‘ทนายเกิดผล’ แฉ ‘เลขาหมอบี’ เคยฟ้อง ‘ทิดจอร์จ’ ปมปัญหาชู้สาว-หึงหวง
เมื่อวันที่ 28 ส.ค. ทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความ ในฐานะอดีตกรรมการมูลนิธิธรรมรักษ์และอดีตทนายความวัดพระบาทน้ำพุ เปิดเผยถึงกรณีที่มีการยื่นงบประมาณของมูลนิธิธรรมรักษ์ ปี 2567 ที่มีเงินส่วนต่างหายไป 3 ล้านบาท ว่า ตนเองเคยเป็นกรรมการช่วงปี 2564 แต่เรื่องงบประมาณของปี 2567 ตนเองไม่ทราบ เพราะไม่ได้มีหน้าที่เรื่องการทำบัญชีและไม่ได้เข้าประชุมงบประมาณ แต่มีช่วงที่ตนเองร่วมประชุมงบประมาณปี 2565 สมัยที่ไวยาวัจกรคนเก่าเป็นประธานมูลนิธิธรรมรักษ์ด้วย ตอนนั้นมูลนิธิธรรมรักษ์ไม่มีรายได้ หรือรายได้น้อย เนื่องจากเป็นช่วงโควิด-19 อดีตพระอลงกต จึงได้บริจาคโอนเข้าบัญชีของมูลนิธิธรรมรักษ์ประมาณ 30 ล้านบาท ซึ่งตนเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเงินส่วนตัวของ อดีตพระอลงกต หรือเงินวัด แต่ก็เข้าใจว่าเป็นเงินวัด
อย่างไรก็ตาม มูลนิธิธรรมรักษ์เป็นนิติบุคคลแยกต่างหากจากวัดอยู่แล้วก็จริง แต่ก็เหมือนอาศัยความน่าเชื่อถือของ อดีตพระอลงกต ดังนั้นถ้าคนหมดศรัทธากับอดีตพระอลงกตแล้ว มูลนิธิธรรมรักษ์ย่อมได้รับผลกระทบอย่างมาก ทำให้มูลนิธิไม่มีรายได้ และโครงการของมูลนิธิฯ ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของอดีตพระอลงกตด้วย ดังนั้นถ้ามูลนิธิธรรมรักษ์ไปต่อไม่ได้จริงๆ ก็จะต้องดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งมูลนิธิ คือต้องโอนทรัพย์สินให้กับวัดพระบาทน้ำพุ
นอกจากนี้ทนายเกิดผลยังบอกด้วยว่า เรื่องคนใกล้ชิดของหมอบีที่แฉพฤติกรรมผิดปกติของหมอบี กับ อดีตพระอลงกต นั้น หลังจากที่เริ่มมีข่าวคนใกล้ชิด ซึ่งเป็นเลขาของหมอบี คนนี้ก็ได้ติดต่อมาที่ตนเองและส่งข้อมูลให้ดูเพราะตนเองเป็นทนายของวัดในขณะนั้น โดยตนเองไม่ทราบว่าพวกเขามีความสนิทสนมกันขนาดไหน แต่จากการได้มีโอกาสพูดคุยกับอดีตพระอลงกต และลูกศิษย์ที่อยู่ใกล้ชิดก็มีความเชื่อว่าคนที่มาเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดเกิดจากความหึงหวงกัน โดยตอนแรกเขาก็ไม่ยอมบอกว่าหมอบีทำอะไรผิด บอกกับหลวงพ่อเพียงว่า หมอบี เปลี่ยนไป แล้วก็พยายามฟ้องว่า หมอบี เกี่ยวข้องกับเรื่องชู้สาว ซึ่งตอนนั้นหลวงพ่อก็เชื่อว่าน่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว จนกระทั่งหลังๆ เขาก็เอาหลักฐานมาให้ดู โดยไม่ได้บอกว่า หมอบี ทุจริตตั้งแต่ตอนแรกๆ
ส่วนกรณีที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. บอกว่ากำลังขยายผลบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงินของวัดพระบาทน้ำพุประมาณ 30 คนนั้น ทนายเกิดผลยืนยันว่า ตนเองยังไม่ทราบเรื่องรายชื่อ แต่หากตนเองมีรายชื่อ หรือตำรวจต้องการสอบถามข้อมูลต่างๆ กับตนเอง ตนเองก็ยินดีให้ความร่วมมือ
อย่างไรก็ตามคนที่ถือครองทรัพย์สินและเชื่อมโยงกับเส้นทางการเงินของอดีตพระอลงกตก็เป็นคนใกล้ชิดเสียส่วนใหญ่ แล้วส่วนใหญ่ก็เป็นกรรมการมูลนิธิฯ ต่างๆ วนเวียนอยู่ในกลุ่มนี้ แต่จะเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มดารา นักร้อง อินฟลูเอนเซอร์หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบว่าเชื่อมโยงทางเส้นทางการเงินด้วยหรือไม่ แต่เคยได้ยินและเห็นว่ามีนักร้องเข้ามาพบอดีตพระอลงกตบ่อยๆ ก็มีทั้งนักร้องเดี่ยวและเป็นวง ในจำนวนนี้ตนเองก็เห็นว่ามีวงสีชมพูมาร้องด้วย แต่ก็มีวงอื่นๆ มาด้วย แต่ไม่รู้ว่ามาร้องเพลงทุกวันอาทิตย์ มาเป็นจิตอาสาหรือว่ามีปรึกษาเรื่องเงิน และที่ตนเองเห็นมาประจำเป็นวงดนตรียุค 80-90 ส่วนดาราตลก ตนเองก็เห็นมาพบอดีตพระอลงกตเช่นกัน แต่ทราบว่าเป็นลูกศิษย์ จะเกี่ยวข้องกับเรื่องทรัพย์สินหรือไม่ ตนเองไม่ทราบ