ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค ก.ค. ขยับ 48.4 รับมาตรการรัฐ–ส่งออกหนุน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (15 ส.ค.68) นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน 5,787 รายทั่วประเทศ พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม เดือนกรกฎาคม อยู่ที่ 48.4 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า สะท้อนแรงหนุนจากการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง และภาคการส่งออกที่ยังขยายตัวได้ดี
สำหรับปัจจัยบวกที่ช่วยหนุนความเชื่อมั่น มาจากการดำเนินโครงการของรัฐที่ต่อเนื่องเพื่อช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจ ควบคู่ไปกับการส่งออกที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ปัจจัยลบที่กดดันความเชื่อมั่น ได้แก่ ความไม่แน่นอนของมาตรการภาษีตอบโต้การนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ ความตึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชา รวมถึงภาระหนี้ครัวเรือนและภาคธุรกิจที่ยังอยู่ในระดับสูง แม้จะได้รับความช่วยเหลือผ่านมาตรการต่าง ๆ แล้วก็ตาม อีกทั้งยังมีผลกระทบจากภัยธรรมชาติในบางพื้นที่ ซึ่งอาจซ้ำเติมความเชื่อมั่นในระยะต่อไป
การสำรวจพบว่า ปัจจัยด้านเศรษฐกิจไทยมีผลต่อความเชื่อมั่นมากที่สุด รองลงมาคือมาตรการของภาครัฐ สังคมและความมั่นคง การเมือง เศรษฐกิจโลก ราคาสินค้าเกษตร ผลกระทบจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ภัยพิบัติหรือโรคระบาด และปัจจัยอื่น ๆ ตามลำดับ
เมื่อจำแนกรายภูมิภาค พบว่ามีเพียงภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่อยู่ในช่วงเชื่อมั่น โดยมีค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 53.5 ส่วนภาคใต้ ภาคเหนือ ภาคกลาง และกรุงเทพฯ–ปริมณฑล อยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงเชื่อมั่น แต่ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า สำหรับการจำแนกรายอาชีพ พบว่าพนักงานของรัฐเป็นกลุ่มเดียวที่อยู่ในช่วงเชื่อมั่น ขณะที่กลุ่มนักศึกษา ผู้ประกอบการ ผู้เกษียณอายุ เกษตรกร อาชีพอิสระ พนักงานเอกชน และผู้เชี่ยวชาญ ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงเชื่อมั่น
นายพูนพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การขยับขึ้นของดัชนีในเดือนกรกฎาคม เป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น โครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ที่ช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงนอกฤดูกาล การขยายระยะเวลาโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เพื่อบรรเทาหนี้ประชาชน รวมถึงมาตรการสนับสนุนในภาคส่วนอื่น ๆ ซึ่งไม่เพียงช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่ยังวางรากฐานการเติบโตในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนจากสถานการณ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเจรจาลดภาษีนำเข้ากับสหรัฐฯ และความขัดแย้งชายแดนไทย–กัมพูชา ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อความเชื่อมั่น รวมถึงสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือที่ซ้ำเติมความกังวลของประชาชนในช่วงที่ผ่านมา
กระทรวงพาณิชย์ ยังคงเดินหน้ามาตรการเพื่อลดความกังวลของประชาชนในทุกมิติ ทั้งการบริหารจัดการผลไม้ปี 2568 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไย การจัดจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาประหยัดอย่างต่อเนื่อง และการควบคุมราคาสินค้าในพื้นที่ชายแดนเพื่อป้องกันภาวะขาดแคลน พร้อมเร่งกระจายผลผลิตไปยังพื้นที่อื่น รวมถึงการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อกำหนดมาตรการตอบสนองได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการเร่งเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