ตลาดหุ้นสหรัฐบวกต่อเนื่อง ข้อมูลผู้บริโภคแข็งแกร่งกระตุ้นตลาด
ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq Composite ได้ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง โดยได้รับแรงสนับสนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจเชิงบวกและรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของการใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวอเมริกัน
นักวิเคราะห์ระบุว่า ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดและรายงานผลกำไรของบริษัทชั้นนำบ่งชี้ว่า พื้นฐานทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังคงมีความแข็งแกร่ง โดยยอดค้าปลีกในเดือนมิถุนายนปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน สะท้อนถึงแรงซื้อของผู้บริโภคที่ยังคงมีอยู่ แม้ข้อมูลเงินเฟ้อจะผสมผสานกัน โดยดัชนีราคาผู้ผลิตคงที่ ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพุ่งสูงขึ้นในเดือนเดียวกัน
ในขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงจับตาผลกระทบจากนโยบายภาษีนำเข้าของทรัมป์ที่อาจเริ่มส่งผลต่อเศรษฐกิจ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ส่งสัญญาณว่า จะยังไม่ดำเนินการลดอัตราดอกเบี้ย จนกว่าจะเห็นผลกระทบที่ชัดเจนของภาษีนำเข้าต่ออัตราเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ผู้ว่าการ Fed นางอาเดรียนา คูเกลอร์ กล่าวย้ำเมื่อวันพฤหัสบดีว่า การลดดอกเบี้ยจะถูกระงับไว้ก่อน เนื่องจากราคาสินค้าเริ่มได้รับแรงกดดันจากนโยบายภาษีดังกล่าว
จากข้อมูลของ CME FedWatch Tool นักลงทุนประเมินโอกาสที่ Fed จะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายนไว้ที่ประมาณ 54% ขณะที่โอกาสในการประชุมเดือนกรกฎาคมแทบจะหมดไป
นอกจากนี้ บรรยากาศในตลาดยังได้รับแรงหนุนจากมุมมองเชิงบวกของบริษัทในกลุ่มผู้บริโภคหลายรายที่ประกาศผลประกอบการ
สรุปการเคลื่อนไหวของตลาด:
• Nasdaq Composite ปิดที่ 20,884.27 จุด เพิ่มขึ้น 153.78 จุด หรือ 0.74%
• S&P 500 ปิดที่ 6,297.36 จุด เพิ่มขึ้น 33.66 จุด หรือ 0.54%
• Dow Jones Industrial Average ปิดที่ 44,484.49 จุด เพิ่มขึ้น 229.71 จุด หรือ 0.52%
นับเป็นการปิดตลาดในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งที่หกจากเจ็ดวันล่าสุดสำหรับดัชนี Nasdaq และเป็นการปิดในระดับสูงที่สุดครั้งที่หกของ S&P 500 นับตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา
ตลาดพลังงานและทองคำ:
ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 1 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันพฤหัสบดี หลังเกิดเหตุการณ์โจมตีด้วยโดรนในแหล่งน้ำมันของเขตเคอร์ดิสถาน ประเทศอิรัก ต่อเนื่องเป็นวันที่สี่ โดยเจ้าหน้าที่ตั้งข้อสงสัยว่า กลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านอาจอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าว แม้จะยังไม่มีผู้ใดออกมาแสดงความรับผิดชอบ
• น้ำมันดิบเบรนท์ (Brent Crude) ปิดที่ 69.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.00 ดอลลาร์ หรือ 1.46%
• น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI Crude) ปิดที่ 67.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.16 ดอลลาร์ หรือ 1.75%
ขณะที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากแรงกดดันของค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง โดยนักลงทุนยังคงจับตาท่าทีด้านนโยบายภาษีอย่างใกล้ชิด
• ราคาทองสปอต ลดลง 0.3% อยู่ที่ 3,337.43 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากลงไปแตะระดับต่ำสุดของวันในช่วง 3,309.59 ดอลลาร์
• สัญญาทองคำล่วงหน้า ลดลง 0.4% ปิดที่ 3,345.3 ดอลลาร์ต่อออนซ์