ถอดรหัส ‘หุ้นแบงก์’ รับอานิสงส์ภาษีสหรัฐฯ 19%
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 2 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 15 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น - บล.เอเซียพลัส ระบุว่า สหรัฐฯ ประกาศอัตราภาษีต่างตอบแทนกับไทยที่ 19% เท่ากับประเทศในภูมิภาค อย่าง อินโดนีเซีย มาเลเซีย และต่ำกว่าเวียดนามซึ่งยังถูกจัดเก็บที่ 20% ในขณะที่ภาษี Transshipment เป็นไปตามที่สหรัฐฯ กำหนดเหมือนประเทศอื่นในโลก
ในมุมฝ่ายวิจัย แม้ภาษีที่ 19% จะสูงขึ้นจากช่วงที่ถูกจัดเก็บระหว่างรอเจรจากับสหรัฐฯที่ 10% (แต่ดีกว่า 36%) อย่างไรก็ดีอัตราภาษีเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับคู่ค้าอื่นๆของสหรัฐฯ อีกทั้งภาษีที่ได้รับเท่ากับภูมิภาค และดีกว่าเวียดนาม เบื้องต้นประเมินว่าการแข่งขันของภาคการผลิตเพื่อส่งออกไทย ไม่เสียเปรียบคู่แข่งมาก ส่วนภาษีTransshipment ด้วยปกติแล้วการผลิตเพื่อนำไปส่งออกต่อ ไม่ได้ใช้ Supply chain ในไทยมากนัก คาดการณ์ผลกระทบต่อ GDP ไทยและ Supply chain ของไทยจำกัด
สำหรับผลต่อกลุ่มธนาคาร ระยะสั้นช่วยลด Credit risk ของกลุ่มสินเชื่อที่อยู่ในภาคการผลิตและพาณิชย์จากเดิมที่ไทยมีโอกาสเสียเปรียบเวียดนาม จึงมองว่าภาษีระดับนี้เป็นอัตราที่ผู้ประกอบการไทย สามารถทยอยปรับตัวได้ ประกอบกับภาครัฐเตรียมมาตรการภาษี สภาพคล่องผ่าน Soft loan เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจในช่วงเปลี่ยนผ่าน โดย ธ.พ. ใหญ่ที่มีสัดส่วนสินเชื่อในกลุ่มนี้สูง นำโดย KBANK (สัดส่วน41% ของพอร์ตฯ และส่วนใหญ่เป็น SME) ตามด้วย SCB (สัดส่วน 28% ของพอร์ต)และ BBL(สัดส่วน 27% ของพอร์ต)
ด้าน Non – Bank ยังต้องติดตามรายละเอียดที่ไทยให้กับสหรัฐฯ โดยเฉพาะสินค้าเกษตรเพราะกลุ่มลูกค้าบางส่วนเป็นเกษตรกร (MTC, SAWAD) แต่ปกติภาคเกษตรทางรัฐบาลมีมาตรการสนับสนุนมาตลอดอยู่แล้ว ประกอบกับทิศทางต้นทุนทางการเงินที่ลดลงช่วง 2H68 ตามการ Repricing ตราสารหนี้ เข้ามาช่วยประคองกำไรฯช่วง 2H68
ในขณะที่ผลด้านบวก ภาคการส่งออกที่ไม่เสียเปรียบคู่แข่ง เอื้อให้ผู้ประกอบการขนส่งยังเดินธุรกิจได้ต่อเนื่อง คาดดีทางอ้อมต่อคุณภาพสินทรัพย์ของสินเชื่อรถบรรทุก (TIDLOR, THANI) และต่อเนื่องถึงราคารถบรรทุกเชิง YoY (ปกติราคารถมือสอง 2H จะต่ำกว่า 1H ตามฤดูกาล)
SET BANK ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ขึ้น 5% น้อยกว่า SET ที่ขยับขึ้น 12% รับโอกาสในการลดดอกเบี้ยช่วง 2H68 บางส่วนแล้ว ในขณะที่ Credit risk ของกลุ่มภาคการผลิตฯผ่อนคลายขึ้นกว่าช่วงก่อน จึงอาจเห็น Sentiment บวกต่อกลุ่ม ธ.พ. ใหญ่ ตามรายชื่อที่กล่าวข้างต้นได้ ด้านหุ้นเด่นในกลุ่มฯ คงเดิม คือ SCB และ KTB จาก ROEสูงสุดในกลุ่ม ธ.พ. ใหญ่ และ Div yield 8% และ 7% ตามลำดับ