‘รวมพลังแผ่นดิน’ นัดชุมนุมใหญ่ กลางเดือนสิงหาคม
"รวมพลังแผ่นดิน" นัดชุมนุมใหญ่อีกรอบกลางเดือนสิงหาคม พร้อมเดินสายต่างจังหวัด "จตุพร" ย้ำไม่เอารัฐประหาร อัด "เพื่อไทย" นักผลประโยชน์
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ แกนนำกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย อาทิ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ , นายจตุพร พรหมพันธุ์ , นายพิชิต ไชยมงคล , นายแก้วสรร อติโพธิ , นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ร่วมแถลงท่าทีการเคลื่อนไหว
นายปานเทพ กล่าวว่า การมีส่วนร่วมของประชาชนที่ถูกครหา และด้อยค่าก่อนหน้านี้ว่าการชุมนุมของเรามีนายทุนหนุนหลัง ขอแจ้งให้ทราบว่าตั้งแต่เราเปิดรับบริจาคจนถึงเมื่อวาน (30 มิ.ย.) มียอดรวมบริจาคทั้งหมด 30,771,060 บาท โดยมีผู้บริจาครวมทั้งสิ้น 56,200 คน ซึ่งเราคิดค่าใช้จ่ายตั้งแต่วันแถลงข่าว การเดินรณรงค์จนถึงวันเวทีใหญ่ถ่ายทอดสด การ์ดรักษาความปลอดภัย อาหาร การเช่าเต้นท์ ทั้งหมดเราใช้ค่าใช้จ่ายไปทั้งสิ้น 2,072,535 บาท ทำให้เหลือค่าใช้จ่ายสำหรับมอบให้ส่วนต่างๆของความมั่นคงประเทศ 28,698,525 บาท โดยจำนวนนี้อยู่ในวัตถุประสงค์ของผู้โอนว่าจะมอบให้กองทัพภาคที่ 1 ทั้งสิ้น 1,100,000 บาท แต่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งที่จะต้องหักเงินทั้งหมดให้กองทัพภาคที่ 2 ทั้งสิ้น 27,598,535 บาท ในจำนวนนี้ ซึ่งทางกองทัพภาคที่ 2 ประสงค์จะไม่รับเงินสด ตนจึงได้ประสานว่าต้องการสิ่งใดขอให้บอก
“ตนจึงแจ้งจะจัดซื้อจัดหาอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรนลาดตระเวนป่าไม้ในเวลากลางคืน และสาธารณูปโภคเพื่อความปลอดภัยของทหาร เช่น ห้องน้ำสำเร็จรูป ถังน้ำ ตู้คอนเทนเนอร์ แผ่นพื้นคอนกรีต รถตัดหน้าขุดหลังล้อยาง รถไถนา เครื่องปั่นไฟ โซลาเซลล์ เพื่อความมั่นคงของทหารให้ปลอดภัยที่สุด โดยรวมยอดเงินที่จะใช้ในส่วนดังกล่าวประมาณ 25 ล้านบาท และเหลือเงินอีกประมาณ 2 ล้านบาท และจะประสานเพิ่มเติมเพื่อใช้เงินให้หมดให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับกองทัพ โดยจะนำไปมอบให้ที่ปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์” นายปานเทพ กล่าว
ด้านนายจตุพร กล่าวว่า มติของคณะรวมพลังแผ่นดินฯประกาศชัดเจนว่าไม่เอาการรัฐประหาร และไม่เอา น.ส.แพทองธารเช่นเดียวกัน ตนขอบอกไปยังพรรคเพื่อไทยว่าถ้าคุณรังเกียจการรัฐประหารตามที่ประกาศ คุณไปรับเสียง สว.152 เสียง มาโหวตให้นายเศรษฐา ทวีสินมาเป็นนายกฯทำไม คุณไปเอาพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แล้วด่าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เรื่องบอยคอตการเลือกตั้ง แต่ก็ยังเอาไว้ในพรรคร่วมรัฐบาล
“เกลียดเผด็จการก็นอนกอดอยู่กับเผด็จการ เกลียดรัฐประหารก็เอาสิ่งที่คณะรัฐประหารเขาส่งมา เพราะฉะนั้นอย่ามาอวดอ้างว่าเป็นนักประชาธิปไตยคุณก็แค่นักผลประโยชน์ แต่ปากอ้างประชาธิปไตย ใจคุณหนักกว่าเผด็จการหลายเท่านัก” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวต่อว่า ส่วนพรรคประชาชนนั้นตนไม่แปลกใจเลยว่าทำไม่การปรับครม.จึงมีตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจถึง 2 คน และการที่ออกแถลงการณ์ให้ประชาชนออกจากการชุมนุม ตนอยากบอกว่าพวกเราแสดงตนรับผิดชอบไม่มีหน้าที่ยุให้คนอื่นไปชุมนุมแล้วตัวเองไม่รับผิดชอบ การจะรัฐประหารนั้นไม่มีใครสามารถกวักมือให้ทหารมา ไม่มีใครทำได้ แต่การรัฐประหารมันเกิดจากเหตุผลเดิมๆที่รัฐบาลทุจริตฉ้อฉล การแทรกแซงองค์กรอิสระ การสร้างความแตกแยก การหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หรือแม้กระทั้งเรื่องการขายชาติ ไม่มีใครเรียกร้องการรัฐประหารได้ และข้อเท็จจริงบนเวทีก็ไม่มีใครเรียกร้อง และถามว่าพรรคฝ่ายค้านจะทำอย่างไรในการหยุดยั้งรัฐประหาร คือ ต้องทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เพราะมี 3 กรณีที่เข้าข่ายหน้าสงสัย คือเมื่อคุณอภิปรายไม่ไว้วางใจในประเด็นหลบเลี่ยงภาษีตั๋ว P/N การรุกที่ดินเขาใหญ่ การโกงที่วัดสร้างสนามกลอ์ฟอัลไพน์ และบอกว่าจะโรยเกลือ
อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่าไม่มีเกลือ เหลือแต่สารส้มทุบ เพราะถ้าไปยื่นยังศาลรัฐธรรมนูญในเรื่องจริยธรรมของนายกฯ นางสาวแพทองธารจะไปก่อนที่จะมีโอกาสคุยโทรศัพท์กับสมเด็จ ฮุน เซน แต่คุณไม่ทำ นอกจากนี้ เมื่อพรรคภูมิใจไทยเสนอยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 150 ในประเด็นเรื่องความมั่นคงจากกรณีคลิปหลุด และพฤติกรรมต่างๆ แต่พรรคประชาชนยังไม่เห็นชอบด้วยจนบัดนี้ ถามจริงๆคุณเป็นฝ่ายไหนกันแน่ ตนบอกเรื่องนี้ให้คุณไปทบทวน อย่ามาใส่ความประชาชนว่าเขาเรียกร้องรัฐประหาร
“ถ้าคุณได้ทำหน้าที่ของพรรคฝ่ายค้าน ปิดประตูการทำรัฐประหารโดยสิ้นเชิง แต่เพราะพรรคประชาชนไม่ทำหน้าที่ ไม่โรยเกลือตามที่ประกาศ แต่ไปโรยสารส้มแทน” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวอีกว่า ขณะนี้เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย(คปท.) เขาอยู่ประจำเป็นแนวหน้าให้พวกเรา ฉะนั้นในระหว่างนี้ประชาชนสามารถไปร่วมได้ทุกวันที่สะพานชมัยมรุเชษฐ์ และต่อจากนี้เราอาจจะมีเวทีอีกในต่างจังหวัดขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ที่จะอาจเลือกจังหวัดที่มีความพร้อมที่สามารถรวบรวมประชาชน จะ 3,500 5,000 หรือ 10,000 คน เราก็จัดทัพใหญ่ไป ในระหว่างนี้ในกรุงเทพฯก็จะมีการปรึกษาและนัดหมายกันเป็นระยะ และคาดหมายกันว่าเวทีใหญ่กันแบบสุดๆกันอีกรอบเอาไว้ประมาณกลางเดือนสิงหาคม
เมื่อถามว่า การนัดชุมนุมใหญ่กลางเดือนสิงหาคมนั้น คือประเด็นอะไร จะขับไล่รัฐบาลหรือไม่ นายจตุพร ตอบว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ณ ขณะนั้น แต่เราพูดชัดเจนถึงข้อเรียกร้องเดิมที่ได้รับกาปฏิเสธที่ให้น.ส.แพทองธารลาออก แม้บัดนี้จะถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไปแล้วก็ตาม ในส่วนการปกป้องอธิปไตยเราได้ทำอย่างสมบูรณ์ในการให้กำลังใจแม่ทัพภาคที่ 2 แล้วค่อยนัดหมายกันใหม่ ถ้าเป็นในส่วนของรัฐบาลการยกระดับขับไล่นายกฯและรัฐบาล มันก็มีช่องทางอยู่เท่านี้ แต่ในระหว่างทางนี้มันก็มีสถานการณ์เป็นจุดที่กำหนดว่าในสถานการณ์นั้นเราจะขับเคลื่อนอย่างไร ทั้งหมดจะไม่ไกลเกินกว่าสถานการณ์ และยืนยันอีกครั้งว่าไม่เอารัฐประหารเด็ดขาด
เมื่อถามว่า ประเมินว่าการชุมนุมในกลางเดือนสิงหาคมนั้นจะได้รับการตอบรับจากมวลชนมากน้อยแค่ไหน นายจตุพร ตอบว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ความชอบธรรมของการชุมนุม เหตุผลในการชุมนุม จะเป็นตัวกำหนดในจำนวน และบัดนี้คนที่มีความรักชาติบ้านเมือง รักสิ่งที่ถูกต้องเขาแสดงพลังให้เห็น และก็เห็นว่าการชุมนุมนั้นเราปฏิบัติตามคำมั่นสัญญา ฉะนั้นนี้คือการยกระดับของการจัดการชุมนุมไปอีกระดับหนึ่ง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- 'อัลจาซีรา แฉคลิปเสียง 'ฮุน เซน' สั่งจับฝ่ายค้านเขมรในไทย 'ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย'
- 'นายกฯ อุ๊งอิ๊ง' บินพบ 'แม่ทัพภาคที่ 2'' เจอกันครั้งแรกหลังคลิปเสียงหลุด!!
- 'พล.อ.ณัฐพล' ลั่นคลิปเสียง 'นายกฯ-ฮุนเซน' ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นวางแผนการที่ซับซ้อน
ติดตามเราได้ที่