โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ดัชนีอุตฯ ก.ค. 68 ร่วง เหตุปะทะชายแดน-ภาษีทรัมป์ อีก 3 เดือนข้างหน้าก็ยังร่วง

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา
เกรียงไกร เธียรนุกุล

ส.อ.ท. เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.ค. 2568 ลดมาอยู่ที่ระดับ 86.6 เหตุข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา น้ำท่วมภาคเหนือ ภาษีทรัมป์เบิกจ่าบงบปี’68 ฝืด คาดอีก 3 เดือนดัชนีก็ยังร่วง วอนรัฐอย่าช้าเร่งออกมาตรการเยียวยา สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำให้เสร็จ

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนกรกฎาคม 2568 อยู่ที่ระดับ 86.6 ปรับตัวลดลง จาก 87.7 ในเดือนมิถุนายน 2568 ซึ่งเป็นผลจากสถานการณ์ข้อพิพาทบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการค้าชายแดน โดยในเดือนมิถุนายน 2568 มีมูลค่าการค้ารวม 10,907.53 ล้านบาท ลดลง 32.29% เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2568 (MoM) และลดลง 23.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)

นอกจากนี้ สถานการณ์อุทกภัยและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคเหนือ เช่น จังหวัดน่านและเชียงราย ยังสร้างความเสียหายต่อชุมชน บ้านเรือน และโรงงานอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันความกังวลต่อการจัดเก็บภาษี Reciprocal Tariff ในอัตรา 36% (ซึ่งมีผลบังคับใช้วันที่ 1 สิงหาคม 2568) ส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจไทย

ยิ่งไปกว่านั้นความกังวลต่อการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ที่อาจเกิดความล่าช้า ตลอดจนการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณปี 2568 และงบกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.15 แสนล้านบาท ให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด รวมทั้งกำลังซื้อในประเทศที่ชะลอตัว โดยเฉพาะในหมวดสินค้าคงทน เช่น เครื่องปรับอากาศและเครื่องจักรกล ส่งผลให้ภาคการบริโภคภายในประเทศเผชิญกับแรงกดดันเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม ในเดือนกรกฎาคม ยังคงมีปัจจัยบวกจากโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568 จำนวน 500,000 สิทธิ์ ภายใต้งบประมาณ 1,750 ล้านบาท (เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568) ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น และกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนอย่างทั่วถึง

ขณะเดียวกันการลงทุนมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยในช่วงครึ่งปีแรก 2568 มีมูลค่าเงินลงทุนรวม 1.06 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 138% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ทั้งนี้ คาดว่าจะช่วยกระตุ้นการลงทุน ยกระดับโครงสร้างเศรษฐกิจ และเพิ่มการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรม อีกทั้งราคาน้ำมันที่ทรงตัว ยังมีส่วนช่วยลดต้นทุนให้แก่ผู้ประกอบการ

และจากการสำรวจผู้ประกอบการยังพบว่าปัจจัยที่ผู้ประกอบการมีความกังวลเพิ่มขึ้น ได้แก่ เศรษฐกิจภายในประเทศ 70.1% เศรษฐกิจโลก 66.7% นโยบายภาครัฐ 57.2% อัตราแลกเปลี่ยน (มุมมองผู้ส่งออก) 44.9% ราคาพลังงาน 35.5% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 27.1% ส่วนปัจจัยที่มีความกังวลลดลง ได้แก่ การเข้าถึงสินเชื่อ 42.3%

ขณะที่ดัชนีฯคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า ปรับตัวลดลงเช่นกัน อยู่ที่ระดับ 89.2 ลดลงจาก 90.8 ในเดือนมิถุนายน 2568 เนื่องจากผลการเจรจาภาษี Reciprocal Tariff กับสหรัฐฯ อาจส่งผลต่อขีดความสามารถในการแข่งขัน หากอัตราภาษีไทยสูงกว่าประเทศคู่แข่งในภูมิภาค อีกทั้งข้อพิพาทระหว่างไทยและกัมพูชาที่ยืดเยื้อยังคงส่งผลกระทบต่อมูลค่าการค้าชายแดน

