ธ.ก.ส.เล็งปรับพอร์ตรับมือเกษตรกรสูงวัย เตรียม 5 หมื่นล้านลุยสินเชื่อใหม่
นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจของ ธ.ก.ส.นั้น ขณะนี้สามารถปล่อยสินเชื่อเติบโตได้แล้วกว่า 2% จากเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อโต 5% ซึ่งธ.ก.ส.ได้เตรียมวงเงินรูปแบบสินเชื่อระยะสั้น เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ประมาณ 5 หมื่นกว่าล้านบาทสำหรับปล่อยสินเชื่อใหม่ ได้แก่
- สินเชื่ออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) 4 หมื่นล้านบาท
- สินเชื่อดูแลกำนันผู้ใหญ่บ้านอีก 5,000 ล้านบาท
- บุคคลากรทางการศึกษา สาธารณสุข วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท
ส่วนสถานการณ์หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ขณะนี้ลดลงมา อยู่ที่ 5% ถือว่าอยู่ในสัดส่วนที่บริหารจัดการได้ อย่างไรก็ตาม ธ.ก.ส.ยังมีความท้าทายในการดำเนินธุรกิจ จากสถานการณ์เกษตรกรสูงอายุ โดยจะมีการจัดทำแผน 5-10 ปี ปรับโครงสร้างพอร์ตของแบงก์ และจะต้องมีการปรับโครงสร้างอายุเกษตรกรด้วย
ด้านผลกระทบของเกษตรกรจากนโยบายภาษีสหรัฐอเมริกานั้น ธ.ก.ส. ได้เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเกษตรกร โดยเฉพาะเรื่องราคาสินค้า ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบอัตราการชำระหนี้คืน ธ.ก.ส.ด้วย อย่างไรก็ตาม ธ.ก.ส.ได้เข้าไปสนับสนุนการปลูกพืชเชิงเดี่ยว และได้ออกมาตรการดูแลเกษตรกรแล้ว ทั้งนี้ ยังได้มีการหารือกระทรวงการคลัง ถึงการเตรียมออกมาตรการดูแลเกษตรกรเพิ่มเติม
“เกษตรกรได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีสหรัฐ แต่ไม่ได้รุนแรงในภาพรวม เพราะเกษตรกรมีการปรับตัว และธ.ก.ส.เองก็ได้ออกมาตรการเข้าไปดูแล้ว และเราพร้อมออกมาตรการดูแลเพิ่มเติม ซึ่งอยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงการคลัง“
ทั้งนี้ ธ.ก.ส.ยังได้ร่วมกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการและถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อร่วมกันบูรณาการและถ่ายทอดองค์ความรู้ในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม ในการเพิ่มศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันของเกษตรกรและผู้ประกอบธุรกิจในภาคการเกษตร โดยเฉพาะเกษตรกรรุ่นใหม่
เพื่อให้สามารถนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในการผลิต การแปรรูป การเพิ่ม ผลผลิต การตลาด ป้องกันบรรเทาปัญหาของเกษตรกร และการสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ผลผลิตทางการเกษตร ส่งเสริมให้เกษตรกรใช้ประโยชน์จากงานบริการด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี รวมถึงการรับรองมาตรฐานการผลิต เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้อย่างมั่งคงและยั่งยืน
“การร่วมมือกับ วว. ล่าสุด เราได้ออกผลิตภัณฑ์ ข้าวอุ่นอิ่ม อยู่ได้นาน 18 เดือน เพิ่มรายได้จากการขายข้าวเปลือกให้เกษตรกรกว่าตันละ 8,000 บาท และเรายังเดินหน้าแปรรูปสินค้าเกษตร เช่น น้ำสัปรดกระป๋อง เป็นต้น อีกทั้ง ธ.ก.ส.ยังดึงนักเรียนฝึกอาชีพ ตั้งแต่มัธยมศึกษาปีที่ 4 เพื่อปลูกฝังเกษตรกรรุ่นใหม่”