PMC โชว์ครึ่งแรกปี 68 โกยรายได้รวมเกือบ 420 ลบ. - กำไรสุทธิโตกว่า 11%
บมจ. พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรียลส์ (PMC) ประกาศผลประกอบการ 6 เดือนแรกปี 68 โชว์ศักยภาพทำกำไรสุทธิที่ 26.75 ล้านบาท เติบโตกว่า 11% รายได้รวมทำได้เกือบ 420ล้านบาท จากท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังผันผวน ขณะที่ Q2/68 สามารถรักษาการทำกำไรขั้นต้นได้ดี มองครึ่งปีหลัง PMC พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจ เจาะตลาดต่างประเทศ รุกตลาดกลุ่มฟิล์มและฉลากพิเศษที่มีดีมานด์สูง มั่นใจกลยุทธ์นวัตกรรมสีเขียว–การควบคุมต้นทุน หนุนเป้ารายได้โตระดับ Double Digit
นายเอก สุวัฒนพิมพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรียลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PMC ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สติ๊กเกอร์เปล่า (Sticker) หรือฉลากกาว (Self-Adhesive Label) ชั้นนำของประเทศ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานรอบ 6 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 419.92 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 26.75 ล้านบาท โดยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 11.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกับของปีก่อน สะท้อนความสามารถในการดำเนินธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ ทั้งการบริหารจัดการ การบริหารการขาย และบริหารจัดการวัตถุดิบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 2/2568 รายได้รวมอยู่ที่ 198.86 ล้านบาท ลดลง 6.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ยังสามารถรักษาระดับ อัตรากำไรขั้นต้นที่ 21.4% และมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 42.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.0% สะท้อนความสามารถในการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการเพิ่มสัดส่วนยอดขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์ฟิล์มและฉลากพิเศษที่มีมาร์จิ้นสูง ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 11.05 ล้านบาท ลดลง 8.5% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
โดย PMC แบ่งโครงสร้างรายได้จากการขายแยกตามภูมิภาค มีสัดส่วนรายได้จากการขายในตลาดในประเทศ 72% และขายต่างประเทศอีก 28% จากยอดขายและบริการรวม ณ ไตรมาส 2/2568 โดยสัดส่วนการขายในตลาดต่างประเทศประสบภาวะตึงเครียดจากภาวะเงินเฟ้อและนโยบายทางภาษีของสหรัฐอเมริกา สำหรับโครงสร้างรายได้จากการขายแยกตามผลิตภัณฑ์ 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มกระดาษ 52%, กลุ่มฟิล์ม 25%, ฉลากพิเศษ 18% และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ 5%ตามลำดับ
ในครึ่งปีหลัง 2568 PMC ยังคงเดินหน้ากลยุทธ์ขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งรักษาฐานลูกค้าในประเทศควบคู่กับการรุกตลาดต่างประเทศที่มีศักยภาพ แม้เผชิญความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังยืดเยื้อ แต่บริษัทสามารถรักษาระดับกำไรขั้นต้นได้ดี ผ่านการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และการวางแผน Supply Chain อย่างรัดกุม
PMC ยังเดินหน้าผลักดันยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์ฟิล์มและกลุ่มสินค้าพิเศษอื่นๆ ที่มีดีมานด์ต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ โดยขยายการเติบโตสู่ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตประจำวัน อาทิ อาหาร เครื่องดื่ม ยานยนต์ โลจิสติกส์ และอุตสาหกรรม FMCGพร้อมยกระดับความสามารถในการแข่งขันด้วยศูนย์กระจายสินค้าครอบคลุมไทย สิงคโปร์ และมาเลเซีย เสริมความรวดเร็วและตอบโจทย์ลูกค้าได้ทั่วภูมิภาค
ด้วยจุดแข็งในฐานะผู้นำด้านฉลากกาว (Self-Adhesive Labels) ที่ยั่งยืน PMC เดินหน้าสร้างความแตกต่างด้วยการผสาน “นวัตกรรมสีเขียว” เข้ากับการผลิตสินค้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังเน้นการให้บริการครบวงจรในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย พร้อมขยายฐานลูกค้าใหม่เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างมั่นคง คาดว่าผลการดำเนินงานปี 2568 จะสามารถเติบโตในระดับเลขสองหลัก (Double Digit) ตามเป้าหมายที่วางไว้