กองทัพไทย เปิดข้อมูล กัมพูชา มีระเบิด PMN-2 กว่า 3,700 ลูก
กองทัพไทย เปิดข้อมูล กัมพูชา มีระเบิด PMN-2 กว่า 3,700 ลูก การนำมาใช้ในอธิปไตยไทย ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา เอาผิดได้ตามกฎหมายระหว่างประเทศ
พลตรี วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนในสื่อออนไลน์ของฝ่ายกัมพูชาเกี่ยวกับทุ่นระเบิดที่ตรวจพบในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อสังคม ดังนี้
จากเหตุการณ์ที่กำลังพลไทย 5 นาย ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดน ผลการตรวจพิสูจน์โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 “ใหม่ทั้งหมด” ที่ถูกวางแบบพร้อมใช้งาน โดยมีการถอดอุปกรณ์ Safety และกลบพรางอย่างแนบเนียน
สภาพทุ่นมีความใหม่ ตัวอักษรคมชัด และเมื่อรื้อถอนพบว่าสปริง เข็มแทงชนวน และชิ้นส่วนภายในอยู่ในสภาพใหม่สมบูรณ์ ไม่ใช่ทุ่นเก่าตามที่ฝ่ายกัมพูชากล่าวอ้าง
นอกจากนี้ บริเวณภูมะเขือ ยังตรวจพบทุ่นระเบิดอยู่ใน 2 ลักษณะ โดยลักษณะแรก คือทุ่น PMN-2 ที่ยังไม่ได้ใช้งาน หางปลา (safety pin) ยังคงติดอยู่ครบถ้วน สะท้อนให้เห็นว่ากัมพูชามีทุ่นชนิดนี้ไว้ครอบครองเพื่อเตรียมใช้งาน ซึ่งถือว่าละเมิดอนุสัญญาออตตาวาโดยตรง
และมีหลักฐานเชื่อมโยงว่าทุ่นเหล่านี้ถูกนำไปใช้งานจริงในหลายพื้นที่ รวมถึงกรณีที่ทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ
ส่วนอีกลักษณะหนึ่ง เป็นทุ่นที่รื้อถอนขึ้นจากพื้นดินในสภาพที่ถูกวางใช้งานแล้ว อยู่ในสภาพพร้อมทำงาน บางลูกมีร่องรอยของเข็มแทงชนวน ที่เริ่มทำงาน แต่ยังไม่สมบูรณ์ การรื้อถอนดำเนินการโดยทหารราบ เพื่อรวบรวมไว้
และต่อมาส่งให้เจ้าหน้าที่ TMAC มาดำเนินการนิรภัยและทำลายตามมาตรฐานสากล โดยทุกครั้งที่ทำการนิรภัย เจ้าหน้าที่จะต้องถอดตัวจุดระเบิด Detonator (DES) และ Booster ออกเพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันอันตราย
ในส่วนของความโปร่งใส ประเทศไทยได้ดำเนินการตามอนุสัญญาออตตาวาอย่างเคร่งครัด โดยพื้นที่ช่องบกและช่องอานม้าที่เกิดเหตุ เป็นพื้นที่ที่ TMAC เคยกวาดล้างทุ่นระเบิดแล้ว 100% และมีการรายงานต่อที่ประชุมอนุสัญญาทุกปี โดยไม่เคยพบทุ่น PMN-2 แต่อย่างใด
ขณะเดียวกันประเทศไทย ไม่เคยมีทุ่นชนิดนี้อยู่ในครอบครอง และได้ทำลายทุ่นระเบิดคงคลังทั้งหมดตั้งแต่ปี 2546 รวมถึงครั้งสุดท้ายในปี 2562 โดยไม่มี PMN-2 อยู่ในบัญชีแม้แต่ลูกเดียว
ในทางกลับกัน เอกสารรายงานต่ออนุสัญญาออตตาวา ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2024 ระบุชัดเจนว่ากัมพูชายังคงครอบครองทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 และชนิดอื่น ๆ รวมกว่า 3,700 ลูก โดยอ้างว่าเก็บไว้เพื่อการฝึกตามมาตรา 3 ของอนุสัญญาฯ
แต่การลักลอบนำทุ่น PMN-2 มาวางในเขตอธิปไตยของประเทศไทย ถือเป็นการละเมิดอนุสัญญา อย่างร้ายแรงและสามารถเอาผิดได้ตามกฎหมายระหว่างประเทศ
กองทัพไทย โดยศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ขอเน้นย้ำว่าข้อเท็จจริงทั้งหมดที่ตรวจสอบได้จากหลักฐานทางเทคนิคและการพิสูจน์โดยตรง ยืนยันชัดเจนว่าทุ่นระเบิดที่ทำให้กำลังพลไทยได้รับบาดเจ็บ เป็นทุ่นระเบิดใหม่ชนิด PMN-2 ที่ฝ่ายกัมพูชาลักลอบนำมาวางในพื้นที่ชายแดนไทย ไม่ใช่ทุ่นเก่าตามที่มีการกล่าวอ้าง
เหตุการณ์นี้จึงสะท้อนให้เห็นถึงการละเมิดอนุสัญญาออตตาวาและเป็นการกระทบต่ออธิปไตยของประเทศไทยอย่างไม่อาจปฏิเสธได้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ทบ. ตอก ‘เฮง รัตนา’ ระเบิด PMN-2 ไม่ถอดสลัก ยึดได้จากฐานทหารกัมพูชาที่ภูมะเขือ
- ทหารเตรียมนำ IOT ลงพื้นที่พิสูจน์ กัมพูชาละเมิดข้อตกลง GBC-กม.ระหว่างประเทศ
- โฆษก ทบ. ฟาด กัมพูชา ตั้งเงื่อนไขร่วมกำจัดทุ่นระเบิดเมื่อหยุดยิง แต่ยังใช้ทุ่นระเบิดอยู่
ติดตามเราได้ที่