CH เจรจาคู้ค่า-ขยายฐานผลิตใหม่ หนุนโตยาว
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 20 สิงหาคม 2568 เวลา 21.32 น. • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น - CH เผยทิศทางไตรมาส 3/2568 เดินหน้ากลยุทธ์รับมือภาษีสหรัฐฯเร่งเจรจาคู่ค้าเดิม พร้อมส่งแบรนด์ Bangkok Tasty by CH และ Eros (อีโรส) บุกตลาดผู้บริโภคในประเทศ สร้างการเติบโตระยะยาว ขยายฐานลูกค้าใหม่โซนยุโรป และเอเชีย ดันรายได้เติบโตตามเป้า ผลประกอบการไตรมาส 2/2568 บริษัทมีรายได้รวม 437.94 ล้านบาท กำไรสุทธิ 12.04 ล้านบาท
นายศักดา ศรีแสงนาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจริญอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ CH ผู้ผลิตและจำหน่ายผลไม้และอาหารแปรรูป ได้แก่ ผลไม้อบแห้ง ปลากระป๋อง และขนมเพื่อสุขภาพ เปิดเผยทิศทางธุรกิจในไตรมาส 3/2568 จากนโยบายอัตราภาษีนำเข้าของประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีความชัดเจนขึ้นอยู่ที่ 19% บริษัทจึงได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินงานเพื่อรองรับสถานการณ์ ประกอบด้วย
- เจรจากับคู่ค้าเดิมเรื่องการชดเชยภาษีที่เคยแบ่งจ่ายร่วมกัน
- นำเสนอสินค้าใหม่ที่มีคุณภาพใกล้เคียงแต่ต้นทุนถูกกว่า เพื่อทดแทนสินค้าเดิม โดยจะมีการทยอยนำเสนอสินค้าใหม่ให้แก่ลูกค้าทีละเจ้า 3. เดินหน้าขยายตลาดใหม่ไปยังโซนยุโรป และเอเชีย อาทิ จีน และญี่ปุ่น ที่เริ่มเปิดรับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีช่องทางการจัดจำหน่ายแล้วกว่า 20 ประเทศทั่วโลก แบ่งออกเป็นโซนอเมริกา 55%, ยุโรป 12%, เอเชีย 20% และออสเตรเลีย 1%
ขณะเดียวกันบริษัทยังคงให้ความสำคัญกับตลาดภายในประเทศ ซึ่งมีศักยภาพการเติบโตสูงจากเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากยิ่งขึ้น บริษัทจึงเดินหน้าส่งเสริมการตลาดผ่าน 2 แบรนด์หลัก ได้แก่ Bangkok Tasty by CH ผลิตภัณฑ์ขนมเพื่อสุขภาพและผลไม้แปรรูป ที่สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทย ผ่านการคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพและพัฒนารสชาติใหม่ๆ เพื่อตอบรับเทรนด์ของผู้บริโภค และ Eros (อีโรส) แบรนด์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภครุ่นใหม่ที่เน้นความสะดวกสบาย ด้วยบรรจุภัณฑ์ที่สามารถแบ่งรับประทานได้และสามารถหาซื้อได้ที่ 7-11 ทุกสาขาทั่วประเทศ
โดยบริษัทได้มีการนำเสนอสินค้าใหม่ของทั้ง 2 แบรนด์ ผ่านงาน THAIFEX เมื่อช่วงเดือนพ.ค. 2568 ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้ที่เข้าร่วมงาน นำไปสู่การต่อยอดพัฒนาและปรับรสชาติของผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ถูกปากในวงกว้างมากยิ่งขึ้น เพื่อนำเสนอให้แก่คู้ค่าพิจารณา ทั้งนี้มั่นใจว่าการลงสนามพบผู้บริโภคและความเข้าใจในพฤติกรรมการบริโภคของคนไทย จะเป็นปัจจัยสนับสนุนที่ช่วยสร้างแบรนด์ให้แข็งแรง สร้างการเติบโตในระยะยาว สามารถต่อยอดสู่ตลาดโลกได้ในอนาคต
“แม้ว่านโยบายอัตราภาษีนำเข้าของประเทศสหรัฐอเมริกาจะมีความชัดเจนด้านตัวเลขแล้ว แต่บริษัทยังคงเตรียมแผนรับมืออย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเจรจากับคู่ค้า การควบคุมการผลิตให้สอดคล้องกับยอดออเดอร์ การมองหาฐานผลิตใหม่ การขยายตลาดสู่ภูมิภาคอื่นที่มีศักยภาพ และการขยายช่องทางการขายภายในประเทศ เพื่อรับมือต่อความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
เราเชื่อว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือการรักษาความเชื่อมั่นของลูกค้า ด้วยการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ มั่นใจว่า CH จะสามารถสร้างการเติบโตได้ตามเป้าหมายใหม่ที่วางไว้ และยังคงเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการส่งออกอาหารแปรรูปและผลไม้แปรรูปของไทยต่อไป ด้วยความตั้งใจของเราในการพัฒนาสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภครุ่นใหม่ ทั้งในด้านรสชาติ คุณภาพ และสุขภาพ จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยขยายโอกาสทางธุรกิจให้กับบริษัทได้อย่างแน่นอน” นายศักดา กล่าว
สำหรับผลประกอบการงวดไตรมาส 2/2568 บริษัทมีรายได้รวม 437.94 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 12.04 ล้านบาท