โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ถอดรหัสรูป สติกเกอร์จากแม่ การส่งต่อความรัก คิดถึง ห่วงใย ในรูปแบบดิจิทัล

SpringNews

อัพเดต 5 นาทีที่แล้ว • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สติกเกอร์ ในกลุ่มผู้สูงวัย รวมถึง คุณแม่ของพวกเรา ทุกคนนั้น - ไม่ใช่แค่เรื่องของความน่ารัก แต่ทุกอย่างที่ผ่านปลายนิ้วของแม่ๆเรานั้น เคลือบไปด้วยเหตุผลเชิงจิตวิทยา สังคม และเทคโนโลยีที่น่าสนใจ ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการในการสื่อสารและเชื่อมต่อกับลูกหลานในยุคดิจิทัล อย่างเช่นในปี 2025

เป็นเรื่องปกติที่หลายคนมักจะได้รับ สติกเกอร์ไลน์ (LINE) จากคุณพ่อ คุณแม่ หรือญาติผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการทักทาย "สวัสดีวันจันทร์" ด้วยภาพดอกไม้สีเหลืองสดใส หรือสีชมพูหวานเจ๊๊ยบ หรือการส่งสติกเกอร์รูปการ์ตูนแสดงความรัก ความห่วงใย พฤติกรรมเหล่านี้อาจสร้างความรู้สึกที่หลากหลายให้แก่ผู้รับ แต่เบื้องหลังการกระทำที่ดูเรียบง่ายนั้น มีเหตุผลที่ลึกซึ้งและน่าสนใจซ่อนอยู่

ง่ายกว่าการพิมพ์: อุปสรรคทางเทคโนโลยีสู่ทางออกที่สร้างสรรค์

เหตุผลที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งคือ ความง่ายในการใช้งานของการส่งสติกเกอร์ หรือ การส่งรูปภาพ - สำหรับแม่ของเรา ซึ่งตอนนี้ น่าจะล่วงเลยวัยเกินกว่า 45 ปีกันหมดแล้วนั้น รวมถึง ผู้สูงอายุหลายท่าน การพิมพ์ข้อความยาวๆ บนแป้นพิมพ์สมาร์ตโฟนขนาดเล็กอาจเป็นเรื่องที่ท้าทายและไม่ถนัดนัก

สติกเกอร์ และ การส่ง-แชร์รูปภาพ จึงกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารที่ทรงประสิทธิภาพ สามารถถ่ายทอดความรู้สึกและความหมายได้ครบถ้วนในคลิกเดียว

โดยไม่ต้องเปลืองแรงและเวลาไปกับการพิมพ์ทีละตัวอักษร จากผลการวิจัยของวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่าผู้สูงวัยเลือกใช้ไลน์เป็นอันดับต้นๆ เพราะใช้งานง่าย และเมื่อต้องการโต้ตอบ พวกเขามักจะเลือกส่งสติกเกอร์แทนการพิมพ์

สื่อกลางแสดงความรัก คิดถึง และห่วงใย

ส่วนในเชิงจิตวิทยา - สติกเกอร์ และการส่งรูปภาพ เป็นเครื่องมือที่ดีระดับท็อป ในการแสดงออกทางอารมณ์ โดยเฉพาะความรู้สึกเชิงบวก เช่น ความรัก ความคิดถึง และความห่วงใย ซึ่งบางครั้งอาจเป็นเรื่องยากที่จะสื่อสารออกมาเป็นคำพูดโดยตรง การส่งสติกเกอร์รูปหัวใจ หรือรูปครอบครัวที่อบอุ่น จึงเป็นวิธีที่ง่ายและตรงไปตรงมาในการบอกให้ลูกหลานรู้ว่าพวกเขายังคงอยู่ในความคิดถึงเสมอ

นอกจากนี้ การส่งสติกเกอร์ทักทายในทุกๆ เช้า ยังเป็นเสมือน การเช็คอิน Check-in และการบอกกล่าวว่า"พ่อ/แม่ยังอยู่ดีนะ" "แม่ยังอยู่ตรงนี้นะ" … ซึ่งช่วยคลายความกังวลของทั้งผู้ส่งและผู้รับ สร้างความรู้สึกเชื่อมโยง - มั่นคงในความสัมพันธ์ของครอบครัว แม้จะอยู่ห่างไกลกัน

ลดความเหงา- สร้างการมีส่วนร่วมแม่กับลูก

สำหรับผู้สูงอายุที่อาจต้องใช้ชีวิตตามลำพังหรือมีกิจกรรมทางสังคมลดลง แอปพลิเคชันไลน์และสติกเกอร์ได้กลายเป็นช่องทางสำคัญในการ ติดต่อกับเพื่อนฝูงและเข้าสังคม การได้พูดคุย แลกเปลี่ยนสติกเกอร์กับกลุ่มเพื่อนวัยเดียวกัน ช่วยให้พวกท่านรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม ไม่เหงา และรู้สึกว่าชีวิตยังคงมีความเคลื่อนไหวอยู่เสมอ

วัฒนธรรมไทย - ความสุภาพ และคำอวยพร

ในบริบทของสังคมไทยที่มีวัฒนธรรมเน้นความสุภาพและความปรารถนาดี การส่งสติกเกอร์ "สวัสดี" หรือ "โชคดี" ถือเป็นการแสดงออกถึงมารยาทและความปรารถนาดีต่อกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยให้ความสำคัญ อีกทั้งภาษาไทยยังมีลักษณะที่ไม่หยุดนิ่ง การใช้สติกเกอร์จึงเป็นวิธีที่สะดวกในการสื่อสารและแสดงความรู้สึกที่หลากหลายได้อย่างรวดเร็ว