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยสนับสนุนที่คาดว่าจะช่วยประคับประคองสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ได้แก่ มาตรการตรึงราคาพลังงาน โดยค่าไฟฟ้างวดเดือนกันยายน-ธันวาคม 2568 คงอยู่ที่ 3.94 บาทต่อหน่วย รวมถึงมาตรการส่งเสริมการติดตั้ง Solar Rooftop ซึ่งช่วยลดต้นทุนผู้ประกอบการและสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด อีกทั้งมาตรการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย (เริ่ม 1 ตุลาคม 2568) ที่จะช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชน

สำหรับข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ 1.เสนอให้ภาครัฐออกมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อให้สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้โดยเร็ว พร้อมทั้งจัดทำโครงการสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการไทยที่เข้าไปลงทุนในประเทศกัมพูชา เพื่อบรรเทาผลกระทบและลดความเสี่ยงต่อการประกอบธุรกิจในระยะยาว

2.เสนอให้ภาครัฐออกมาตรการสนับสนุนด้านสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำหรือเงื่อนไขผ่อนปรนเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงินและสนับสนุนการปรับตัวของผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ และผู้ประกอบการ SMEs ที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการในการปรับตัว เพื่อรับมือกับอัตราภาษี Reciprocal Tariff ที่ประกาศในวันที่ 1 สิงหาคม 2568

3.เสนอให้ภาครัฐเร่งลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเป็นระบบ เพื่อป้องกันและบรรเทาปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บกัก กระจายน้ำ และฟื้นฟูระบบนิเวศน้ำอย่างยั่งยืน

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ดัชนีอุตฯ ก.ค. 68 ร่วง เหตุปะทะชายแดน-ภาษีทรัมป์ อีก 3 เดือนข้างหน้าก็ยังร่วง

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ประชาชาติธุรกิจ

ร้านอาหาร-ภัตตาคาร เผชิญกำลังซื้อหด จ่อพบ "คลัง" ออกโครงการกระตุ้น

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ด่วน! เจ้าคณะลพบุรี อนุญาต หลวงพ่ออลงกต ลาออกเจ้าอาวาส วัดพระบาทน้ำพุ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

ไทยพาณิชย์อัดสินเชื่อยันไม่ทิ้งเอสเอ็มอี

AEC10NEWs

BEM ยกระดับคุณภาพชีวิตผ่านการศึกษา สร้างอนาคตเยาวชนไทยอย่างยั่งยืน

หุ้นวิชั่น

ปมร้อนชายแดน-ภาษีสหรัฐกดดัชนีเชื่อมั่นฯลดต่ำสุดรอบ 3 ปี

The Better

SEI แย้มแผนครึ่งปีหลัง เข้าไฮซีซัน ตั้งเป้าเพิ่มพันธมิตร เป็น 25 แบรนด์คลุมทั่วโลก ดันรายได้ตั้งปีโต 30%

MATICHON ONLINE

KCE ผู้นำ PCB โลก ชี้ไทยต้องปั้นอีโคซิสเต็มอิเล็กทรอนิกส์สู่ฮับอาเซียน พร้อมชู 4 กลยุทธ์สำคัญ ยกระดับอุตสาหกรรมสู่สากล

The Better

GCAP ประเมินความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์กุมชะตาทองคำ แนะรอซื้อช่วง 51,000-50,800 บาท

การเงินธนาคาร

ครม.ไฟเขียว “พชร อนันตศิลป์” นั่งปลัดดีอีคนใหม่ มีผล 1 ต.ค. 68

การเงินธนาคาร

AI เติมมูลค่า 16 ล้านล้านให้บ.ยักษ์ Morgan Stanley ชี้ S&P 500 รับอานิสงส์ แต่แรงงานอาจหายไป 90%

Thairath Money

ข่าวและบทความยอดนิยม

ดัชนีอุตฯ ก.ค. 68 ร่วง เหตุปะทะชายแดน-ภาษีทรัมป์ อีก 3 เดือนข้างหน้าก็ยังร่วง

ประชาชาติธุรกิจ

Shein พิจารณา ย้ายฐานกลับจีน เตรียมเปิด IPO ฮ่องกง

ประชาชาติธุรกิจ

ภูมิธรรม แจ้ง ครม. คืบหน้าเหตุชายแดนไทย-กัมพูชา จี้ออกมาตรการสกัดโดรน

ประชาชาติธุรกิจ
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...