ศาลพิพากษายกฟ้อง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ไม่หมิ่นคดีหมิ่นเบื้องสูง
ศาลอาญาพิพากษายกฟ้อง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ไม่หมิ่นคดีหมิ่นเบื้องสูง ชี้ โจทก์ไม่ได้พิสูจน์ให้ชัดเจนว่าคลิปมีการตัดต่อหรือไม่ พยานหลักฐานจึงไม่มีน้ำหนักเพียงพอ
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (22 ส.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 902 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบันหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 กรณีเมื่อปี 2558 นายทักษิณ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อทีวีประเทศเกาหลีใต้ พาดพิงดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง
ภายหลังองค์คณะผู้พิพากษาศาลอาญาได้ใช้เวลาอ่านคำพิพากษาประมาณ 1 ชั่วโมง พิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว พิพากษายกฟ้อง
จากนั้น นายทักษิณ ชินวัตร พร้อมทนายความ และบุคคลใกล้ชิด จึงเดินทางลงทางด้านหน้าอาคารศาลอาญา โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม โบกมือ พร้อมกับกล่าวสั้นๆ ให้สื่อมวลชนที่มารอทำข่าวว่า พิพากษายกฟ้อง
ด้า นนายวิญญัติ ชาติมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า คดีนี้ศาลพิพากษายกฟ้อง เพราะเมื่อจำเลยให้การปฏิเสธ ไม่ใช่หน้าที่จำเลยที่ต้องพิสูจน์ให้ชัดเจนว่าเป็นการตัดต่อหรือไม่ เพราะส่วนนี้เป็นหน้าที่ของโจทก์ แต่เมื่อโจทก์ไม่ได้พิสูจน์ให้ชัดเจนว่าไม่ได้ตัดต่อศาลรับฟังด้วยความระมัดระวังและเห็นว่าน่าเชื่อว่ามีการสัมภาษณ์
แต่การสัมภาษณ์ดังกล่าวจะสามารถตีความที่จะรับฟังให้เข้าใจว่าหมายถึงบุคคลตามมาตรา 112 หรือไม่นั้น ศาลใช้หลักวินิจฉัยซึ่งประกอบด้วยหลักไวยากรณ์
ตามที่พวกเรารับรู้ หลักไวยากรณ์ มีประธาน กริยา และกรรม ซึ่งศาลท่านมองว่าประธานเป็นบุคคลที่ไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าเป็นบุคคลตามมาตรา 112 แม้จะมีสรรพนามว่าเขา ซึ่งพยานนำนมาตีความพิจารณาโดยใช้หลักอะไรของพยานแต่ละคนก็ตามศาลเห็นว่ารับฟังได้น้อยมากไม่น่าเชื่อถือ
เนื่องจากพยานมีความเห็นมีความเป็นอคติ ฝั่งจำเลยพิสูจน์ให้เห็นว่าจำเลยที่มาให้ความเห็นเกี่ยวข้องอะไรกับการเมืองบ้าง ใครให้การแบบไม่เป็นกลางบ้างหรือให้ความเห็นที่ขัดแย้ง ในชั้นสอบสวนและชั้นศาลอย่างชัดเจน
บางถ้อยคำพยานนึกเอาเองว่าจำเลยน่าจะพูดอย่างนั้นอย่างนี้เพื่อให้แปลความว่าเหมือนหมายถึงบุคคลตามมาตรา 112 นี่เป็นตัวอย่างที่ศาลใช้หลักไวยากรณ์ในการพิจารณา
นอกจากนี้ ศาลยังใช้พจนานุกรมต่างประเทศฉบับ oxford แปลความหมายตามคำที่ปรากฏในคำฟ้องหมายถึงอะไรบ้าง ซึ่งตนไม่สามารถลงรายละเอียดได้
รับฟังได้ว่าความหมายดังกล่าวไม่ได้เฉพาะเจาะจงองค์พระมหากษัตริย์ เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วองค์ประกอบความผิดองค์ประกอบภายนอกของมาตรา 112 ให้เข้าองค์ประกอบ
องค์ประกอบที่เป็นการกระทำ ต้องเป็นการหมิ่นประมาทหรือดูหมิ่น การหมิ่นประมาทหรือดูหมิ่นต้องทำให้เข้าใจว่าหมายถึงบุคคลใดแต่การพูดดังกล่าวศาลเชื่อว่าไม่สามารถทำให้เข้าใจได้ พยานไม่เป็นกลาง เป็นอคติเคยขึ้นเวทีขับไล่ลงชื่อขับไล่เคยเป็นฝ่ายตรงข้ามอดีตนายกรัฐมนตรี รวมถึงนายกฯ หลายๆ คนที่ผ่านมา เป็นเรื่องที่ศาลได้นำมาพิจารณาประกอบประการต่อมา
นอกจากนี้ ศาลเห็นว่า พยานที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ซึ่งเป็นพยานฝ่ายจำเลยก็ดีซึ่งเป็นอดีตข้าราชการมีความรู้ความเชี่ยวชาญก็ได้มาแปลความ รวมถึงการปฏิเสธของจำเลยตั้งแต่ต้น ภาระการพิสูจน์ต้องตกอยู่แต่กับฝ่ายโจทก์ดังนั้นภาระการพิสูจน์ต่างๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ นำคลิปวีดีโอมามีน่าเชื่อถือหรือไม่ การแปลความทำให้มีน้ำหนักตามที่ศาลจะรับฟังตามที่โจทก์พูดหรือไม่ เรื่องการสอบสวนในอดีต ว่ามีความเป็นมาอย่างไร อยู่ในส่วนรายละเอียดทั้งหมด
คดีนี้ยกฟ้อง การอุทธรณ์เป็นเรื่องของโจทย์อัยการว่ามีประเด็นอะไรจากอุทธรณ์หรือไม่เราในฐานะทนายความและนักกฎหมายที่ให้ความสนใจในเรื่องนี้จะอุทธรณ์ประเด็นใดบ้าง มักจะอุทธรณ์ในข้อกฎหมาย
ถ้าข้อกฎหมายเป็นเรื่องที่ยังมีเหตุที่เห็นไม่ตรงกันในบรรดานักกฎหมายก็อาจจะอุทธรณ์ได้แต่เรื่องนี้ข้อเท็จจริงค่อนข้างชัดแล้วว่าอะไรคืออะไรและศาลวินิจฉัยอย่างชัดเจนตรงไปตรงมา ซึ่งตนว่าประเด็นที่จะอุทธรณ์อัยการก็ต้องมองข้อกฎหมายอย่างไร แต่ศาลเรียงลำดับวินิจฉัยข้อกฎหมายและตามด้วยการวินิจฉัยข้อเท็จจริง
ท่านทักษิณขอบคุณทนายความต่อไปนี้จะได้ทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติได้อย่างเต็มที่
ความเห็นของสังคมที่พยายามมุ่งทำลายแย่งชิงพื้นที่อำนาจคือปัญหาของระบบยุติธรรมไทยผมไม่อยากให้ศาลตกเป็นเครื่องมือของความขัดแย้งอันนี้ตนพูดในฐานะทนายความ ผมเชื่อว่า การอุทธรณ์ของโจทก์จะต้องพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนอุทธรณ์มา เราก็แก้ไปไม่เป็นปัญหา
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO