วิเคราะห์ “นันยาง” จับกระแสรักชาติ เปิดตัว ’รองเท้าพิทักษ์ 68‘ การตลาดได้ใจคนไทย
เมื่อแบรนด์ไม่ได้แค่ขายรองเท้า…แต่ขาย “จุดยืน” ท่ามกลางความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา
“นันยาง” แบรนด์รองเท้าขวัญใจคนไทย ขยับใหญ่ เปิดตัวคอลเลกชันใหม่ "นันยาง พิทักษ์ 68 - Tactical Camo Edition"ด้วยลวดลายพรางทหาร โทนดำ-เขียว
ทว่าสิ่งที่คนฮือฮาไม่ใช่แค่ดีไซน์ แต่คือการประกาศว่า “จะมอบกำไรทั้งหมดให้กองทุนทหารผ่านศึก” สื่อชัดเจนว่า อยู่ข้างผู้เสียสละเพื่อชาติ
เล่นกับอารมณ์ร่วมของสังคม
ขณะที่ข่าวชายแดนเต็มหน้าฟีด คนไทยรู้สึกอินกับทหาร
“นันยาง” ใช้จุดนั้นสร้างโมเดลการตลาดที่เชื่อมโยงกับอารมณ์ของคนทั้งประเทศ ทั้งการใช้ลายพรางทหารทำรองเท้าผ้าใบรุ่นพิเศษ และการบริจาคให้ทหารผ่านศึก
รองเท้า จึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการมีส่วนร่วมของคนไทยผ่านแบรนด์ ไม่ใช่แค่แฟชั่นอีกต่อไป
ใช้ Scarcity สร้างแรงซื้อ
แคมเปญนี้เปิดพรีออเดอร์แค่ 5 วัน (8-12 ส.ค. 68)ซึ่งมีความเร่งด่วน กระตุ้นการซื้อทันที
ใช้โมเดล “Limited Edition”เพื่อสร้าง FOMO (กลัวพลาด) กระตุ้นยอดแบบไม่ต้องเทงบโฆษณาเยอะด้วยซ้ำ
บีบเวลาซื้อให้สั้นมากเพื่อเร่งการแชร์และการสั่งซื้อในกลุ่มเป้าหมายที่มีอารมณ์ร่วม
แม้ นันยางรุ่นพิทักษ์ 68 มีราคา 699 บาท สูงกว่ารองเท้าผ้าใบรุ่นอื่น ๆ ของนันยางราว 105-313% ที่มีราคาประมาณ 169-340 บาท แต่คนก็ยอมจ่าย เพื่อสนับสนุนกระแสรักชาติ
การตลาดได้ใจคนไทยทุกกลุ่ม
แคมเปญนี้ไม่มีการพูดถึงฝ่ายไหน และไม่มีโจมตีใคร แบรนด์เลือกยืนอยู่ฝั่งทหารผ่านศึก – ผู้ที่เสียสละจริง ๆ
คนซื้อจึงรู้สึกว่า กำลัง “สนับสนุนผู้เสียสละ” ไม่ใช่ “สนับสนุนสงคราม”
ทั้งนี้ กลุ่มคนที่อินกับความรักชาติหรือครอบครัวทหารจะรู้สึกผูกพันกับแบรนด์
ส่วนคนทั่วไปจะรู้สึกว่า ได้ทำบุญเมื่อซื้อนันยางรุ่นดังกล่าว เรียกได้ว่า แบรนด์ได้ภาพว่า CSR จริง ไม่ใช่แค่พูด