ประวัติ “ฮุน ธิดา” หลานสาว ฮุน เซน กรุยทางสู่ ว่าที่นายกฯ หญิงกัมพูชา
เปิดประวัติ ฮุน ธิดา หลานสาวคนโปรดของ ฮุน เซน เชื่อว่าเป็นมารดาของตนกลับชาติมาเกิด อาจถูกวางตัวเป็นนายกฯ หญิงคนแรกในอนาคต
ท่ามกลางการจับตามองทายาททางการเมืองของตระกูล “ฮุน” ในประเทศกัมพูชา ชื่อของ ฮุน ธิดา (Hun Thida) กำลังถูกสปอตไลท์ส่อง ในฐานะหลานสาวคนโปรดของสมเด็จฯ ฮุน เซน ซึ่งความสำคัญของเธอไม่ได้มาจากสายเลือดเพียงอย่างเดียว แต่มาจากความเชื่อส่วนตัวอันแรงกล้าของผู้เป็นปู่ที่เชื่อว่าเป็น “มารดาของ ฮุน เซน ที่กลับชาติมาเกิด” ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า ฮุน ธิดา คือผู้ที่ถูกวางตัวให้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของกัมพูชาในอนาคต
เรื่องราวที่น่าสนใจนี้ถูกเปิดเผยโดยเพจ Roytu NP ของนายนพดล พรหมภาษิต โดยระบุว่า ฮุน ธิดา เป็นบุตรสาวของนางฮุน มานา แต่ความผูกพันระหว่างเธอกับสมเด็จฯ ฮุน เซน นั้นลึกซึ้งเป็นพิเศษ เพราะท่านเชื่อว่าเธอคือดวงวิญญาณของแม่ท่านกลับชาติมาเกิดเพื่อช่วยชาติ เนื่องจากมีปานในตำแหน่งเดียวกันกับมารดาผู้ล่วงลับ ความเชื่อนี้เองที่ทำให้ ฮุน ธิดา ได้รับความรักและการสนับสนุนอย่างเต็มที่เหนือหลานคนอื่น ๆ
มีรายงานข่าวที่ยืนยันถึงความพิเศษนี้ เช่น การที่สมเด็จฯ ฮุน เซน ได้โอนกรรมสิทธิ์คฤหาสน์หลังใหญ่ในจังหวัดกันดาลให้เป็นของเธอ และครั้งหนึ่งถึงกับเคยมีข่าวว่าท่านได้ยกเลิกการประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อเดินทางไปส่งเธอขึ้นเครื่องบินกลับไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศด้วยตนเอง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญที่ท่านมีต่อหลานสาวคนนี้
เส้นทางการศึกษาและบทบาทในเวทีทูต
สมเด็จฯ ฮุน เซน ได้วางรากฐานทางการศึกษาให้แก่หลานสาวคนนี้อย่างดีที่สุด โดย ฮุน ธิดา สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านรัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่าง King’s College London และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาการจัดการ จาก Queen Mary University of London ในสหราชอาณาจักร
ก่อนหน้านี้ ฮุน เซน เคยได้กล่าวถึงหลานสาว เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2562 โดยให้เข้าไปมีบทบาทในการเมืองมากขึ้นว่า “หลานสาวของฉันคิดถึงคุณปู่มาก อุตส่าห์นั่งเครื่องบินมารอคุณปู่ที่ประเทศฮังการี
เช้านี้เลยพาหลานเข้าร่วมในคณะผู้แทนเพื่อเข้าเยี่ยมคารวะประธานาธิบดีและประธานรัฐสภาของฮังการี เพื่อให้หลานได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการทำงานของผู้นำประเทศ”
คำสัญญาและความหวังของปู่
นอกจากนี้ ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2562 ฮุน เซน ได้โพสต์เล่าถึงการไปส่งหลานสาวที่สนามบินด้วยตนเอง ซึ่งทำให้ท่านหวนนึกถึงอดีตที่พ่อแม่ของท่านเคยขับเกวียนมาส่งท่านขึ้นเรือไปเรียนที่พนมเปญ แม้จะมีเงินติดตัวเพียงน้อยนิด แต่ความอบอุ่นใจที่ได้รับจากครอบครัวคือสิ่งที่มีค่าที่สุด
“เย็นวันนี้ข้าพเจ้าได้ไปส่งหลานสาวของข้าพเจ้ากลับไปเรียนหนังสือ หลังจากที่เธอได้มาพักผ่อนในช่วงวันหยุด เนื่องจากภรรยาของข้าพเจ้าผู้เป็นย่า และลูกสาวของข้าพเจ้าผู้เป็นแม่ ติดภารกิจไม่สามารถมาส่งได้ จึงเป็นหน้าที่ของข้าพเจ้าผู้เป็นปู่ที่ต้องสละเวลามาส่งหลานเพื่อหลีกเลี่ยงความรู้สึกเดียวดายของหลานสาว
ในอดีต ข้าพเจ้าและภรรยา พร้อมด้วยคุณพ่อของข้าพเจ้า ก็เคยไปส่งลูก ๆ ของข้าพเจ้าเมื่อครั้งที่พวกเขาเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ มาบัดนี้ถึงเวลาที่ต้องมาส่งหลานบ้าง ซึ่งข้าพเจ้าถือว่าเป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งในการให้กำลังใจแก่การศึกษาของพวกเขา
พอพูดถึงเรื่องนี้ ข้าพเจ้าก็นึกถึงสมัยที่ยังเป็นเด็ก พ่อแม่ของข้าพเจ้าได้ขับเกวียนเป็นระยะทางหลายกิโลเมตรมายังท่าเรือเพื่อส่งข้าพเจ้าขึ้นเรือเดินทางมาเรียนหนังสือที่พนมเปญ แม้ว่าในตัวข้าพเจ้าจะมีเงินเพียง 12 เรียล กับข้าวห่อใบตองอีกหนึ่งห่อก็ตาม แต่ข้าพเจ้ากลับรู้สึกอบอุ่นใจอย่างยิ่งที่ได้พ่อแม่มาส่ง ซึ่งข้าพเจ้ามองจากบนเรือก็เห็นท่านทั้งสองยืนมองมาที่เรือจนสุดสายตามองไม่เห็น
ลูกชายคนโตของข้าพเจ้าเรียนจบปริญญาเอก ส่วนหลานสาวคนโตคนนี้ก็ได้สัญญากับข้าพเจ้าว่า “หลานจะคว้าปริญญาเอกมาให้ได้” ข้าพเจ้าหวังว่าหลานคนนี้จะประสบความสำเร็จในการศึกษาของตน เพื่อเป็นแรงผลักดันให้กับหลานอีก 19 คนต่อไป”
สานต่อเจตนารมณ์สายมนุษยธรรมจากผู้เป็นย่า
นอกจากการปรากฏตัวในเวทีการเมืองระหว่างประเทศแล้ว ภาพลักษณ์ของ ฮุน ธิดา ยังถูกสร้างให้เชื่อมโยงกับงานด้านมนุษยธรรม โดยเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2565 หลังจากที่เธอเดินทางกลับถึงกัมพูชาได้ไม่นาน ก็ได้ปรากฏตัวในกิจกรรมด้านมนุษยธรรมทันที ซึ่งสมเด็จฯ ฮุน เซน ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพของ ฮุน ธิดาว่า “ลูกและหลานสืบสานกิจกรรมด้านมนุษยธรรมต่อ สืบทอดจากแม่และย่า” เป็นการเทียบเคียงบทบาทของเธอกับท่านผู้หญิงบุน รานี ฮุน เซน ผู้เป็นย่า ซึ่งเป็นที่ยอมรับอย่างสูงในงานด้านมนุษยธรรมและกาชาด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง