เตรียมตัว! ประกันสังคม ปี 69 ปรับเพดาน เก็บเงินสมทบเพิ่ม ต้องจ่ายอีกเท่าไหร่
สำนักงานประกันสังคม ปรับโครงสร้างเงินสมทบใหม่แบบขั้นบันได 3 ระยะ เริ่มปี 2569 โดยเฟสแรกจะปรับเพดานค่าจ้างเป็น 17,500 บาท และจ่ายเงินสมทบสูงสุด 875 บาท/เดือน
สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เตรียมปรับโครงสร้างการเก็บเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมสำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 หรือกลุ่มมนุษย์เงินเดือน โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2569 เป็นต้นไป ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ที่มีรายได้สูงต้องจ่ายเงินสมทบเพิ่มขึ้น แต่ก็จะได้รับสิทธิประโยชน์ในกรณีต่าง ๆ เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย
เปิดไทม์ไลน์ 3 ระยะ ปรับฐานเงินเดือน-เงินสมทบ
การปรับโครงสร้างใหม่นี้ จะใช้รูปแบบขั้นบันได 3 ระยะ เพื่อทยอยปรับเพดานค่าจ้างที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน จากเดิมที่ใช้เพดานสูงสุดที่ 15,000 บาท มาอย่างยาวนาน โดยมีไทม์ไลน์ดังนี้
- ระยะที่ 1 (ปี 2569 – 2571) ปรับเพดานค่าจ้างเป็น 17,500 บาท (ส่งเงินสมทบสูงสุด 875 บาท/เดือน)
- ระยะที่ 2 (ปี 2572 – 2574) ปรับเพดานค่าจ้างเป็น 20,000 บาท (ส่งเงินสมทบสูงสุด 1,000 บาท/เดือน)
- ระยะที่ 3 (ปี 2575 เป็นต้นไป) ปรับเพดานค่าจ้างเป็น 23,000 บาท (ส่งเงินสมทบสูงสุด 1,150 บาท/เดือน)
จ่ายเพิ่ม-ได้อะไรเพิ่ม? เทียบสิทธิประโยชน์เดิม VS ใหม่ (เฟสแรก)
การปรับเพดานค่าจ้างในระยะแรกที่จะเริ่มในปี 2569 ซึ่งจะทำให้ผู้ที่มีเงินเดือน 17,500 บาทขึ้นไป ต้องจ่ายเงินสมทบเพิ่มจาก 750 บาท เป็น 875 บาทต่อเดือนนั้น จะทำให้ได้รับสิทธิประโยชน์ 6 กรณีเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ ดังนี้
สิทธิประโยชน์ปัจจุบัน (ฐาน 15,000 บาท)
- เงินทดแทนกรณีเจ็บป่วย/ทุพพลภาพ/ว่างงาน 7,500 บาท/เดือน
- เงินสงเคราะห์คลอดบุตร 22,500 บาท/ครั้ง
- เงินสงเคราะห์เสียชีวิต 90,000 บาท
- เงินบำนาญ (ส่ง 15 ปี) 3,000 บาท/เดือน
- เงินบำนาญ (ส่ง 25 ปี) 5,250 บาท/เดือน
สิทธิประโยชน์ใหม่ ปี 2569-2571 (ฐาน 17,500 บาท)
- เงินทดแทนกรณีเจ็บป่วย/ทุพพลภาพ/ว่างงาน 8,750 บาท/เดือน
- เงินสงเคราะห์คลอดบุตร 26,250 บาท/ครั้ง
- เงินสงเคราะห์เสียชีวิต 105,000 บาท
- เงินบำนาญ (ส่ง 15 ปี) 3,500 บาท/เดือน
- เงินบำนาญ (ส่ง 25 ปี) 6,125 บาท/เดือน
การปรับโครงสร้างครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ระบบประกันสังคมมีความยั่งยืน สอดคล้องกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น และเป็นไปตามหลักความเป็นธรรม คือผู้ที่มีรายได้สูงจ่ายเงินสมทบมากขึ้น ก็จะได้รับความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ที่สูงขึ้นเป็นเงาตามตัว ขณะที่ผู้ที่มีรายได้น้อยก็จะยังคงจ่ายเงินสมทบในอัตราเดิมตามฐานเงินเดือนจริง
ที่มา: ประกันสังคม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง