คดีวัดพระบาทน้ำพุ – หมอบี คำให้การยังกลับไปกลับมา แต่หลักฐานมีชัด
บิ๊กเต่า เผยคำให้การกลับไปกลับมา อาจพยายามช่วยกันเอาตัวรอด แต่หลักฐานทางตำรวจมีชัด ไม่หวั่นไหวต่อการให้ข้อมูลผ่านสื่อ
วันนี้ (14 ส.ค 68) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีหมอบี และ วัดพระบาทน้ำพุ ว่า จากคำให้การของหมอบี ตนฟังมาหลายครั้ง แต่ละครั้งแทบจะไม่เหมือนกัน โดยครั้งล่าสุด เหมือนเป็นการโยนไปให้หลวงพ่ออลงกต โดยอ้างว่านำเงินทั้งหมดส่งมอบให้หลวงพ่อ แต่ครั้งแรกบอกว่าแบ่งไว้บางส่วน
ตรงนี้เจ้าหน้าที่กองปราบได้สอบสวนและตรวจสอบโดยให้น้ำหนักกับพยานหลักฐานอื่นประกอบคำให้การ คำให้การถือเป็นเรื่องหนึ่ง แต่หลักฐานอื่นหรือพยานปากคำอื่นๆ ที่เป็นเอกสารก็ต้องนำมาประกอบ ดังนั้นหมอบีจะให้การอย่างไรก็ได้ เราก็รับฟัง
การที่หมอบีให้การในลักษณะนี้ ถือเป็นการพยายามเอาตัวรอด ทั้งที่ตัวเองรู้ว่าอะไรจริงหรือไม่จริง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ มองว่า ต่างคนก็ต่างพยายามที่จะเอาตัวรอด หรืออาจจะพยายามช่วยกันเพื่อให้ตัวเองรอด แต่ข้อมูลและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ตำรวจได้ตรวจสอบมาตลอดอยู่แล้วจึงไม่ค่อยหนักใจ ยิ่งให้ข้อมูลยิ่งเข้าตัว ยิ่งให้ข้อมูลยิ่งกลับไปกลับมาอย่างไรก็ตามใครก็หลีกหนีพยานหลักฐานที่ทางตำรวจได้มาไม่ได้จะมีการเชิญตัวหลวงพ่ออลงกตให้มาให้ข้อมูลเรื่องเส้นเงินหรือไม่ พบ.ต.ต.จรูญเกียรติ ตอบว่า ชุดสืบสวนยังไม่ได้คิดจะเชิญตัวหลวงพ่อ เพราะมีเรื่องที่จะต้องทำอีก
ส่วนเรื่องเส้นทางการเงินที่หมอบีเบิกเงินสด เช่น 3 ล้าน แต่เอาใส่ซองให้กว่า 2 ล้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา หลักฐานหลายอย่างอยู่ในมือชุดสืบสวนแล้ว เพราะฉะนั้นเราไม่ได้หวั่นไหวในการที่ใครจะให้ข้อมูลผ่านสื่อ บางครั้งเรานั่งฟังยังยิ้ม เพราะมีส่วนที่ตรง แต่บางส่วนก็คิดว่า “เรื่องอะไรกัน”
ตำรวจกำลังมองว่าสองคนให้ข้อมูลไม่หมดและอาจมีเรื่องไส้ในอยู่เยอะ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ตอบว่า อาจจะพูดให้ตัวเองพ้นผิด หรือไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องคดี แม้แต่การให้ข่าวแต่ละครั้งยังไม่เหมือนกัน เราก็ให้กำลังใจทั้งหบวงพ่อและหมอบี แต่หากหลวงพ่อมั่นใจ ก็มาพบพนักงานสอบสวนได้ ส่วนจะมีคนผิดหรือไม่นั้น ตนดูแล้วหมิ่นเหม่กับข้อกฎหมาย และต้องย้อนไปตรวจสอบถึงที่มาที่ไป เรื่องเกิดมานานต้องใช้เวลา ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำหน้าที่
ดยเฉพาะพฤติกรรมของหมอบีที่ไปเบิกเงินสดจากธนาคารมาใส่ซองไปให้หลวงพ่อ เป็นพฤติกรรมที่ต่างจากวิญญูชน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า ตอนฟังก็ยิ้มอยู่ เมื่อถามว่าการกระทำแบบนี้ฉลาดหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ตอบว่า ไม่ฉลาด มันผิดปกติ ถ้าการกระทำตรงไปตรงมาจะไม่สลับซับซ้อนหากสลับซับซ้อนต้องซ่อนอะไรไว้ พร้อมย้ำว่าปกติวิญญูชนทำอะไรที่ง่ายและสะดวก ตรงไปตรงมา แค่โอนเงินเข้าบัญชีโดยตรงก็จบไป
ขณะที่หลวงพ่อรับเงินในซองมา ถือว่าศีลเสมอกันหรือไม่นั้น พบ.ต.ต.จรูญเกียรติ ไม่ตอบ พร้อมถอนหายใจก่อนหัวเราะออกมา ก็ไปดูว่าการรับการจ่ายหรือได้เงินมา ทุกอย่างมีขั้นตอน เงินเข้าบัญชี เบิกมาต้องชัดเจนว่าหักไปทำอะไร การที่ไม่นับเลย เดี๋ยวจะกลายเป็นประเภทรู้กันและแบ่งปันผลประโยชน์
เมื่อถามว่าวัดครึ่งหนึ่งกรรมการครึ่งหนึ่ง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ตอบว่า วัดมากกว่า กรรมการนิดหน่อย คือตอนนี้ป็นแค่ข้อสงสัยของชุดสืบสวน และชุดสืบสวนมีหลักฐานมากกว่านี้ ตรงนั้นเป็นคำพูด ไม่สามารถลบหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ได้ ส่วนจะผิดหนึ่งคนหรือผิดสองคน ก็อย่าพึ่งไปพูดแบบนั้น ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews