รวบยกแก๊งขบวนการตุ๋น อ้างชื่อแบงค์ดัง หลอกเปิดบัตรเครดิต สั่งซื้อทองคำออนไลน์

รวบยกแก๊งขบวนการตุ๋น อ้างชื่อแบงค์ดัง หลอกเปิดบัตรเครดิต ขอเอารหัส OTP สั่งซื้อทองคำออนไลน์ พบมีเหยื่อทั่วประเทศ เสียหายไม่ต่ำกว่า 20 ล้าน

วันที่ 27 มิ.ย. 2568 พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป.พ.ต.ต.กิตติบดินทร์ กิมเชียะ, พ.ต.ต.นพพิณฑ์ แก้วอินไชย สว.กก.5 บก.ป. ร่วมแถลงจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ “ลวงเปิดบัตร เอารหัส OTP ซื้อทอง” สามารถจับกุมนายกรกรต (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี นายกฤตนัย (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี นายปพนธีร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี

ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลา ที่ จ.364-366/2568 ตามลำดับ ลงวันที่ 11 มิ.ย.2568 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ทุจริตหรือหลอกลวงโดยนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ และร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ”

พร้อมของกลาง รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น C200 Coupe AMG 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 23 เครื่อง คอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊ก 6 เครื่อง เครื่องนับธนบัตร 1 เครื่อง แผ่นทองคำแท่ง 2 แผ่น ซิมการ์ด สมุดบัญชีและอุปกรณ์อื่นๆ รวม 53 รายการ

โดยจับกุมนายกรกรต และ นายกฤตนัย ได้ที่คอนโดแห่งหนึ่งภายในซอยสุขุมวิท 24 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม. ส่วนนายปพนธีร์ จับกุมได้ที่บ้านพัก ในพื้นที่ ม.7 ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง จ.ลพบุรี

พ.ต.อ.ภัทราวุธ เปิดเผยว่า เมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. รับแจ้งจากธนาคารกรุงไทย ว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคาร ไปหลอกลูกค้าของธนาคารฯ ให้สมัครบัตรเครดิต และเดบิตผ่านช่องทางออนไลน์ อ้างว่ารายได้น้อยก็สมัครได้ ไม่มีค่าใช้จ่าย เมื่อเหยื่อหลงเชื่อทำตามขั้นตอน และสมัครบัตรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่ามีการนำยอดเงินในบัตรไปใช้รูดซื้อสินค้าผ่านร้านค้าออนไลน์ทันที โดยที่ลูกค้าไม่ได้เป็นผู้ทำรายการ

หลังรับข้อมูล ตนจึงเร่งจัดกำลังลงพื้นที่สืบสวนหาเบาะแส ก่อนพบคนร้ายทำกันเป็นขบวนการคอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงประชาชนทั่วประเทศ ส่วนแผนประทุษกรรมจะเริ่มจากหาซื้อเพจเฟซบุ๊กที่มียอดผู้ติดตามสูง ทางเพจเฟซบุ๊กสายเทา เช่น กลุ่ม STO-สายเทา, สายเทาการตลาด Marketing ฯลฯ แล้วปรับเปลี่ยน ปรับแต่ง ลงรูปของทางธนาคาร ใบโฆษณา ข้อความประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการเปิดบัตรเครดิต หรือเดบิต ให้ดูน่าเชื่อถือ ตั้งชื่อเพจใหม่เป็น “สินเชื่อเพื่อ OD”, “สินเชื่อเงินด่วน”, “สินเชื่อ Xpress Cash” หรือ อื่นๆอีกมากมายกว่า 10 เพจ

พ.ต.อ.ภัทราวุธ กล่าวอีกว่า จากนั้นคนร้ายก็จะยิงแอดฯทุกวัน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ปรากฏในสายตาลูกค้ากลุ่มเป้าหมายขยายการมองเห็น จนมีเหยื่อสนใจกดติดต่อเข้ามา ผู้ต้องหา จะสนทนาผ่านทางข้อความ โดยอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร แอบอ้างชื่อ-สกุลของเจ้าหน้าที่ตัวจริง พร้อมส่งภาพนามบัตรให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ ก่อนพูดจาโน้มน้าวให้สมัครบัตร สอบถามอาชีพ รายได้ และวงเงินที่ต้องการใช้ โดยอ้างว่าสามารถดันเคสให้ได้ ไม่มีค่าใช้จ่าย เพียงแค่ให้ประเมินให้คะแนนความพึงพอใจในระดับดีมาก พร้อมขอหมายเลขโทรศัพท์เพื่อติดต่อกลับ อ้างว่าจะให้ข้อมูลเพิ่มเติม และจะสอนขั้นตอนการสมัครเปิดบัตร

พ.ต.อ.ภัทราวุธ กล่าวอีกว่า ส่วนวิธีการสมัคร คนร้ายจะให้ผู้เสียหายใช้โทรศัพท์อีกเครื่องหนึ่งวิดีโอคอลทางไลน์กับผู้ต้องหา ซึ่งจะปิดกล้องฝั่งตนเอง แต่ให้ผู้เสียหายเปิดกล้องถ่ายไปที่หน้าจอโทรศัพท์ ที่กำลังเปิดแอปพลิเคชันของธนาคาร เพื่อกรอกข้อมูลการสมัคร โดยผู้ต้องหาจะแอบบันทึกวิดีโอและภาพหน้าจอไว้โดยตลอด และยังทำให้เห็นยอดเงินของผู้เสียหายด้วย หากมียอดเงินในบัญชีน้อย ก็จะให้ไปรวบรวมเงินจากบัญชีอื่น อ้างว่าจะอนุมัติง่ายขึ้น รายใดที่มีเงินอยู่ในบัญชีพอสมควร ผู้ต้องหาจะให้เปิดบัตรเดบิต และปรับวงเงินบัตรสูงสุดเป็นหลักแสนบาท

ในขณะสมัครบัตรฯ ผู้ต้องหายังแอบบันทึกภาพหน้าจอไว้ตลอด ก่อนนำเลข 16 หลักของบัตรเดบิต , รหัส CVV , วันหมดอายุบัตร ไปสั่งซื้อของมีค่าผ่านแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ต่างๆ ก่อนโทรไปหลอกถามรหัส OTP ที่ถูกแจ้งเตือนไปยังโทรศัพท์ของผู้เสียหาย แล้วนำมากรอกสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ให้เสร็จสิ้น ซึ่งยอดเงินในบัตรเดบิตของผู้เสียหายจะถูกตัดไปทันทีจากนั้นคนร้ายจะบล็อคการติดต่อทุกช่องทาง

สำหรับสิ่งของต่างๆที่ผู้ต้องหาใช้บัตรเครดิตของผู้เสียหายไปสั่งซื้อตามแพลตฟอร์มออนไลน์ ส่วนใหญ่จะเป็น ทองคำ สินค้าแบรนด์เนม มีการตัดยอดบัตรหรือ ชำระเงินเสร็จสิ้นแล้วนั้น ก็จะให้ร้านค้าส่งของไปยังคอนโดต่างๆ ที่มีนิติบุคคลส่วนกลางไม่เข้มงวด เรื่องรับพัสดุ เช่น มีจุดวางกองรวมพัสดุ จากนั้นจะใช้บริการพนักงานขนส่งเอกชนไปรับของ และจัดส่งไปตามจุดต่างๆ ที่กำหนดไว้ เมื่อได้ของมีค่า หรือทองคำมาแล้ว ก็จะนำไปขายเป็นเงินมาใช้จ่าย เที่ยวเตร่ ซื้อทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ

จากการตรวจสอบไฟล์ข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ของกลุ่มผู้ต้องหา ยังพบคลิปวิดีโอการบันทึกภาพหน้าจอขณะหลอกผู้เสียหายทั่วประเทศและภาพข้อมูลบัตรของผู้เสียหายต่างๆ รวมเกือบ 400 ราย โดยเหตุส่วนใหญ่เกิดขึ้นตั้งแต่กลางปี 2566 ถึง ปัจจุบัน คาดความเสียหายมูลค่ารวมกว่า 20 ล้านบาท

สอบสวน ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ ว่าก่อเหตุดังกล่าวจริง เนื่องจากต้องการหาเงินมาใช้ชีวิตสุขสบาย ฟุ่มเฟือย มีรถหรูใช้ แต่ด้วยความที่ไม่ได้ทำงาน หรือมีอาชีพเป็นหลักแหล่ง จึงเลือกใช้วิธีการหลอกลวงเงินจากผู้คนต่างๆมาเป็นอาขีพหลักแทน จึงนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. ดำเนินคดีต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.วิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการสอบสวนพบว่า นายกรกรต หัวหน้าแก๊งเรียนวิศวะคอมพิวเตอร์ แต่ไม่จบ อ้างว่าเคยถูกหลอกลวงลักษณะดังกล่าวมาก่อน จึงนำวิธีที่ตนเคยโดนหลอกมาหลอกลวงผู้อื่นอีกทอด โดยเงินที่ได้นำไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเช่น เช่าคอนโดหรู ย่านสุขุมวิท เดือนละ 30,000 บาท เที่ยวผู้หญิง ข้ามไปเล่นพนันฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน

นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ต้องหามีการใช้รถยนต์หรูโดยซื้อด้วยเงินสด และชุดสืบสวนยังขยายผลพบข้อมูลในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของผู้ต้องหา เป็นคลิปวิดีโอการบันทึกภาพหน้าจอขณะหลอกผู้เสียหายทั่วประเทศและภาพข้อมูลบัตรของผู้เสียหาย รวมเกือบ 400 ราย ในช่วงตั้งแต่กลางปี 2566 จนถึงปัจจุบัน

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : รวบยกแก๊งขบวนการตุ๋น อ้างชื่อแบงค์ดัง หลอกเปิดบัตรเครดิต สั่งซื้อทองคำออนไลน์

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th