ทวี สอดส่อง บุกสอบเอง คดีนักโทษหนีเรือนจำ แม่โผกอดลูกน้ำตาริน
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 24 ส.ค.68 ที่ สภ.เมืองนนทบุรี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี นายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนนทบุรี นายชุ้น ณัฐเดช กังสุกุล ปลัดจังหวัดนนทบุรี นายสหชัย แจ่มประสิทธิ์สกุล นายอำเภอเมืองนนทบุรี และ พ.ต.อ.ชยชัย นาธนกาญจน์ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ร่วมกันแถลงข่าวการเข้ามอบตัวของ นช.อนุชิต สุขสุด หรือ บอส อายุ 29 ปี ชาวพระนครศรีอยุธยา ผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ซึ่งก่อนหน้านี้หลบหนีระหว่างปฏิบัติงานกองนอกที่ร้านหับเผย ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี
โดย นช.อนุชิต เข้ามอบตัวที่วัดเขาบวช ต.ห้วยไผ่ อ.แสวงหา จ.อ่างทอง พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ เรมเบสต้า สีดำ ที่ขโมยมาจากเจ้าหน้าที่เรือนจำ โดยสภาพรถเต็มไปด้วยคราบโคลน ฝุ่น และถูกถอดป้ายทะเบียนทิ้ง
นช.อนุชิต เปิดเผยว่า การตัดสินใจหนีครั้งนี้เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ เพราะอยากกลับบ้านคิดถึงเมียและคิดถึงลูกสาววัยไม่ถึง 1 ขวบ และถูกนักโทษข้างในกลั่นแกล้ง รวมถึงซึ่งจะถึงวันเกิดลูกสาวในวันที่ 26 สิงหาคมนี้ แต่หลังหนีออกมาไม่ได้กลับบ้านที่อยุธยาเพราะกลัวตำรวจจะจับกุม และกลัวครอบครัวเดือดร้อน จึงตัดสินใจไปหาย่าที่ จ.อ่างทอง แต่ก็ไม่ได้พักอาศัยอยู่จริง เนื่องจากรู้ตัวว่าถูกติดตาม ตนยอมรับว่าได้ขโมยรถจักรยานยนต์จากเรือนจำออกมา โดยตั้งใจว่าจะนำมาคืนหลังเข้ามอบตัว พร้อมยอมรับผิดทุกอย่าง และขอโทษเจ้าหน้าที่ที่ต้องลำบากเพราะตนเอง ทั้งนี้ก่อนถูกคุมขัง ตนเคยทำงานเป็นพนักงานเก็บขยะในพื้นที่บางบัวทอง และสุดท้าย อยากขอโทษครอบครัวและเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่ทำให้เดือดร้อนกับเหตุการณ์ครั้งนี้
ขณะเดียวกัน นางหญิง (นามสมมุติ) มารดาของอนุชิต เดินทางมาที่ สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อเข้าเยี่ยมและกอดลูกชายทั้งน้ำตา โดยกล่าวทั้งน้ำเสียงสั่นเครือว่า รู้สึกเสียใจมากที่ลูกชายตัดสินใจผิดพลาด ทั้งที่เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนก็จะพ้นโทษกลับคืนสู่สังคมแล้ว ตนทำใจยอมรับตามกฎหมาย และจะอยู่ดูแลหลานสาวแทนลูกชายต่อไป พร้อมฝากคำพูดถึงลูกครั้งสุดท้ายว่า อยากให้บอสสู้เพื่อแม่ แม่รักบอส
ด้านพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า การกระทำของนช.อนุชิตเข้าข่ายคดีลักทรัพย์และหลบหนีการคุมขัง แม้เจ้าหน้าที่จะสามารถติดตามตัวกลับมาได้ภายใน 48 ชั่วโมง แต่กรณีนี้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของสังคมในโครงการนักโทษกองนอก ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาอาชีพก่อนคืนสู่สังคม
ดังนั้นต่อไปนักโทษที่เข้าร่วมโครงการลักษณะนี้จะต้องติดกำไลอิเล็กทรอนิกส์ (EM) ทุกคน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ ขณะเดียวกันนช.อนุชิตเองยอมรับผิดและเสียใจที่สร้างความเดือดร้อนแก่เจ้าหน้าที่ รวมถึงทำให้ครอบครัวต้องทุกข์ใจ
นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนนทบุรี กล่าวขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมติดตามตัวนักโทษในครั้งนี้ พร้อมยืนยันจะวางมาตรการเข้มงวดขึ้น โดยนักโทษที่ผ่านโครงการกองนอกในอนาคตจะต้องติดกำไล EM เพื่อป้องกันการหลบหนี ส่วนกรณีอนุชิตจะถูกดำเนินคดีเพิ่มทั้งข้อหาลักทรัพย์และหลบหนีการคุมขัง
ด้านนายเอก (นามสมมุติ) เจ้าหน้าที่เรือนจำเจ้าของรถจักรยานยนต์ ได้เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติม และรับรถคืน โดยกล่าวสั้น ๆ ว่า รู้สึกโล่งใจที่ได้ทรัพย์สินกลับคืน แม้สภาพรถจะถูกทิ้งป้ายทะเบียนไปแล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์เตรียมนำตัวนช.อนุชิต ส่งไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางเขาบิน จ.ราชบุรี พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม 1. ลักทรัพย์ 2. หลบหนีจากการควบคุมของเจ้าพนักงาน เพื่อดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวจังหวัดนนทบุรี รายงาน