วิโรจน์ บี้ถามสอบ ตั๋ว P/N นายกฯ เสร็จวันไหน ขู่ถ้าดึงไม่เลิก ร้องแน่ 157 ด้าน จุลพันธ์ ลุกแจง
‘วิโรจน์’ จี้ถามตั๋วพี/เอ็น ‘แพทองธาร จะเสร็จวันไหน เหน็บอธิบดีสรรพกร ตั้ง ‘พ่อนายกฯ’ เป็นเสมียน คกก.ความเหมาะสมตั๋วพีเอ็นทั้งระบบ เหตุใช้เก่งใช้คล่องกว่าใครทั้งประเทศ ถาม ถ้าประชาชนจะร้องป.ป.ช.ต้องรับใคร-ใครต้องรับผิดชอบ ด้าน ‘จุลพันธ์’ รับ ตอบไม่ได้เสร็จเมื่อไหร่ แต่ดำเนินการอยู่ ต้องเน้นความเป็นธรรม ทุกฝ่าย ขนาดโอนเงินหนุนม็อบฝ่ายท่าน ยังตรวจสอบอยู่ ขออย่าเสียดสี ‘ทักษิณ’
เมื่อเวลา 10.45 น.วันที่ 28 สิงหาคม 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม วาระกระทู้ถามสดด้วยวาจา ของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) เรื่องตั๋วพี/เอ็นของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ถาม นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยนายพิชัย มอบหมายให้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง มาตอบกระทู้แทน
นายวิโรจน์ กล่าวว่า จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจของตนที่ผ่านมาเรื่องการใช้ตั๋วพี/เอ็นของนายกฯ ในการซื้อหุ้นจากแม่ พี่ชาย พี่สาว ลุง และป้าสะใภ้ เป็นจำนวนเงินประมาณ 4.4 พันล้านบาทนั้ และตนขอยกตัวอย่างกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ที่โอนหุ้นแสนสิริให้ลูกสาว ลูกสาวของนายเศรษฐาก็สำแดงอย่างตรงไปตรงมา รวมถึงมีการจ่ายภาษีรับ ไม่เห็นว่าลูกสาวของนายเศรษฐาจะใช้ตั๋วพี/เอ็นในการซื้อหุ้นจากนายเศรษฐาแต่อย่างใดเลย ต้องชื่นชมว่านายเศรษฐาสอนลูกมาดี และตนเคยไปยื่นเรื่องกับกรมสรรพากรให้วินิจฉัยเรื่องการใช้ตั๋วพี/เอ็นซื้อหุ้นของน.ส.แพทองธารเป็นการหลีกเลี่ยงภาษีหรือไม่ แต่ผ่านมา 5 เดือนแล้วกลับยังไม่มีความคืบหน้า เงินของสีกากอล์ฟเขาสืบกันจนสิ้นไส้แล้ว แต่ตั๋วพี/เอ็นของนายกฯ ยังไปไม่ถึงไหน
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า ฉะนั้น จึงขอถามว่าการตรวจสอบการใช้ตั๋วพี/เอ็นของน.ส.แพทองธารนั้น มีกำหนดการว่าจะแล้วเสร็จเมื่อไหร่ วันที่เท่าไหร่ ประชาชนจึงจะรู้ว่าแพทองธารโมเดล นั้นถูกกฎหมายหรือไม่ และทำไมนายพิชัย จึงไม่ใช้อำนาจในการแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง 3 คนในการเข้าไปวินิจฉัยในคณะกรรมการฯ และเมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 2 ชุด โดยชุดหนึ่งคือการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อพิจารณาความเหมาะสมของตั๋วพี/เอ็นทั้งระบบ
“เรื่องนี้ผมขอแนะนำคุณปิ่นสาย หรือรัฐมนตรีช่วยจะไปบอกก็ได้ว่า เรื่องนี้ อธิบดีควรจะเชิญบิดาของนายกฯ มาเป็นเสมียนประจำคณะกรรมการ เพราะบิดาของนายกฯ ใช้ตั๋วพี/เอ็นบ่อยที่สุด ใช้เก่งที่สุด ใช้คล่องที่สุด เก่งกว่าใครในแผ่นดินนี้ ผ่านมา 5 เดือนแล้วไม่มีความชัดเจนที่เป็นรูปธรรม มีแต่การตั้งคณะกรรมการไปมา มีแต่งานธุรการ ดึงเวลาไปเรื่อย ไม่มีกำหนดเสร็จเลย ผมจึงอยากสอบถามว่าที่ผ่านมาความล่าช้าเกิดจากอะไร ใครเป็นผู้รับผิดชอบกับความล่าช้า และคุณจุลพันธ์ได้รับมอบหมายให้ดูกรมสรรพากรมาตั้งแต่แรกแล้ว ฉ
ฉะนั้น ความล่าช้าที่เกิดขึ้นช้าที่คุณพิชัย หรือคุณจุลพันธ์ หากประชาชนจะไปร้องป.ป.ช.เรื่องการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ควรจะต้องร้องใคร ร้องคุณพิชัยหรือร้องจุลพันธ์ หรือร้องทั้งคู่ เพราะคุณปิ่นสายโดนแน่ๆ อยู่แล้ว” นายวิโรจน์ กล่าว
ด้าน นายจุลพันธ์ กล่าวว่า กรมสรรพากรไม่ได้นิ่งนอนใจตั้งแต่ที่มีหนังสือมาและได้มีการดำเนินการว่ามีมูลตามที่นายวิโรจน์สงสัยหรือไม่ ซึ่งก็ได้ข้อเท็จจริงมาพอสมควรเพื่อทำการตรวจสอบ โดยได้มีการหาข้อมูลจากภายนอกด้วย ถือว่ากรมสรรพากรได้ข้อมูลมาค่อนข้างครบถ้วน และมีการเชิญ 7 บริษัทที่เกี่ยวข้องกับการโอนหุ้นมาสอบข้อเท็จจริง จะไปเร่งรัดไม่ได้ แต่เราทำตามกรอบที่ระยะเวลาของกฎหมายกำหนด แม้กระทั่งคดีของนายเศรษฐาเราก็ดำเนินการไปตามกฎหมาย ขณะนี้ผ่านไป 2 ปีแล้วเราก็ยังดำเนินการอยู่ หรืออีกกรณีคือการโอนเงินสนับสนุนม็อบ ซึ่งเป็นกลุ่มของพวกท่านเอง เราก็ดำเนินการถูกต้องและครบถ้วน ไม่ได้เร่งรัดและนิ่งนอนใจ สิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยหลังจากที่มีการเชิญทั้ง 7 บริษัทเข้ามาให้ข้อมูลแล้ว หลังจากนี้จะมีการเชิญญาติพี่น้องเข้ามาสอบถามข้อเท็จจริง กระบวนการทั้งหมดยังต้องดำเนินการต่อไป จะตอบว่าเสร็จเมื่อไหร่คงตอบไม่ได้
นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ หลังจากที่สอบข้อเท็จจริงกับทั้ง 7 บริษัทและญาติพี่น้องเสร็จแล้ว กระบวนการหลังจากนี้กรมสรรพากรก็จะต้องมีมาดูว่ากรณีที่มีการร้องเรียนเข้ามานั้นมีมูลหรือไม่ หากไม่มีมูลก็ตกไป แต่ถ้ามีมูลก็จะส่งไปที่คณะกรรมการวินิจฉัย และที่นายพิชัยยังไม่ตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิให้ครบถ้วนนั้น หากมีกรณีที่มีมูลแล้วต้องนำเข้าสู่คณะกรรมการวินิจฉัยนั้น นายพิชัยก็สามารถที่จะเร่งรัดตั้งคณะกรรมการได้ แต่ขณะนี้ที่ยังไม่มีเรื่องเข้า จึงยังไม่มีเหตุจำเป็นใดๆ ที่จะต้องมีองค์ประกอบให้ครบถ้วน ย้ำว่านานๆ ทีจะมีเรื่องเข้ามา
นายจุลพันธ์ กล่าวด้วยว่า จริงๆ ไม่อยากให้เสียดสีโดยเฉพาะเรื่องของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ประเด็นการเสียดสีนั้นตนขอข้าม แต่ย้ำว่าเราไม่ได้นิ่งนอนใจ ถามว่าใครรับผิดชอบ ตนมาตอบตรงนี้ไม่ปัดความรับผิดชอบ บอกได้เลยว่าเป็นจุลพันธ์ เราต้องดำเนินการไม่มีการดึงเวลา เราดำเนินการครบถ้วนทุกอย่าง อีกทั้ง นายวิโรจน์ก็ยื่นเรื่องดังกล่าวมาที่กรมสรรพากรไม่ใช่ยื่นไปที่ป.ป.ช. หากนายวิโรจน์มั่นใจว่ากระบวนการนี้ผิด เป็นกระบวนการที่ไม่ถูกไม่ชอบด้วยกฎหมาย วันนี้หนังสือฉบับนี้ไปที่ป.ป.ช.แน่นอน แต่เพราะท่านต้องการให้เกิดความกระจ่างจึงมาที่กรมสรรพากร
อย่างไรก็ตาม ทุกคนติดตามความคืบหน้าอยู่ตลอดว่าเรื่องไปถึงไหนแล้ว แต่หากจะให้สรุปว่าจะเสร็จภายในกี่เดือนกี่ปีนั้น ขอเรียนว่ากระบวนการเหล่านี้ เราเน้นเรื่องของหลักความเป็นธรรมเป็นสูงสุด ฉะนั้น จึงไม่กล้าตอบว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ แต่เราดำเนินการต่อเนื่องไม่ได้หยุด และจะมีข้อสรุปออกมาได้เป็นที่ยอมรับของสังคม หน่วยงานของรัฐโดยเฉพาะกระทรวงการคลัง เราเน้นเรื่องข้อกฎหมาย ไม่มีใครกล้าไปบิดเบือน
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า จากที่ตนฟังคำตอบของนายจุลพันธ์มานั้น คำตอบมากมาย ความหมายคือไม่รู้ ไม่รู้จริงๆ ว่าท่านได้เร่งรัดหรือไม่ หรืออาจจะยังนะ และก็ไม่รู้ว่าต้องรอให้ดาวเนปจูนโคจรรอบดวงอาทิตย์กี่รอบ ประชาชนจึงจะได้ทราบว่าแพทองธารโมเดลถูกกฎหมายหรือไม่ แต่ระหว่างที่รอดาวเนปจูนโคจรรอบดวงอาทิตย์ ระหว่างที่เกิดสุญญากาศเช่นนี้นั้น กรมสรรพากรจะให้ความเป็นธรรมกับประชาชนคนอื่นๆ ที่มีการโอนหุ้น โอนทรัพย์สิน โอนอสังหาริมทรัยพ์ให้ลูกของเขาอย่างไร มีแนวคิดหรือไม่ มีมาตรการชั่วคราวที่จะอนุญาตให้ประชาชนคนอื่นใช้ตั๋วพี/เอ็นได้ ไม่ใช่อนุญาตแค่น.ส.แพทองธาร ทำได้เพียงคนเดียวในแผ่นดินนี้ อะไรจะเป็นอภิสิทธิ์ แต่น.ส.แพทองธารคนเดียว
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ไม่มีกรณีพิเศษ ไม่ใช่กรณีที่เกิดกับ น.ส.แพทองธารเพียงเท่านั้น แต่เป็นกรณีที่ถูกยกมาพูดในสภาฯ ทั้งนี้ เมื่อรับเรื่องได้ตั้งกรรมการตรวจสอบ 2 ชุด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและศึกษาถึงการใช้ตั๋วพี/เอ็นที่เป็นช่องโหว่ และควรแก้ไขหรือไม่ ซึ่งในการศึกษาการใช้ตั๋วพี/เอ็นนั้น จะมีข้อสรุปและคำตอบภายในปีนี้ หากมีความจำเป็นเพื่อปิดช่องโหว่ต้องให้ สภาฯ แก้ไข ในสภาฯ
“กรณีตรวจสอบกรณีของน.ส.แพทองธารดำเนินการ แม้มองว่าจะช้า แต่กรมสรรรพากรไม่ได้เร่ง แต่ไม่ช้า เป็นไปตามกระบวนการ หากจะเร่งเพื่อความไม่เป็นธรม เพื่อถูกใจท่าน หรือทำให้ช้า เพื่อถูกใจผู้ถูกร้องก็ทำไม่ได้เช่นกัน” นายจุลพันธ์ กล่าว
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : วิโรจน์ บี้ถามสอบ ตั๋ว P/N นายกฯ เสร็จวันไหน ขู่ถ้าดึงไม่เลิก ร้องแน่ 157 ด้าน จุลพันธ์ ลุกแจง
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th