กองทรัสต์ DTPHREIT จ่ายปันผล 0.1750 รับตลาดท่องเที่ยวหรูฟื้นตัว
กองทรัสต์ DTPHREIT ชี้ตลาดท่องเที่ยวหรูฟื้นตัว โรงแรม-เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ลักชัวรีได้อานิสงส์เชิงบวกจากท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ นักท่องเที่ยวกำลังซื้อสูง-พักอาศัยระยะยาว ดันผลประกอบการไตรมาส 2 โตต่อเนื่องเตรียมจ่ายผลตอบแทน 0.1750 บาทต่อหน่วย
นางสาววนิดา สุขสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีทีพี โกลบอล รีทส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด (DTPRM) กล่าวว่า ด้วยแนวโน้มเชิงบวกของธุรกิจโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ในประเทศไทย ซึ่งได้รับอานิสงส์จากกระแสใหม่ในตลาดลักชัวรี มีการขับเคลื่อนโดยกลุ่มธุรกิจด้านสุขภาพที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และการเติบโตของตลาดกลุ่มที่พักอาศัยแบรนด์หรู หรือ แบรนเด็ด เรสซิเดนส์ (Branded Residence) ปัจจุบันมีขนาดตลาดใหญ่เป็นที่น่าจับตาในเอเชีย สะท้อนให้เห็นความต้องการของลูกค้าที่ชื่นชอบแบรนด์เนมด้านอสังหาฯ
“แนวโน้มของธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ นับได้ว่า ประเทศไทยกำลังเป็นผู้นำตลาด รวมไปถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตกลางแจ้ง และการจัดกิจกรรมสร้างไลฟ์สไตล์ที่ส่งเสริมสุขภาพอย่างยั่งยืน นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะอยู่ต่อนานขึ้น และปรับพฤติกรรมการใช้จ่าย โดยแนวคิดเรื่องการดูแลสุขภาพเพื่ออายุยืนกำลังก้าวขึ้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนตลาดลักชัวรียุคใหม่
โดยเฉพาะในทำเลที่กองทรัสต์ลงทุน ซึ่งยังคงได้รับความนิยมจากทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติ นักธุรกิจ และผู้พำนักระยะยาว ด้วยกลยุทธ์เชิงรุกในการบริหารสินทรัพย์และการรักษาคุณภาพการให้บริการ เราเชื่อมั่นว่ากองทรัสต์จะสามารถรักษาผลการดำเนินงานให้อยู่ในระดับที่ดี และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง”
ทั้งนี้ กองทรัสต์ DTPHREIT ลงทุนในทรัพย์สินคุณภาพสูง 3 แห่ง ได้แก่
- โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯ : โรงแรมระดับหรูย่านราชประสงค์ บริหารโดย HILTON Worldwide มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยปี 2567 อยู่ที่ 64%
- โรงแรมยู เขาใหญ่ : รีสอร์ตสไตล์ฝรั่งเศสในเขาใหญ่ มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยปี 2567 อยู่ที่ 77%
- เซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ แมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด : อพาร์ทเมนท์ในย่านราชประสงค์ บริหารโดย Compass Hospitality มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยปี 2567 สูงถึง 91% ซึ่งกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติและผู้พำนักระยะยาว
ส่งผลต่อเนื่องให้ผลประกอบการไตรมาสสองเติบโตตามเป้าหมาย พร้อมกันนี้กองทรัสต์ได้จ่ายผลประโยชน์ตอบแทนประจำไตรมาส 2/2568 ในอัตรา 0.1750 บาทต่อหน่วยทรัสต์ สอดคล้องกับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและกระแสความนิยมในตลาดลักชัวรีที่เน้นสุขภาพและประสบการณ์