และ ii) ประเด็นทรัพย์สินทางปัญญายังไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งตามเงื่อนไขในปัจจุบัน ในวันที่ 27 สิงหาคม สหรัฐจะเก็บภาษีสินค้าจากอินเดียที่อัตรา 50% ทั้งนี้ เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อ GDP ของอินเดีย รัฐบาลจึงเปิดเผยแผนที่จะปรับลดอัตราภาษีสินค้า และ บริการ (GST) เป็น 5% และ 18% โดยยกเลิกอัตราภาษีที่ 12% และ 28% ฝ่ายวิจัยมองว่าแผนนี้อาจจะช่วยขับเคลื่อนการบริโภคในประเทศ และ GDP ของอินเดียได้อย่างมีประสิทธิภาพ
.
กลุ่มปิโตรเคมี, ขนส่ง, โรงแรม และหุ้นบางตัวในกลุ่มสาธารณูปโภค และ F&B อาจจะได้อานิสงส์จากการที่อินเดียลดภาษี GST ดังที่แสดงใน 1 นักวิเคราะห์ของฝ่ายวิจัยได้ทำการสรุปหุ้นที่อาจจะได้อานิสงส์จากข่าวนี้ โดยในกลุ่มปิโตรเคมี PTTGC* มีรายได้ 4% จากอินเดีย และน่าจะได้ประโยชน์จากประเด็นนี้ แต่ราคาหุ้นที่วิ่งขึ้นมาแรงในช่วงนี้ทำให้ไม่เหลือ upside ถึงราคาเป้าหมายของฝ่ายวิจัยแล้ว สำหรับกลุ่มขนส่ง และ โรงแรม คาดว่า AAV, ERW และ CENTEL* น่าจะได้อานิสงส์อยู่บ้าง ทั้งนี้ เนื่องจากธุรกิจกำลังจะเข้าสู่ช่วง high season ใน Q4/68 และ ราคาหุ้นยังมี upside ถึงราคาเป้าหมาย ดังนั้น จึงอาจจะพอเข้าเก็งกำไรได้บ้าง
.
.
ส่วนหุ้นสาธารณูปโภคอย่าง GPSC* นั้น สัดส่วนกำไรจากโครงการ Avaada ในอินเดียคิดเป็นประมาณ 10% ของกำไรทั้งบริษัท ในขณะที่โครงการนี้ยังอาจจะได้อานิสงส์จากอุปสงค์การใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในอินเดีย และต้นทุนโครงการพลังงานสะอาดที่อาจจะลดลงจากการลดภาษี GST ด้วย สำหรับกลุ่ม F&B หุ้นเพียงตัวเดียวที่ฝ่ายวิจัยพบว่ามีส่วนเชื่อมโยงกับประเด็นนี้ คือ CPF* แต่เนื่องจากธุรกิจของบริษัทมีการกระจายตัวสูงมาก รายได้จากอินเดียจึงคิดเป็นสัดส่วนเพียง 3% ของรายได้รวม CPF
.
สำหรับหุ้นในกลุ่ม cyclical ฝ่ายวิจัยมองว่าหุ้นกลุ่มปิโตรเคมีแรลลี่ ตอบรับปัจจัยบวกหลายประการแล้ว ราคาหุ้นค่อนข้างตึงตัวและไม่แนะนำให้ไล่ราคาหุ้น ฝ่ายวิจัยมองว่าราคาหุ้นกลุ่มปิโตรเคมีที่วิ่งขึ้นมาแรงในช่วงหลายวันมานี้ไม่ได้เกิดจากประเด็นการลดภาษี GST ของอินเดียเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะข่าวจีนและเกาหลีมีแผนจะลดกำลังการผลิตส่วนเกินในอุตสาหกรรมนี้ลงอีกด้วย ซึ่งหุ้นในนี้กลุ่มดูเหมือนจะตอบรับข่าวดีไปมากแล้ว ในขณะที่สถานการณ์อุปทานล้นตลาดยังคงอยู่ ดังนั้นฝ่ายวิจัยมองว่าราคาหุ้นค่อนข้างตึงตัวและไม่แนะนำให้ไล่ราคาหุ้น