“ทเวิร์ก” หน้าวิหารทำพิษ ส่ง 3 นศ.สาว ดัดนิสัย 11 เดือน เหตุยุค “ปูติน” เข้มศีลธรรม
สัญญาณจากเครมลิน เมื่อ ท่าเต้นทเวิร์ก ส่งผลกระทบหนัก 3 นักศึกษาสาวอายุเพียง 18 ปี ชีวิตต้องผกผันสู่การ ใช้แรงงาน บทสะท้อนการคุมเข้มศีลธรรมยุคปูติน
เมื่อเร็วๆ นี้ สื่อต่างประเทศพากันรายงานข่าวฮือฮากรณีที่มีนักศึกษาสาว 3 คนถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัยและถูกศาลสั่งให้ไป ใช้แรงงานเพื่อดัดนิสัย เป็นเวลาถึง 11 เดือน โทษฐานที่พวกเธอถ่ายคลิปวิดีโอขณะกำลัง “เต้นทเวิร์ก” อยู่หน้ามหาวิหารแห่งหนึ่งในกรุงมอสโก
นักศึกษาสาวทั้งสามคนซึ่งเชื่อว่ามีอายุ 18 ปี ได้โพสต์คลิปบน TikTok แต่ทางการรัสเซียตอบโต้ด้วยกำปั้นเหล็ก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการปราบปรามที่มุ่งเน้น “คุณค่าดั้งเดิม” ที่กำลังแผ่ขยายไปทั่วประเทศภายใต้การนำของวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดี ในวัย 72 ปี
พวกเธอถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาพฤติกรรมอันธพาลขนาดย่อม และถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัยศิลปะและอุตสาหกรรมแห่งรัฐสโตรกานอฟ โทษฐานละเมิดความสงบเรียบร้อยของประชาชนและดูหมิ่นความรู้สึกทางศาสนาของพลเมือง
เสียงจากกลุ่มชาตินิยมเดิม
การลงโทษอย่างรุนแรงนี้เกิดขึ้นหลังจากการกดดันอย่างหนักจาก โซรอก โซโรคอฟ (Sorok Sorokov) กลุ่มเคลื่อนไหวของชาวคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์สายอนุรักษ์นิยม ซึ่งได้ออกมาประณามเด็กสาวไร้สมองที่ต้องการจะโด่งดังจากการถ่ายวิดีโอ สั่นบั้นท้ายอยู่หน้ามหาวิหารพระคริสต์ผู้ไถ่บาปในกรุงมอสโก
“เราขอขอบคุณหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่ปกป้องสิทธิของผู้ศรัทธาและศีลธรรมอันดีของประชาชน” กลุ่มดังกล่าว ระบุ
ไม่ใช่แค่ท่าเต้น ! การปราบปรามที่ขยายวงกว้าง
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่การแสดงออกของคนหนุ่มสาวถูกมองว่าเป็น “พฤติกรรมเสื่อมทราม” และถูกลงโทษอย่างรุนแรง ภายใต้บรรยากาศทางการเมืองปัจจุบันที่ “ปูติน” กำลังกวาดล้างพฤติกรรมที่ไม่สอดคล้องกับแนวทางอนุรักษ์นิยมของรัฐ
ก่อนหน้านี้ อเลนา อกาโฟโนวา หญิงสาวอีกราย ต้องตกที่นั่งลำบากหลังจากโพสต์วิดีโอที่ดูเหมือนว่ากำลัง “จั๊กจี้” หน้าอกของอนุสาวรีย์มาตุภูมิเพรียกหา (The Motherland Calls) ในเมืองวอลโกกราด ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานสงครามที่ชาวรัสเซียให้ความเคารพอย่างสูง ส่งผลให้เธอถูกขึ้นบัญชีเป็นบุคคลที่ทางการต้องการตัว
หลายเสียงบนโลกออนไลน์ เริ่วิพากษ์วิจารณ์ขอบเขตของเสรีภาพส่วนบุคคลกำลังหดแคบลงอย่างรวดเร็ว ของหนุ่มสาวในรัสเซียและการกระทำใดๆ ที่ถูกตีความว่าเป็นการท้าทายต่อ “คุณค่าดั้งเดิม” ของชาติ จะต้องเผชิญกับการตอบโต้อย่างไม่ปรานี
(ดูคลิป) ทั้งนี้ ความเฮี้ยบ ! ดังกล่าว ไม่ใช่หนแรกที่จู่ๆ ตัวแสบแดนหมีขาวต้องเจอโทษหนักหน่วงจากพฤติกรรมไม่เหมาะสมซึ่งถ้าเป็นบ้านเมืองอื่น พวกเขาอาจจะรอดไปได้ แต่ไม่ใช่ที่นี่ โดยก่อนหน้านี้ เชื่อว่าคนในบ้านเราน่าจะจดจำกันได้ กับเคสฝรั่งปล้ำวัวที่สุราษฎร์ธานี จนเป็นข่าวสื่อนอกพากันตีข่าว เหตุเกิดเหตุใต้สะพานจุดตัดสาย 44 ต.ท่าเรือ อ.บ้านนาเดิม หนนั้นชื่อของนายเอฟเกนี คูฟชินอฟ (Evgenii Kuvshinov) วัย 26 ปี ถึงกับถูกสื่อเมืองผู้ดีรายงานต่อว่ามาเจ้าตัวเสี่ยงจะถูกเกณฑ์เข้ากองทัพของปูตินมาแล้ว.
อ่านข่าวเพิ่มเติม