เปิดเส้นทางโอนเงิน 24 ล้าน! ‘บัญชีม้า’ บ.เมียรมต.คดีแจกกล้วย โยงเครือข่าย ‘ตู้ห่าว’
เมื่อวันที่ 3 ก.ค.68 สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อยู่ระหว่างไต่สวนคดีกล่าวหาสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร (สส.) และอดีตสส. หลายราย ที่เกี่ยวข้องกับการได้รับเงินค่าเลี้ยงดู อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากเกิดข่าวในช่วงอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล รวม 11 คน ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ช่วงปี 2565 ว่านักการเมืองบ้างกลุ่ม มีการแจกเงินให้ สส.พรรคเล็ก เดือนละ 1 แสนบาท เป็นค่าเลี้ยงดู เปรียบเทียบการจ่ายเงินดังกล่าวว่าเป็นการแจกกล้วยปัจจุบันมีกลุ่มบุคคลที่อยู่ระหว่างการไต่สวนคดี 4 กลุ่มหลัก คือ 1. กลุ่ม สส. และอดีต สส. จำนวน 5 ราย 2. กลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องทางการเมือง จำนวน 46 ราย 3. กลุ่มผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่น จำนวน 16 ราย 4. กลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐ จำนวน 40 ราย มีทั้งทหารตำรวจข้าราชการมีระดับนายพลด้วย
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้รับการยืนยันข้อมูลชั้นความลับในการไต่สวนคดีนี้ว่า เส้นทางการโอนเงินของ นาย ร. และนาย ม. ซึ่งมีสถานะเป็นพนักงานฝ่ายจัดซื้อของบริษัท รักษาความปลอดภัยแห่งหนึ่ง ที่มีภรรยารัฐมนตรีรายหนึ่งเป็นกรรมการ ซึ่งถูกสั่งให้เปิดบัญชีธนาคารกสิกรไทยคนละบัญชี ก่อนที่จะมีบุคคลนำบัญชีดังกล่าวไปใช้ในการโอนเงินต่อไปให้กับกลุ่มผู้เกี่ยวข้องทางการเมืองทั้งระดับท้องถิ่น จนถึงระดับชาติ รวมไปถึงข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ ระดับสูงในองค์กรหน่วยงานราชการต่างๆ ลักษณะคล้ายบัญชีม้า เป็นการตรวจสอบในส่วนเส้นทางการเงิน "ขาออก" จากบัญชีของ นาย ร. และนาย ม.
แต่ในส่วนเส้นทางเงิน "ขาเข้า" ที่เข้ามาในบัญชี นาย ร. และนาย ม. มีการตรวจสอบพบเงินจำนวนนับร้อยล้านบาท ถูกโอนเข้ามาจากกลุ่มเครือข่ายนักการเมือง และนักธุรกิจ จำนวนนับสิบราย
โดยในบรรดานักธุรกิจ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับกรณีนี้ มีหลายรายที่ถูกจับมองเป็นพิเศษ หนึ่งในนั้น คือ นาง พ. ซึ่งเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนธุรกิจ ของ นายหาวเจ๋อ ตู้ หรือ ‘ตู้ห่าว’ ต่อมาเปลี่ยนชื่อสกุลเป็น นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ กลุ่มทุนชาวจีน ที่เคยตกผู้ต้องหาคดีร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดและร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย เเละ พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.2509 ด้วย
จากการตรวจสอบเส้นทางเงินส่วนนี้ พบว่า นาง พ. ได้โอนเงินจากบัญชีธนาคารส่วนตัวจำนวน 4 บัญชี รวมวงเงินกว่า 24 ล้านบาท เข้าไปในบัญชี นาย ร. และนาย ม.
ขณะที่จากการตรวจสอบยืนยันข้อมูลของผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ถึงความมีอยู่จริงของบัญชีธนาคารของ นาง พ. โดยการทดลองโอนเงินเข้าไปในบัญชีของ นาง พ. บางบัญชี คือ บัญชีธนาคารกสิกรไทยเลขบัญชี 058-1-10XXXX พบว่าบัญชียังไม่ถูกปิด ยังสามารถโอนเงินเข้าไปในบัญชีได้
อย่างไรก็ดี แม้คดีนี้ ป.ป.ช.จะไม่ได้ตั้งไต่สวน นาง พ. เนื่องจากไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะข้อกล่าวหาหลักในคดีนี้เป็นกรณีการรับทรัพย์สินเกิน 3,000 บาท และการกระทำฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
แต่การที่ นาง พ. ซึ่งเป็นหุ้นส่วนธุรกิจกับ นายหาวเจ๋อ ตู้ หรือ ‘ตู้ห่าว’ โอนเงินเข้ามาในบัญชี นาย ร. และนาย ม. ด้วย นับเป็นเรื่องที่มีนัยสำคัญอย่างยิ่ง ว่า
1. นาง พ. รู้จักกับ นาย ร. และนาย ม. หรือไม่?
2. ทำไม นาง พ. ต้องโอนเงินไปให้ นาย ร. และนาย ม.
3. เงินจำนวนหลายสิบล้านบาท เป็นเงินค่าอะไร? นำมาจากไหน? และถูกนำไปใช้ในเรื่องอะไร?
ที่สำคัญมากไปกว่านี้ มีนักธุรกิจในคดีแชร์ชื่อดัง โอนเงินเข้ามาในบัญชีของ นาย ร. และนาย ม.ด้วย
ขอบคุณ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org)