นี่ไม่ใช่เรื่องที่เกิดกับแม่ๆ ในไทยประเทศเดียว

ปรากฏการณ์ที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องใกล้ตัวในไทยนี้ แท้จริงแล้วเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในลักษณะคล้ายคลึงกันทั่วโลก สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ในการเชื่อมต่อ

อินเดีย : วัฒนธรรมการส่งข้อความ "Good Morning" ผ่านแอป WhatsApp กลายเป็นปรากฏการณ์ระดับชาติ ผู้สูงอายุชาวอินเดียนิยมส่งภาพดอกไม้หรือทิวทัศน์พร้อมคำอวยพรให้แก่เพื่อนและครอบครัวทุกวัน จนเคยทำให้ Google พบว่าการค้นหา "Good Morning images" พุ่งสูงขึ้นอย่างมหาศาลจากอินเดีย เหตุผลหลักก็เช่นเดียวกับไทย คือเพื่อแสดงความปรารถนาดีและสร้างปฏิสัมพันธ์ทางสังคม

เอเชียตะวันออก: ในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของแอปพลิเคชันอย่าง LINE และ KakaoTalk การใช้สติกเกอร์เป็นส่วนหนึ่งของการสื่อสารของคนทุกวัยอยู่แล้ว แต่สำหรับผู้สูงอายุ และบรรดาแม่ๆ มันยังคงทำหน้าที่สำคัญในการลดอุปสรรคทางการพิมพ์และแสดงออกถึงความสุภาพตามวัฒนธรรม

โลกตะวันตก: แม้จะไม่มีธรรมเนียมการส่งภาพ "สวัสดี" แต่ผู้สูงอายุในกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ (Baby Boomers) ในยุโรปและอเมริกาก็มีรูปแบบการสื่อสารดิจิทัลที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น การใช้อีโมจิ (Emoji) อย่างตรงไปตรงมา (❤️, 😊) การใช้เครื่องหมายวรรคตอนเฉพาะตัว (…) หรือการส่งต่อมีม (Meme) และไฟล์ GIF ที่พบเจอในโซเชียลมีเดีย ซึ่งล้วนเป็นวิธีการในการเริ่มต้นบทสนทนาและส่งต่อความรู้สึกดีๆ

อบอุ่นหัวใจในรูปแบบดิจิทัล

ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบของสติกเกอร์ไลน์ในไทย ข้อความ "Good Morning" ในอินเดีย หรืออีโมจิในโลกตะวันตก พฤติกรรมเหล่านี้มีรากฐานร่วมกันคือความปรารถนาที่จะเอาชนะอุปสรรคทางเทคโนโลยี ต่อสู้กับความเหงา และที่สำคัญที่สุดคือการแสดงความรักความห่วงใยต่อคนที่พวกเขารัก

ดังนั้น ครั้งต่อไปที่ ถ้าหาก คน Gen Y เด็ก Gen Z และวัยรุ่นเจน Alpha ได้รับสติกเกอร์ "สวัสดีวันจันทร์" จากคุณแม่ ลองมองให้ลึกลงไปถึงความตั้งใจที่อยู่เบื้องหลังภาพนั้น แล้วเราอาจจะยิ้มรับและรู้สึกอบอุ่นในหัวใจมากกว่าที่เคย

ที่มา : mediumtandfonlinethehindujournals.sagepub

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก SpringNews

5 เหตุผลที่ควรดู “เขมจิราต้องรอด” ซีรีส์โรแมนติกสยองขวัญ เคล้าวัฒนธรรมอีสาน

50 นาทีที่แล้ว

อาคารสูง-คอนกรีต กทม. แหล่งสะสม 'ความร้อน' ภัยเงียบคร่าชีวิต

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

กังฟู จี้รองผู้ว่าฯ อุบล เร่งเบิกงบเยียวยา สร้างบังเกอร์ชายแดน

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"บุ๋ม ปนัดดา" นั่งโฆษก ศบ.ทก. ชน "มาลี โสเจียตา" โฆษกกลาโหมกัมพูชา

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

เมล็ดผลไม้ที่คนไทยกินเสร็จแล้วทิ้ง แต่ที่ญี่ปุ่นขายแพงมาก!

Khaosod

เทรนด์การไว้หนวดปี 2025 สไตล์และเทคนิคใหม่ที่ผู้ชายต้องลอง

sanook.com

AIT โชว์ฟอร์มผลงานครึ่งปีแรก 2568 โตต่อเนื่อง รายได้ 3,431 ล้าน กำไรโต 6% บอร์ดฯจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.15 บาทต่อหุ้น

สยามรัฐ

บอกเลิกอาหารยอดฮิตแต่เป็นพิษ ถ้าไม่อยากแก่เร็วลำไส้เน่า ไตตับพัง เสี่ยงมะเร็ง!?

WOODY WORLD

“จั๋ง PERSES” จากเด็กอ้วนติดหวาน สู่ไอดอลหุ่นลีน กินคลีนจนใจพัง อยากหล่อแต่เกือบเสียสุขภาพจิต

WOODY WORLD

BOWKYLION จับมือเจฟ ซาเตอร์ ปล่อยซิงเกิล ลามปาม (circus) พร้อม MV สุดอาร์ตในธีมคณะละครสัตว์

THE STANDARD

วันจันทร์ที่ 11 สิงหาคม วันหยุดพิเศษ ราชการ ธนาคารได้หยุดไหม

ฐานเศรษฐกิจ

กนภ. ไฟเขียว NDC 3.0 ตั้งเป้าลดก๊าซเรือนกระจก 109.2 ล้านตัน ในปี 2578

กรุงเทพธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...