ศาลสูงอินเดียกลับลำ! แก้คำสั่งจับขังสุนัขจรจัด 1 ล้านตัวในเมืองหลวง
เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ที่ผ่านมา ศาลฎีกาอินเดียมีคำสั่งว่า ถนนในกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของประเทศ ไม่ใช่ที่ ๆ สุนัขจรจัดจะสามารถออกมาเดินเตร่ได้อีกต่อไป
ศาลสูงอินเดียได้พิจารณาเรื่องนี้ด้วยตนเอง หลังจากมีรายงานที่น่าตกใจเกี่ยวกับการโจมตีของสุนัข รวมถึงกรณีที่เด็ก ๆ ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต โดยศาลสั่งให้จับกุมสุนัขจรจัดทั้งหมดในเขตเมืองหลวง และกักขังไว้อย่างถาวรในศูนย์พักพิง ซึ่งทั้งหมดจะต้องแล้วเสร็จภายใน 8 สัปดาห์
ประกาศดังกล่าวสร้างความตื่นตระหนกในหมู่คนรักสัตว์และองค์กรสวัสดิการสัตว์ ซึ่งโต้แย้งว่า นิวเดลีไม่มีโครงสร้างพื้นฐานที่จะเพียงพอกับประชากรสุนัขจรจัด ซึ่งประเมินว่ามีประมาณ 1 ล้านตัว
แต่ในวันที่ 22 ส.ค. กระแสความโล่งใจได้แผ่กระจายไปทั่วกลุ่มคนรักสัตว์ หลังจากการพิจารณาโดยคณะผู้พิพากษาพิเศษ 3 คน ศาลได้มีคำสั่งระงับการพิจารณา โดยแก้ไขคำสั่งเดิม
ในคำตัดสินใหม่ ศาลได้ชี้แจงว่า สุนัขจรจัดที่เจ้าหน้าที่จับไปจะต้องได้รับการทำหมันและฉีดวัคซีน แล้วจึงปล่อยกลับคืนสู่พื้นที่เดิม เฉพาะสุนัขที่ตรวจพบว่าเป็นโรคพิษสุนัขบ้าหรือก้าวร้าวเกินไปเท่านั้นที่จะถูกกันไม่ให้ออกสู่ท้องถนนอีก
ศาลกล่าวว่า คำตัดสินนี้มีผลบังคับใช้ทั่วประเทศอินเดีย ขณะเดียวกันก็ห้ามการแจกจ่ายอาหารให้สุนัขในที่สาธารณะ และเรียกร้องให้มีการกำหนดพื้นที่สำหรับให้อาหาร
ดร.ซารุงบัม ไยภาบี เทวี สัตวแพทย์ กล่าวว่า “ผมคิดว่านี่เป็นคำตัดสินที่รอบคอบมาก … ดูเหมือนว่าศาลจะคำนึงถึงความรู้สึกของสาธารณชนอย่างแน่นอน เพราะผู้คนจำนวนมากทั่วอินเดียออกมาเรียกร้องสิทธิให้สุนัขในละแวกบ้าน”
การแทรกแซงครั้งแรกของศาลสูงสุดของอินเดียนั้นทั้งรวดเร็วและเด็ดขาด และยังเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันในประเทศที่มีวัฒนธรรมการเคารพสัตว์อย่างฝังรากลึก
การุณยฆาตสุนัขจรจัดที่มีสุขภาพดีถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายในอินเดีย และกฎหมายปี 2001 ระบุว่า สุนัขจรจัดควรได้รับการจับ ทำหมัน และฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าก่อนปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติ
แม้ว่าโดยหลักการแล้วจะมีมนุษยธรรม แต่แนวทางนี้กลับเป็นความท้าทายในการนำไปปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพในระดับประเทศ จำนวนสุนัขที่มากเกินกว่างบประมาณและโครงสร้างพื้นฐานด้านสัตวแพทย์ที่มีอยู่อย่างจำกัดในประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก หมายความว่าอัตราการทำหมันไม่สามารถตามทันวงจรการสืบพันธุ์ที่รวดเร็วของสุนัขได้
นั่นส่งผลให้ทั่วอินเดียมีสุนัขจรจัดประมาณ 62 ล้านตัว เดินเตร่ไปตามท้องถนน ชุมชน สลัม และหมู่บ้านต่าง ๆ ตามการประเมินของ Press Trust of India
สุนัขเหล่านี้จำนวนมากอยู่ร่วมกับมนุษย์อย่างสันติ แต่การถูกกัดและการถูกทำร้ายจนเสียชีวิตทำให้ผู้คนเกิดความระแวง รวมถึงความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
โรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งเป็นโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน และสามารถแพร่เชื้อสู่มนุษย์ได้หากถูกสัตว์ที่ติดเชื้อกัดหรือข่วน มักทำให้เสียชีวิตได้ เว้นแต่จะฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าได้หลายครั้งทันทีหลังจากถูกกัด
องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า สุนัขเป็นสาเหตุการเสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าในมนุษย์มากที่สุด และเป็นสาเหตุของการแพร่เชื้อโรคพิษสุนัขบ้าสู่มนุษย์ถึง 99% WHO ระบุว่า อินเดียเป็นประเทศที่มีโรคพิษสุนัขบ้าระบาดหนัก โดยคิดเป็น 36% ของผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าทั่วโลก
อาร์จุน เซน พ่อของเด็กชายวัย 12 ปีที่ถูกสุนัขจรจัดกัด รู้สึกว่าควรกำจัดสุนัขจรจัดออกจากท้องถนนโดยเร็วที่สุด “ครั้งนี้ลูกชายผมถูกกัด พรุ่งนี้อาจเป็นลูกของคนอื่น นี่เป็นปัญหาใหญ่”
ความหวาดกลัวเกี่ยวกับการโจมตีของสุนัขเพิ่มสูงขึ้นหลังจากเหตุการณ์เด็กชายวัย 4 ขวบถูกทำร้ายจนเสียชีวิตในปี 2023 ในเมืองไฮเดอราบาด ซึ่งเหตุการณ์นี้ถูกบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดที่สร้างความหวาดผวาไปทั่วประเทศและสร้างความตกตะลึงให้กับสื่อและวงการการเมือง ทำให้เกิดการแสวงหาแนวทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน
บางคนพยายามท้าทายกฎหมายที่มีอยู่เพื่อควบคุมจำนวนสุนัขให้ดีขึ้น ในปี 2016 การรณรงค์กำจัดสุนัขจรจัดในรัฐเกรละทางตอนใต้ของประเทศได้รับความสนใจหลังจากเกิดเหตุคนถูกสุนัขกัดหลายครั้ง แต่ก็ถูกต่อต้านอย่างรุนแรงจากนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสัตว์
แผนการที่ก่อให้เกิดข้อโต้แย้งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นจริง แสดงให้เห็นถึงทางตันระหว่างความกังวลด้านความปลอดภัยสาธารณะและการสนับสนุนสวัสดิภาพสัตว์ในอินเดีย
เรียบเรียงจาก CNN
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ศาลสูงอินเดียกลับลำ! แก้คำสั่งจับขังสุนัขจรจัด 1 ล้านตัวในเมืองหลวง
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.pptvhd36.com